ประเสริฐ เปิดใจ ไม่มีวันลืม ‘คนเสื้อแดง’ ถูกฆ่าโดยรัฐ ย้อนอดีตต่อสู้มาตั้งแต่ ‘ไทยรักไทย’

‘ประเสริฐ จันทรรวงทอง’ เปิดใจ ไม่มีวันลืม ‘คนเสื้อแดง’ ถูกฆ่าโดยรัฐ ย้อนอดีตต่อสู้ร่วมทุกข์ร่วมสุข มาตั้งแต่ ‘ไทยรักไทย’ จนถึง ‘พรรคเพื่อไทย’ เชิญชวนประชาชนร่วมสร้าง ‘บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม’ ให้กลับมาแข็งแกร่ง

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวบนเวที ‘ครอบครัวเพื่อไทย สมุทรปราการ บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม’ ที่จังหวัดสมุทรปราการ ว่า พรรคเพื่อไทย ไม่ใช่บ้านหลังแรกของพวกเรา แต่เป็นบ้านหลังที่ 3 หลังจากบ้านของเราถูกทุบทำลายไป 2 ครั้ง แต่พวกเขาก็ทุบรื้อได้แค่หลังคา หน้าต่างเพราะโครงสร้างที่ลงเสาเข็มใหญ่ไปแล้วยากที่จะทำลายลงได้
.
นายประเสริฐ กล่าวว่า ที่บ้านหลังแรก ‘ไทยรักไทย’ ก่อตั้งขึ้นในปี 2541 โดยอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร นักธุรกิจคลื่นลูกที่ 3 ที่ฝันอยากทำการเมืองในขณะที่ประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และการเมืองยังอยู่ในยุค ‘การเมืองรองเท้า-ปลาทู’ นักการเมืองหิ้วกระเป๋าเงินไปลงพื้นที่ก็อาจได้เป็น ส.ส. และพรรคการเมืองหาเสียงด้วยเงิน แต่ ‘ไทยรักไทย’ ได้ชักชวนคนหนุ่มสาวให้ทำการเมืองแบบใหม่ โดยอดีตนายกฯทักษิณ ขายไทยรักไทยไว้เพียงสั้นๆ ว่า ‘นโยบายที่ไทยรักไทยจะทำ มีแค่ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส’ ผ่าน 3 นโยบาย คือ พักหนี้เกษตรกร 3 ปี , 30 บาทรักษาทุกโรคและกองทุนหมู่บ้านละล้าน ที่พาไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งครั้งแรก ได้ ส.ส. 248 ที่นั่งและจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ
.
“ชาวบ้านรู้โดยไม่ต้องมีใครบอก พรรคการเมืองมีหัวใจเป็นประชาชน ทำนโยบายที่ทำให้ประชาชนมีชีวิตดีขึ้นได้ยังไง ประชาชนจะกำหนดความเป็นไปของประเทศ ผ่านการแข่งขันของพรรคการเมืองได้ยังไง และเรื่องนี้ไม่ต้องสอนชาวบ้าน เพราะอีก 4 ปีต่อมา ประชาชนได้แสดงเจตนารมณ์ว่า ขอใช้ไทยรักไทยทำงานให้ประเทศต่อ ด้วยแลนด์สไลด์อีกครั้ง 377 เก้าอี้ จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้สำเร็จ” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว
.
นายประเสริฐ กล่าวว่า เหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และการยุบพรรคไทยรักไทย ในวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 ทำลายสมาชิกบ้านไทยรักไทย 14 ล้านเสียง ไปจนถึงดรีมทีมของพรรคที่เป็นคนรุ่นใหม่ 111 คน ต้องถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ถูกให้ออกจากงานในขณะที่บ้านเมืองกำลังเจริญเติบโต
.
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า สมาชิกครอบครัวไทยรักไทยที่เหลืออยู่ได้รวมตัวกันทำกิจกรรมรณรงค์ ‘ไม่รับ – โหวตโน’ รัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งทำให้เห็นว่ายังมีพี่น้องประชาชนที่สนับสนุนเราและร่วมต่อต้านอำนาจเผด็จการ จึงได้เดินทางกันใหม่ในบ้านหลังใหม่ที่ชื่อ ‘พลังประชาชน’ ที่มีนายสมัคร สุนทรเวช’เป็นหัวหน้าพรรค และนายแพทย์สุรพงศ์ สืบวงศ์ลี หนึ่งในทีมไทยรักไทยกลับมารวบรวมสมาชิกที่แตกกระสานซ่านเซ็นให้กลับบ้าน และตั้งใจทำการเมืองกันต่อในเลือดเดิม DNA เดิม สโลแกนบนป้ายหาเสียงคือ ‘นโยบายดีๆ ใครก็พูดได้ แต่คนที่ทำได้อยู่ที่พรรคพลังประชาชน’ ทำให้ชนะการเลือกตั้ง 233 ที่นั่งและได้เป็นรัฐบาลอีกครั้ง แสดงให้เห็นว่าประชาชนยังรักและมั่นใจในเรา สนับสนุนตลอด 3 ยุค 3 สมัยรัฐบาล จากไทยรักไทย1 – ไทยรักไทย 2 และพลังประชาชน
.
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชาชนมีเวลาทำงานเพียง 7-8 เดือนก่อนที่จะถูกยุบพรรคอีกครั้ง แต่เราก็ทำงานอย่างเต็มกำลังภายใต้เงื่อนไขและข้อจำกัด เมื่อพลังประชาชนถูกยุบ เราก็รวมตัวกันมาต่อสู้ใหม่ในบ้านหลังใหม่แต่ DNA เดิมนั่นคือ ‘พรรคเพื่อไทย’ ซึ่งการถูกสั่งให้ยุบพรรคพลังประชาชน ได้ก่อเกิดคนเสื้อแดง สมาชิกครอบครัวของเราที่ร่วมทุกข์และสุขกันมาตั้งแต่ไทยรักไทย
.
“คนเสื้อแดงออกมาปกป้องบ้านและคนที่พวกเขารัก ต่อต้านรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากประชาชน ที่ ณ วันนั้น ไม่มีใครคาดคิดว่าไม่กี่เดือนต่อมา จะเกิดการฆ่า โดยรัฐบาลครั้งใหญ่ในใจกลางเมือง ไม่มีวันไหนที่ผมลืมบรรยากาศในวันนั้น จุดเริ่มต้นที่เพียงแค่พี่น้องคนเสื้อแดงหลั่งไหลกันมาเรียกร้องประชาธิปไตย ต้องการเรียกร้องรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง พวกเขามาเรียกร้องขอหีบเลือกตั้ง แต่สุดท้ายได้หีบศพกลับไป และพวกเรากลายเป็นจำเลยสังคม ไม่มีวันไหนที่ผมจะลืม” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว
.
นายประเสริฐ กล่าวย้ำว่า พรรคไทยรักไทยถูกยุบเราก็ตั้งใหม่ พรรคพลังประชาชนถูกยุบเราก็ตั้งใหม่ และบ้านหลังใหม่หลังนี้ พรรคเพื่อไทย พวกเราและพี่น้องประชาชนได้ร่วมทุกข์ร่วมสุข ล้มลุกคลุกคลานร่วมกันมากที่สุด ตั้งแต่สร้างบ้านมาก็ว่าได้แต่เรายังต้องการสมาชิกมากกว่านี้ สมาชิกที่จะมาร่วมกันสร้างบ้านหลังใหญ่หัวใจเดิมให้แข็งแกร่งกว่าเดิม มาร่วมกันอีกครั้ง