ผบ.ตร.ตั้งคณะพนักงานสอบสวนเอาผิดก๊วนทัวร์ศูนย์เหรียญ เลี่ยงภาษี 7 พันล้าน

เมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.) กล่าวถึงกรณีกรมสรรพากรร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีบุคคลและนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีทัวร์ศูนย์เหรียญหลบเลี่ยงภาษี มูลค่ารวม7,000 ล้านบาท ว่า คดีนี้ ปอศ.ได้เสนอเรื่องยัง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ล่าสุด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีคำสั่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าวขึ้นมาโดยเฉพาะ โดยมี พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผบ.ตร.รับผิดชอบงานกฎหมาย เป็นหัวหน้า ซึ่งจะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด เพราะเป็นคดีที่รัฐบาลให้ความสำคัญเนื่องจากส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ส่วนรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับคดี รวมทั้งมูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าพยานหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดผู้ที่ถูกกล่าวหาได้ เนื่องจากคดีนี้หน่วยงานของรัฐเป็นผู้เสียหาย ก่อนหน้านี้กรมสรรพากรได้มอบพยานหลักฐานส่วนหนึ่งให้กับทางตำรวจด้วย

พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพบานหลักฐาน เพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยพล.อ.ปรยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและผบ.ตร.กำชับให้ดำเนินการอย่างตรงมา ตามพยานหลักฐาน และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สำหรับคดีนี้มีเอกสารต้องตรวจสอบเป็นจำนวนมากจึงต้องใช้เวลาในการดำเนินการ อย่างไรก็ตามมีการสอบปากคำฝ่ายผู้ร้องไปแล้วหลายปาก แต่ยังไม่มีการสอบปากคำฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด ยืนยันตำรวจจะดำเนินการอย่างรอบคอบในทุกมิติ สำหรับวิธีการหลบเลี่ยงไม่มีอะไรซับซ้อนโดยมีการแจ้งรายได้ต่ำกว่าความเป็นจริง

ส่วนกรณีศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง 13 จำเลยในคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ กล่าวว่า คดียังไม่ถึงที่สุด ตามขั้นตอนของกฎหมายพนักงานอัยการมีเวลา 30 วันในการอุทธรณ์คำพิพากษา ขณะนี้ต้องรอว่าพนักงานอัยการจะอุทธรณ์คดีหรือไม่ อย่างไรก็ตามแม้ว่าขณะนี้จะเลยขั้นตอนของชั้นพนักงานสอบสวนไปแล้ว แต่หากพนักงานอัยการต้องการให้มีการรวบพยานหลักฐานหรือสอบเพิ่มในประเด็นใด ตำรวจก็พร้อมดำเนินการอย่างเต็มที่