เผยแพร่ |
---|
รัฐบาลยูเครนอนุมัติยึดธุรกิจรัสเซียในประเทศ เล็งเปลี่ยนใช้เป็นทุนฟื้นชาติหลังสงคราม ปธน.สหรัฐฯงัดกฎหมายยุคสงครามโลก ส่งอาวุธแบบไม่อั้นเข้าสนับสนุน
วันที่ 11 พฤษภาคม 2565 เดนิส ชไมฮาล นายกรัฐมนตรียูเครน ระบุข้อความผ่านแอปพลิเคชั่นเทเลแกรมเมื่อ 10 พ.ค. ว่ารัฐบาลยูเครนได้อนุมัติการถ่ายโอนทรัพย์สินของธุรกิจรัสเซียที่ลงทุนในยูเครนให้เป็นกรรมสิทธิ์ภายในหน่วยงาน “กองทุนรวมการลงทุนแห่งชาติ” ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของยูเครน เพื่อนำทรัพย์สินของธุรกิจรัสเซียที่ได้จากการยึด ถูกใช้เป็นทุนเพื่อเสริมศักยภาพของกองทัพและเพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานของประเทศจากวิกฤตสงคราม
“เราจะยึดทรัพย์สินทั้งหมดที่รัสเซียเป็นเจ้าของในยูเครน และนำทรัพย์สินเหล่านี้ไปเสริมทัพ ช่วยเหลือประชาชน และสร้างประเทศของเราขึ้นใหม่ … ทั้งประธานาธิบดีและรัฐบาลรัสเซียต้องชดใช้ในสิ่งที่ได้ทำลายไปในยูเครน”
จนถึงตอนนี้ สงครามได้ทำลายล้างเมืองต่าง ๆ ของยูเครน บ้าน โรงเรียน และโรงพยาบาล ถูกโจมตี กองทหารรัสเซียยังถูกเจ้าหน้าที่ยูเครนและชาติตะวันตกอื่น ๆ กล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมสงครามร้ายแรงด้วยการสังหารหมู่พลเรือนผู้บริสุทธิ์
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนกล่าวเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้วว่า นับตั้งแต่สงครามปะทุ รัสเซียได้สร้างความเสียหายอย่างน้อย 6 แสนล้านดอลลาร์ ในบางพื้นที่ กระสุนของรัสเซียได้ทำลายหมู่บ้านและระบบน้ำเกือบทั้งหมู่บ้าน ส่งผลให้หลายแห่งในยูเครนไม่มีทรัพยากรพื้นฐาน
“รัสเซียจะต้องชดใช้ค่าเสียหาย เรารู้ดี พวกเขาทำลายทุกอย่างด้วยตัวเอง” เซเลนสกี กล่าวในตอนหนึ่งของวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในงาน The Wall Street Journal CEO Council Summit 2022
ก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน นายกรัฐมนตรียูเครนกล่าวว่า ขณะนี้ยูเครนกำลังร่วมมือนานาชาติในการยึดทรัพย์สินของรัสเซียเพื่อนำมาเป็นค่าสินไหมทดแทนในการฟื้นฟูยูเครนหลังสิ้นสุดสงคราม โดยว่าเงินทุนจากรัฐบาลและบรรดาผู้มีอำนาจของรัสเซียจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญต่อการบูรณะฟื้นฟูยูเครนให้กลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง
ขณะที่ เว็บไซต์กระทรวงกลาโหมสหรัฐ defense.gov รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารให้ใช้อำนาจตามรัฐบัญญัติการให้ยืม-เช่าเพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตยของยูเครนปี 2022 (Ukraine Democracy Defense Lend-Lease Act of 2022) สำหรับการเดินจัดส่งความช่วยเหลือด้านยุทธโธปกรณ์แบบไม่จำกัดแก่ยูเครน
โจ ไบเดน ให้คำมั่นระหว่างลงนามว่า จะเดินหน้าส่งยุทโธปกรณ์ช่วยยูเครนต่อไป “เพื่อให้พวกเขาต่อสู้และปกป้องอธิปไตยและประเทศชาติของพวกเขา … ราคาของสงครามครั้งนี้ไม่ถูกเลย แต่การยอมก้มให้กับผู้รุกรานมีราคาแพงกว่ามาก”
สำหรับรัฐบัญญัติฉบับนี้ ได้รับความเห็นชอบจากสภาคองเกรสเมื่อเดือนที่แล้วด้วยคะแนนเสียง ส.ส. 417 ต่อ 10 เสียง ทั้งได้เห็นชอบจากสมาชิกวุฒิสภาอย่างเอกฉันท์ ซึ่งจะเป็นการยกเลิกข้อจำกัดการส่งมอบอาวุธและยุทโธปกรณ์แก่ยูเครนหรือยุโรปตะวันออก โดยรัฐบัญญัตินี้จะอนุญาตให้ฝ่ายบริหารจัดส่งอาวุธช่วยยูเครนภายใต้งบประมาณปี 2023 ผ่านการ “เช่าหรือยืม” ยุทโธปกรณ์ชนิดต่าง ๆ แก่ยูเครนและชาติยุโรปตะวันออกอย่างไม่จำกัด แต่ยูเครนหรือชาติยุโรปตะวันออกที่ได้รับยุทโธปกรณ์สหรัฐจะต้องจ่ายค่าอาวุธภายหลังสำหรับชาติที่เช่าหรือยืมอาวุธของสหรัฐ
สำหรับรัฐบัญญัติส่งเสริมการป้องกันสหรัฐ (Lend-Lease Act) เป็นกฎหมายที่ตราขึ้นครั้งแรกในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเป็นกฎหมายที่สหรัฐให้คำมั่นส่งมอบอาวุธยุทโธปรณ์ อาหาร รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิง แก่ชาติยุโรปที่ถูกนาซีรุกราน อาทิ ฝรั่งเศสเสรี สหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐจีน (ในขณะนั้น) สำหรับต่อสู้กับฝ่ายอักษะ
โดยในเวลานั้นสหรัฐได้จัดส่งเสบียงช่วยชาติสัมพันธมิตรเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 50.1 พันล้านดอลลาร์ซึ่งเทียบเท่ากับ 690 พันล้านดอลลาร์ตามมูลค่าในปัจจุบัน แบ่งเป็นช่วยสหราชอาณาจักร 31.4 พันล้านดอลลาร์, 3.2 พันล้านดอลลาร์แก่ฝรั่งเศส, 1.6 พันล้านดอลลาร์ไปยังสาธารณรัฐจีน และกับชาติพันธมิตรอื่น ๆ