สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา อัยการของนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยว่ากำลังดำเนินการสอบสวนสืบหาข้อเท็จจริง หลังจากพบห้องสุขาในธนาคารแห่งหนึ่ง และห้องสุขาในร้านอาหารอีก 3 แห่ง ในนครเจนีวา เกิดการอุดตันเนื่องจากมีธนบัตรยูโรรวมมูลค่าราว 100,000 ดอลลาร์ (ราว 3,320,000 บาท) ถูกทิ้งและชักโครกลงในโถส้วม

วินเซนต์ ดูรัวแอนด์ โฆษกสำนักงานอัยการ กล่าวว่า “เราไม่ได้สนใจเรื่องเจตนา หรือแรงจูงใจ แต่เราต้องการให้มั่นใจเรื่องที่มาของเงินเหล่านี้” ทั้งนี้วินเซนต์ยังกล่าวด้วยว่า ไม่ว่าจะเป็นการทิ้งเงิน หรือทำให้ห้องน้ำเกิดการอุดตัน ไม่ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายในสวิตเซอร์แลนด์

ทั้งนี้หนังสือพิมพ์เดอ ทริบูน เดอ เจนีวา ซึ่งเป็นสื่อเจ้าแรกที่รายงานข่าวนี้ ระบุว่า มีการชักโครกเงินทิ้งโถส้วมที่ห้องสุขาในธนาคารยูบีเอส ในย่านธุรกิจของนครเจนีวา เป็นที่แรก จากนั้นอีก 2-3 วันต่อมา ก็พบเหตุการณ์แบบนี้อีก โดยพบธนบัตรใบละ 500 ยูโร ถูกชักโครกทิ้งลงโถส้วมในห้องสุขาของร้านอาหารอีก 3 แห่ง ที่อยู่ไม่ไกลจากธนาคารยูบีเอสกระทั่งทำให้ส้วมตัน

อย่างไรก็ตาม นายวินเซนต์เปิดเผยว่า มีคน 2 คนตกลงยินยอมชดใช้ค่าเสียหายที่ทำให้ห้องสุขาเกิดการอุดตันให้แก่เจ้าของร้านอาหาร ซึ่งได้ถอนแจ้งความสำหรับเหตุการณ์นี้ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

โฆษกของสำนักงานอัยการ กล่าวว่า สำหรับเงินจำนวนมากที่ยึดไว้ระหว่างมีการสอบสวนนี้ ยังไม่ทราบว่าเป็นเงินผิดกฎหมายหรือไม่ และยังไม่รู้ว่าใครจะมีสิทธิได้เงินจำนวนนี้ไป ถ้าหากผลการสอบสวนออกมาว่าเป็นเงินที่ได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

อนึ่งจากข่าวว่า เมื่อปีที่แล้ว ธนาคารกลางยุโรปได้ประกาศยกเลิกการใช้ธนบัตรใบละ 500 ยูโร เนื่องจากมีมูลค่าสูง และพบว่าถูกนำไปใช้ในธุรกิจผิดกฎหมายอยู่บ่อยๆ รวมทั้งในการฟอกเงินผิดกฎหมาย