รถร่วม บขส.เสนอขอปรับขึ้นค่าโดยสาร น้ำมันพุ่งกระทบหนัก

รถร่วม บขส.เสนอขอปรับขึ้นค่าโดยสาร น้ำมันพุ่งกระทบหนัก

 

วันที่ 12 พฤษภาคม ที่กรมขนส่งทางบก (ขบ.) ผู้สื่อข่าวรายงงานว่า นายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย พร้อมผู้ประกอบการ เข้าพบ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดี ขบ. ยื่นข้อเสนอให้พิจารณาทบทวน การนำประกาศกรม ตามมติคณะกรรมการกรมการขนส่งทางบกกลาง เมื่อปี 2555 ที่ประกาศใช้โครงสร้างต้นทุนราคาน้ำมันดีเซล เพื่อใช้พิจารณาปรับขึ้นหรือลดอัตราค่าโดยสาร โดยกำหนดว่าหากราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นถึง 1.12 บาทต่อลิตร จะมีการปรับค่าโดยสารขึ้น 1 สตางค์ต่อกิโลเมตร (กม.)

นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า อัตราค่าโดยสารที่กรมการขนส่งฯ ประกาศใช้อยู่ในปัจจุบัน (ประกาศตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2562) คือ 53 สตางค์ต่อกม.ต่อคน ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซล ณ วันที่ปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารอยู่ที่ลิตรละ 27.79 บาท ขณะที่ อยู่ที่ลิตรละ 31.94 บาท และมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 40 บาทต่อลิตร ในไม่ช้านี้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการขนส่งแบกรับภาระต้นทุนที่สูงเกินจริงมาอย่างต่อเนื่อง จึงขอเพียงให้ใช้ประกาศโครงสร้างต้นทุนราคาน้ำมันดีเซลดังกล่าวก่อนผู้ประกอบการจะไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

ด้าน นางสุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร เจ้าของอู่รถเชิดชัยและบริษัทเดินรถเชิดชัยทัวร์ จำกัด กล่าวว่า สมาคมฯ ได้เข้ายื่นหนังสือเพื่อขอปรับอัตราค่าโดยสารอิงตามราคาน้ำมันปัจจุบัน ณ 11 พฤษภาคม 2565 ราคาอยู่ที่ 32 บาทต่อลิตร และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นทุกวัน สมาคมฯ จึงขอปรับอัตราค่าโดยสารเพิ่มขึ้นกิโลเมตรละ 1 สตางค์ต่อน้ำมันขึ้น 1 บาทต่อ 1 ลิตร ดังนั้นจากฐานราคา 27.79 บาท เทียบกับราคาปัจจุบันต่างกันราว 5 บาท ส่งผลให้อัตราค่าโดยสารควรจะได้ปรับเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 5 สตางค์ต่อลิตร

นางสุจินดา กล่าวอีกว่า ตอนนี้น้ำมันเป็นต้นทุนหลัก 60% ของค่าโดยสาร รถโดยสารวิ่งให้บริการ 1 คัน ถ้าจะให้ได้ต้นทุนต้องมีผู้โดยสาร 16 ที่นั่ง และถ้าเกินนั้นก็จะมีรายได้บ้าง เพื่อมาจ่ายต้นทุนอื่นๆ อาทิ ค่ายาง แต่หากภาครัฐไม่ช่วยเหลือเราในส่วนนี้ ทางออกตอนนี้ของเจ๊เกียวก็ยังมีทางออกขายกิจการ ส่วนสมาชิกตอนนี้ก็สู้น้ำมันไม่ไหว ล้มหายตายจากไปเยอะ แต่จะหยุดวิ่งไหมมันก็มีกฎระเบียบข้อบังคับอยู่ คงก็ต้องปฏิบัติตาม

ขณะที่ นายจิรุตม์ กล่าวว่า หลังจากรับฟังข้อเสนอแล้ว เบื้องต้นมีการขอปรับค่าโดยสารขึ้น กก.ละ 1 สตางค์ต่อน้ำมันขึ้น 1 บาทต่อ 1 ลิตร ทาง ขบ.จะนำไปเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางอีกครั้งภายในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อให้คณะกรรมการฯ เป็นผู้พิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารต่อไป

“นอกจากนี้ กรมจะช่วยลดมาตรการด้านค่าใช้จ่าย อาทิ การใช้บัตรคูปองส่วนลดค่าน้ำมันดีเซล 2 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 3 เดือน ใช้งบประมาณ 3,300 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 1,100 ล้านบาทต่อเดือน จะครอบคลุมรถทั้ง 3 ประเภท ประกอบด้วย รถโดยสารประจำทางและไม่ประจำประทาง (รถ30) รวมทั้งรถบรรทุกไม่ประจำทาง อยู่ระหว่างเตรียมเสนอต่อกระทรวงคมนาคมพิจารณา เพื่อประสานงานกับกระทรวงการคลัง และกระพลังงานพิจารณาเรื่องดังกล่าวต่อไป” นายจิรุตม์ กล่าว