เผยแพร่ |
---|
“ถ้าไม่มีบัตรทอง เราคงไม่ได้อยู่ตรงนี้” อดีตคนไข้ถึงกับหลั่งน้ำตา เมื่อได้พบกับ ‘หมอเลี้ยบ’ ผู้ผลักดันโครงการ ‘30 บาทรักษาทุกโรค’ ตัวจริง ‘พรรคเพื่อไทย’ เดินหน้าสานต่อภารกิจด้วยนโยบาย ‘50 เขต 50 โรงพยาบาล’ ดูแลประชาชนทั่วถึงทุกพื้นที่
วันที่ 11 พฤษภาคม 2565 พรรคเพื่อไทยเผยแพร่คลิปวิดีโอ ‘50 เขต 50 โรงพยาบาล ก้าวต่อไปของ 30 บาทรักษาทุกโรค’ ที่ชวนผู้ใช้บัตรทอง 3 คนมาถ่ายทอดประสบการณ์การใช้สิทธิ ‘30 บาทรักษาทุกโรค’ ที่ช่วยชีวิตพวกเขาและครอบครัวเอาไว้ โดยทีมงานทำซึ้ง แอบชวน ‘หมอเลี้ยบ’ หรือ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หนึ่งในคนสำคัญผู้ผลักดันโครงการนี้จนสำเร็จ มาเซอร์ไพรส์กลางกองถ่าย แต่ ‘หมอเลี้ยบ’ โดนเซอร์ไพรส์กลับ ทำเอาน้ำตาซึมไปตามๆ กัน
แขกรับเชิญคนแรกคือ สุธี ณัฏฐวณิช ผู้มาบอกเล่าเรื่องราวเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ตอนที่ภรรยาตั้งครรภ์ลูกชายฝาแฝดโดยมีภาวะรกเกาะต่ำ ซึ่งเป็นเคสที่พบได้น้อย อีกทั้งมีความเสี่ยงที่ระหว่างคลอดอาจเสียชีวิตทั้งแม่และลูก แต่หลังจากเฝ้ารอหน้าห้องคลอดตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ครอบครัวณัฏฐวณิชก็ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา โดยภรรยาของคุณสุธีนั้นปลอดภัยดีแม้จะเสียเลือดปริมาณมาก
“คุณหมอบอกผมว่า เคสภรรยาของคุณ ที่คลอดโรงพยาบาลเอกชนไม่ได้ เพราะว่ารอดก็เป็นล้าน ไม่รอดก็เป็นล้าน ผมก็มารู้ตอนหลังว่า บัตร 30 บาทช่วยเราหลายอย่างเลยนะ” สุธีเล่า
แขกรับเชิญคนที่สอง ชมัยพร แต่งเกลี้ยง เชฟอาหารเพื่อสุขภาพมาเล่าย้อนความให้ฟังถึงการผ่าตัดต่อมไทรอยด์เมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยหลังผ่าตัดเธอต้องใส่สายให้อาหารเกือบ 11 เดือนเพราะกลืนไม่ได้ และกว่าจะกลับมาเปล่งเสียงได้อีกครั้งก็เป็นระยะเวลาเกือบ 1 ปี และทุกวันนี้ก็ยังคงรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยเธอนิยามโมเมนต์ที่กลับมาพูดได้อีกครั้งว่าเหมือนได้ “ชีวิตใหม่”
และแขกรับเชิญคนสุดท้าย อภิรดี โคตรพรหม ผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า มาแชร์ประสบการณ์ที่เคยทำร้ายตัวเองและมีความคิดอยากจบชีวิต ตอนนั้นมีหลายคนแนะนำให้ไปโรงพยาบาลหลายแห่งแต่ค่ารักษาพยาบาลสูงเกินกว่าที่เธอจะจ่ายไหว จนกระทั่งมีเพื่อนคนหนึ่งแนะนำว่าให้ลองไปใช้สิทธิบัตรทองดู
.
“ถ้าไม่มีโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เราคงไม่ได้อยู่ตรงนี้ เหมือนเจอน้ำในทะเลทราย ขอบคุณมากจริงๆ ที่มีโครงการนี้ เพราะไม่งั้นชีวิตเราไปต่อไม่ได้เลย” อภิรดีกล่าว
.
ด้าน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กล่าวด้วยความตื้นตันใจว่า “ผมฟังประสบการณ์ที่แบ่งปันมาก็ดีใจ ทำให้รู้สึกว่าเมื่อ 20 ปีที่แล้วเราได้ทำอะไรที่ดีให้กับเพื่อนมนุษย์ในสังคมเดียวกัน เรารู้ว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่เจ็บป่วยด้วยโรคที่รักษายาก รักษานาน แล้วบางครั้งก็ไม่มีเงิน บางครอบครัวก็ล้มละลายจากการเจ็บป่วย ตอนที่คุณหมอสงวนคิดขึ้นมา และท่านอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตรศึกษามา มันเป็นความฝันที่เราอยากทำให้สำเร็จ เราหวังจะคืนศักดิ์ศรีให้กับทุกคน ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลังจากการเจ็บป่วย”
.
แขกรับเชิญทั้งสามคนนั้นซาบซึ้งใจอย่างมากเมื่อได้เจอกับ นพ.สุรพงษ์ โดยชมัยพรกล่าวว่า “ขอบคุณที่ทำให้กลับมาพูดได้อีกครั้ง” ส่วนอภิรดีสะท้อนความคิดเห็นต่อโครงการ ‘30 บาทรักษาทุกโรค’ ว่า “มันเป็นโครงการที่ดีมาก ทุกคนสามารถไปโรงพยาบาลได้ โดยไร้ความกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลในขณะที่เขาไม่มีจ่ายจริงๆ”
.
ด้านคุณสุธีนั้นแม้ตื้นตันเกินกว่าจะเอ่ยคำใด แต่ได้เซอร์ไพรส์ นพ.สุรพงษ์ กลับด้วยการพาลูกชายฝาแฝดทั้งสองมาสวัสดี “ยินดีนะครับที่สุขภาพแข็งแรงกันทั้งสองคน” นพ.สุรพงษ์กล่าวท่ามกลางความซาบซึ้งยินดีของทุกคนในกองถ่าย
.
ทั้งนี้ ‘30 บาทรักษาทุกโรค’ หรือ ‘โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า’ นั้นมีที่มาจากแนวคิดของ นพ. สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ และดำเนินการทั่วประเทศเมื่อ พ.ศ. 2545 ด้วยการผลักดันจากอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี
.
ในแง่ความสำเร็จนั้นมีงานวิจัยระบุว่า โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ทำให้อายุขัยโดยเฉลี่ยของคนไทยค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเดิม 71 ปีใน พ.ศ. 2545 เป็น 74 ปีใน พ.ศ. 2555 ขณะเดียวกันก็ทำให้อัตราการตายของเด็กและทารกลดลง 13% – 30% เมื่อเปรียบเทียบระยะเวลา 1 ปีระหว่างก่อนและหลังการเริ่มโครงการ
.
สำหรับนโยบาย ‘50 เขต 50 โรงพยาบาล’ นั้นจะเป็นการต่อยอดจาก ‘30 บาทรักษาทุกโรค’ และเป็นการแก้ปัญหาเตียงไม่พอ รอนาน โดยพรรคเพื่อไทยเสนอให้สภา กทม. รับงบประมาณ 15,000 ล้านบาทต่อปีจากกองทุนประกันสุขภาพมาบริหารจัดการเพื่อดูแลสุขภาพของคนกรุงเทพฯ โดยสามารถใช้เงินก้อนนี้สร้างโรงพยาบาลชุมชนสังกัด กทม. ขนาด 120 เตียงอย่างน้อยเขตละ 1 แห่ง
.
‘30 บาทรักษาทุกโรค’ พรรคเพื่อไทยยังทำมาแล้ว ‘50 เขต 50 โรงพยาบาล’ เป็นจริงได้ เพียงเลือกเพื่อไทยเข้าไปเป็น ส.ก. เกินครึ่งสภา กทม.
.
22 พฤษภาคมนี้ เลือกเพื่อไทย เลือกอนาคตที่มั่งคั่งให้คนกรุงเทพฯ