กำลัง 3 ฝ่ายเฝ้าระวังเข้ม หลังพบสัญญาณกลุ่มแนวร่วมเคลื่อนไหวผิดปกติใน 3 จังหวัดชายแดนใต้

มีคำสั่งให้กำลัง 3 ฝ่าย สนธิกำลังเฝ้าระวังป้องกันตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา หลังการข่าวยังคงแจ้งเตือนพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวรวมและระดับหัวหน้าสั่งการเคลื่อนไหวผิดปกติพร้อมกันหลายจุดทั่ว จชต.

เมื่อวันที่ 19 กันยายน กำลังร่วม 3 ฝ่าย ยังคงเพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเฝ้าระวังป้องกันกลุ่มคนร้ายก่อเหตุรุนแรง เนื่องจากทางการข่าวยังคงแจ้งเตือนพบการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบยังคงมีการเคลื่อนไหวในหลายท้องที่ต่อเนื่องพร้อมกันในหลายพื้นที่อย่างผิดปกติ คาดว่ามีการระดมเตรียมการก่อเหตุสร้างสถานการณ์วุ่นวายในหลายท้องที่ โดยเฉพาะการก่อเหตุระเบิดป่วนและซุ่มโจมตีกำลังต่างๆ ขณะปฏิบัติหน้าที่

ล่าสุดพื้นที่ จ.ยะลา จากรายงานยังพบกลุ่มของนายอาดัม มุสอดี แกนนำสั่งการและปฏิบัติการได้ปรากฏตัวและเคลื่อนไหวพบปะกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่หมู่ 5 บ.ลาแล ต.กาบัง อ.กาบัง อย่างต่อเนื่อง คาดว่ายังคงมีความพยายามจะประชุมวางแผนก่อเหตุสร้างสถานการณ์หวังทำร้ายและแย่งชิงอาวุธของทางราชการ โดยมีการเน้นย้ำเฝ้าระวัง อาจจะก่อเหตุบริเวณถนนสายยือนัง-บันนังดามา และบนถนนสายลูโบ้ปันยัง-บันนังดามา ต.กาบัง อ.กาบัง ถึง 25 กันยายน และเพื่อต้องการก่อเหตุสร้างสถานการณ์เชิงสัญลักษณ์

พื้นที่ อ.ปะแต อ.ยะหา ยังพบการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อเหตุรุนแรง กลุ่มนายกามารูซามาน อับดุลเลาะ เป็นชุดปฏิบัติการในพื้นที่ อ.ยะหา ได้ออกมาเคลื่อนไหวในพื้นที่ บ.ฮูยงซูแงต บาโร๊ะ เพื่อเตรียมก่อเหตุดักซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ขณะออกลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยเส้นทาง

พื้นที่ จ.ปัตตานี ได้รับรายงานปรากฏข่าวสารความเคลื่อนไหวของนายอันวา กอแล หรือจิวา สมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ มีการเข้ามาเคลื่อนไหว หลบซ่อน พักพิงอยู่ตามบ้านแนวร่วมในพื้นที่ ต.กอลำ ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง โดยมีการวางแผนเตรียมการก่อเหตุมุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนกลุ่มอ่อนแอ ที่ใช้เส้นทางระหว่าง อ.ยะรัง-อ.มายอ เพื่อตอบโต้การปฏิบัติของฝ่ายเจ้าหน้าที่ในการเข้าพิสูจน์ทราบเป้าหมายสมาชิกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่หลายรายที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่า กลุ่มสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงได้เข้ามาร่วมประชุมวางแผนในพื้นที่หมู่ 6 บ.ปะกาลือสง ต.ตุยง อ.หนองจิก เพื่อวางแผนก่อเหตุลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐ และกลุ่มเป้าหมายอ่อนแอ ในพื้นที่ ต.ดอนรัก ต.ตุยง และ ต.บ่อทอง อ.หนองจิก ให้ห้วงตั้งแต่ 18-28 ก.ย.นี้

ขณะที่เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา นายไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมืองปัตตานี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยกำลังร่วม 3 ฝ่าย ที่เข้าเวรยามเฝ้าระวังป้องกันเหตุสร้างสถานการณ์ ตามจุดตรวจจุดสกัดต่างๆ รวมถึงชุดดูแลความปลอดภัยหมู่บ้านที่เข้าเวรยามตามสถานที่ราชการทั้งโรงเรียน สถานีอนามัย หรือสถานที่ราชการต่างๆ เพื่อสอบถามปัญหาอุปสรรค์และสิ่งของความจำเป็นให้ช่วยเหลือต่อการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ ได้กำชับให้กำลังพลทุกฝ่ายมีความพร้อมต่อการปฏิบัติหน้าที่ สามารถโต้ตอบและแก้ไขสถานการณ์ความวุ่นวายได้ทุกสถานการณ์ในยามเกิดเหตุการณ์ รวมถึงตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์เครื่องมือส่องสว่างต่างๆ รวมถึงกล้องวงจรปิดให้อยู่ในความพร้อมใช้งาน

นายไชยพรกล่าวว่า ยังคงให้กำลังพลทุกฝ่ายมีความพร้อมในการปฏิบัติงานอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ หลังจากหน่วยงานด้านความมั่นคงต่างแจ้งเตือนให้ทุกหน่วยพร้อมเฝ้าระวังป้องกัน หลังพบกลุ่มก่อเหตุรุนแรงมีความพยายามจะก่อเหตุในพื้นที่เขตเมืองชั้นในอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในส่วนของสถานที่ราชการก็เน้นย้ำให้มีความพร้อม แบ่งหน้าที่ออกตรวจตราป้องกันไม่ให้มีสถานการณ์อันใดเกิดขึ้น โดยการปฏิบัติเน้นย้ำต้องมีความเข้มตลอด 24 ชั่วโมง

มีคำสั่งให้กำลัง 3 ฝ่าย สนธิกำลังเฝ้าระวังป้องกันตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา หลังการข่าวยังคงแจ้งเตือนพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวรวมและระดับหัวหน้าสั่งการเคลื่อนไหวผิดปกติพร้อมกันหลายจุดทั่ว จชต.

เมื่อวันที่ 19 กันยายน กำลังร่วม 3 ฝ่าย ยังคงเพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเฝ้าระวังป้องกันกลุ่มคนร้ายก่อเหตุรุนแรง เนื่องจากทางการข่าวยังคงแจ้งเตือนพบการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบยังคงมีการเคลื่อนไหวในหลายท้องที่ต่อเนื่องพร้อมกันในหลายพื้นที่อย่างผิดปกติ คาดว่ามีการระดมเตรียมการก่อเหตุสร้างสถานการณ์วุ่นวายในหลายท้องที่ โดยเฉพาะการก่อเหตุระเบิดป่วนและซุ่มโจมตีกำลังต่างๆ ขณะปฏิบัติหน้าที่

ล่าสุดพื้นที่ จ.ยะลา จากรายงานยังพบกลุ่มของนายอาดัม มุสอดี แกนนำสั่งการและปฏิบัติการได้ปรากฏตัวและเคลื่อนไหวพบปะกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่หมู่ 5 บ.ลาแล ต.กาบัง อ.กาบัง อย่างต่อเนื่อง คาดว่ายังคงมีความพยายามจะประชุมวางแผนก่อเหตุสร้างสถานการณ์หวังทำร้ายและแย่งชิงอาวุธของทางราชการ โดยมีการเน้นย้ำเฝ้าระวัง อาจจะก่อเหตุบริเวณถนนสายยือนัง-บันนังดามา และบนถนนสายลูโบ้ปันยัง-บันนังดามา ต.กาบัง อ.กาบัง ถึง 25 กันยายน และเพื่อต้องการก่อเหตุสร้างสถานการณ์เชิงสัญลักษณ์

พื้นที่ อ.ปะแต อ.ยะหา ยังพบการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อเหตุรุนแรง กลุ่มนายกามารูซามาน อับดุลเลาะ เป็นชุดปฏิบัติการในพื้นที่ อ.ยะหา ได้ออกมาเคลื่อนไหวในพื้นที่ บ.ฮูยงซูแงต บาโร๊ะ เพื่อเตรียมก่อเหตุดักซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ขณะออกลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยเส้นทาง

พื้นที่ จ.ปัตตานี ได้รับรายงานปรากฏข่าวสารความเคลื่อนไหวของนายอันวา กอแล หรือจิวา สมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ มีการเข้ามาเคลื่อนไหว หลบซ่อน พักพิงอยู่ตามบ้านแนวร่วมในพื้นที่ ต.กอลำ ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง โดยมีการวางแผนเตรียมการก่อเหตุมุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนกลุ่มอ่อนแอ ที่ใช้เส้นทางระหว่าง อ.ยะรัง-อ.มายอ เพื่อตอบโต้การปฏิบัติของฝ่ายเจ้าหน้าที่ในการเข้าพิสูจน์ทราบเป้าหมายสมาชิกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่หลายรายที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่า กลุ่มสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงได้เข้ามาร่วมประชุมวางแผนในพื้นที่หมู่ 6 บ.ปะกาลือสง ต.ตุยง อ.หนองจิก เพื่อวางแผนก่อเหตุลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐ และกลุ่มเป้าหมายอ่อนแอ ในพื้นที่ ต.ดอนรัก ต.ตุยง และ ต.บ่อทอง อ.หนองจิก ให้ห้วงตั้งแต่ 18-28 ก.ย.นี้

ขณะที่เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา นายไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมืองปัตตานี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยกำลังร่วม 3 ฝ่าย ที่เข้าเวรยามเฝ้าระวังป้องกันเหตุสร้างสถานการณ์ ตามจุดตรวจจุดสกัดต่างๆ รวมถึงชุดดูแลความปลอดภัยหมู่บ้านที่เข้าเวรยามตามสถานที่ราชการทั้งโรงเรียน สถานีอนามัย หรือสถานที่ราชการต่างๆ เพื่อสอบถามปัญหาอุปสรรค์และสิ่งของความจำเป็นให้ช่วยเหลือต่อการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ ได้กำชับให้กำลังพลทุกฝ่ายมีความพร้อมต่อการปฏิบัติหน้าที่ สามารถโต้ตอบและแก้ไขสถานการณ์ความวุ่นวายได้ทุกสถานการณ์ในยามเกิดเหตุการณ์ รวมถึงตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์เครื่องมือส่องสว่างต่างๆ รวมถึงกล้องวงจรปิดให้อยู่ในความพร้อมใช้งาน

นายไชยพรกล่าวว่า ยังคงให้กำลังพลทุกฝ่ายมีความพร้อมในการปฏิบัติงานอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ หลังจากหน่วยงานด้านความมั่นคงต่างแจ้งเตือนให้ทุกหน่วยพร้อมเฝ้าระวังป้องกัน หลังพบกลุ่มก่อเหตุรุนแรงมีความพยายามจะก่อเหตุในพื้นที่เขตเมืองชั้นในอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในส่วนของสถานที่ราชการก็เน้นย้ำให้มีความพร้อม แบ่งหน้าที่ออกตรวจตราป้องกันไม่ให้มีสถานการณ์อันใดเกิดขึ้น โดยการปฏิบัติเน้นย้ำต้องมีความเข้มตลอด 24 ชั่วโมง