‘ไทยสร้างไทย’ ลั่นนโยบายปลดปล่อย-เพิ่มพลังเศรษฐกิจให้คนกรุง ชูปลดล็อกกม.-ใบอนุญาตขวางทางทำมาหากิน

ศิธา – สุดารัตน์ ประกาศ liberate และ Empower ให้คนกรุง ปลดล็อคกฎหมายและใบอนุญาตที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นการทำมาหากินของประชาชน เพื่อให้ทุกคนลุกขึ้นมาทำมาหากินได้สะดวกรวดเร็ว ยันทำได้ทันที ถ้าประชาชนให้ความไว้วางใจ เพื่อ”สร้างพลัง สร้างโอกาส สร้างรายได้ให้คนกรุงเทพฯ” 

 

วันที่ 11 เมษายน 2565 เมื่อเวลา 11.11 น.ที่ พรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่ากทม.หมายเลข 11 พรรคไทยสร้างไทย แถลงนโยบายปลดปล่อยและเพิ่มพลังเศรษฐกิจให้คนกรุงเทพฯ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาทำมาหากินได้สะดวกและรวดเร็วที่สุด

ด้วยการปลดล็อคกฎหมายและใบอนุญาตที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นการทำมาหากินของประชาชนอย่างจริงจัง ซึ่งปัจจุบันมีกฎหมายใบอนุญาตที่ขัดขวางการทำมาหากินกว่า 1,000 ฉบับ ดังนั้นพรรค ไทยสร้างไทยจะทำการปลดล็อคและพักใบอนุญาตเหล่านี้ไว้กว่า 1,000 ฉบับ ชั่วคราว 3-5 ปี โดยเฉพาะในส่วน ที่เป็นอำนาจของกทม. จะทำทันที ใช้พื้นที่กทม. เป็นพื้นที่นำร่อง สร้าง Bangkok Legal sandbox เพื่อให้คนกรุงเทพฯได้กลับมาทำมาหากินได้เร็วที่สุด และส่วนที่อยู่นอกเหนืออำนาจของกทม. พรรคไทยสร้างไทยจะประสานงานในสภาและระดับรัฐบาลต่อไป ตัวอย่างเช่นอุปสรรคของคนทําคราฟต์เบียร์ ตนจะปลดล็อคให้กรุงเทพฯเป็นเมืองคราฟต์เบียร์

จากนั้นจะเป็นการสร้างพลัง สร้างโอกาส สร้างรายได้ให้คนกรุงเทพฯ โดยตนจะสร้างกรุงเทพฯให้เป็นเมืองหลวงของ Street Food ของโลก ที่มีมาตรฐานความสะอาด เพื่อให้ผู้คนมีพื้นที่ทำมาหากิน สามารถสร้างรายได้ เป็นตลาด Street Foodตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มพื้นที่ค้าขายให้คนกรุงเทพฯ ด้วยการเช่าตึกหรือพื้นที่ที่ปิดตัวจำนวนมาก ทำสกายวอล์คเชื่อมถนนต่างๆ ให้คนเดินในร่มและเป็นการเพิ่มสถานที่ค้าขาย

และที่สำคัญจะสร้างให้คนกรุงเทพฯ เข้าถึงแหล่งทุนด้วย “กองทุนเครดิตประชาชนเพื่อคนตัวเล็ก” ให้ตั้งตัวได้ เป็นการล้างหนี้นอกระบบแสนโหด โดยสามารถกู้ได้ตั้งแต่ 5,000 ถึง 50,000 บาท ดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 1ต่อเดือน ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนตั้งตัวได้

นอกจากนี้ตนจะสร้าง Bangkok creative City ให้ เป็นกรุงเทพฯแห่งการสร้างสรรค์ นำวัฒนธรรมมาสร้างเศรษฐกิจด้วยการจัดอีเว้นท์ 12 เดือน 12อีเว้นท์ สร้างรายได้ตลอดทั้งปีให้เกิดขึ้นทุกเดือนในทุกเขต

“ที่สำคัญผมจะเป็นผู้ว่ากทม.คนแรก ที่สร้างอำนาจให้คนกรุงเทพฯมีส่วนร่วมบริหารงบประมาณ ตรวจสอบงบประมาณและให้คะแนนข้าราชการ ผมจะใช้งบประมาณกทม. ซึ่งเป็นเงินภาษีอากรของคนกรุงเทพฯอย่างคุ้มค่าและโปร่งใสที่สุด โดยให้คนกรุงเทพฯได้มีส่วนร่วม และตรวจสอบ ด้วยระบบDAO (Decentralized Autonomous Organization) ซึ่งเป็น ระบบบล็อกเชน เพื่อกำจัดคอรัปชั่น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กทม. สามารถให้คะแนนตรวจสอบประเมินความสามารถของทุกหน่วยงานของกรุงเทพฯหรือแม้กระทั่งตัวผมเองได้” น.ต.ศิธา กล่าว

สำหรับระบบดังกล่าวจะมีความโปร่งใส รัดกุม รับประกันความปลอดภัยของข้อมูล ที่สำคัญ ข้าราชการของตนจะต้องเป็นข้าราชการที่รับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง ต้องทำงานเพื่อประชาชน งบประมาณทุกบาทของกทม. จะต้องถูกใช้ให้ตรงกับความต้องการของคนกรุงเทพฯ คุ้มค่าและโปร่งใสมากที่สุด คนกรุงเทพฯต้องได้รับบริการที่ดีขึ้น ไม่จำเป็นต้องมาเอาใจผู้ว่าฯหรือผอ.เขต แต่ผู้ว่าและข้าราชการกทม.ทุกคนต้องเอาใจประชาชน