เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2560 ที่ประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ตำบลชีน้ำร้าย อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายนำชัย พรหมมีชัย รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว นายสุรเดช เตียวตระกูล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน นายมีศักดิ์ ภักดีคง รองอธิบดีกรมประมง เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการติดตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ โดยมี พันตำรวจโท หม่อมหลวง กิติบดี ประวิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ได้กล่าวต้อนรับพร้อมนำเสนอข้อมูลพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี นายเสถียร เขียนสาร์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดสิงห์บุรี และหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมต้อนรับในครั้งนี้ด้วย

ดร.ทองเปลว กล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานกรมชลประทานในพื้นที่ปรับปฏิทินการส่งน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มต่ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างให้ทำนาปีเร็วขึ้น เพื่อให้เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม หลีกเลี่ยงน้ำหลากในเดือนกันยายนของทุกปี เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวแล้วเสร็จ พื้นที่ลุ่มต่ำจะเป็นที่เก็บน้ำในช่วงน้ำหลาก ลดปริมาณน้ำที่จะไปทำให้เกิดอุทกภัย เป็นแหล่งขยายพันธุ์สัตว์น้ำ และใช้เป็นน้ำต้นทุนสำหรับปลูกพืชฤดูแล้ง

ในอดีตที่ผ่านมาได้ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก นาข้าวได้รับความเสียหายอยู่เป็นประจำ ในการทำนาปี 2560 พื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งเชียงราก ได้เก็บเกี่ยวแล้วเสร็จทั้งหมดในเดือนสิงหาคม ไม่มีพื้นที่เพาะปลูกได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม แสดงให้เห็นถึงผลสัมฤทธิ์ของนโยบายการบริหารจัดการน้ำเพื่อสนับสนุนการเพาะปลูกนาปี 2560

นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า กรมการข้าวได้จัดระบบการปลูกข้าวให้สอดคล้องกับการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ แนะนำให้เกษตรกรปลูกข้าวอายุน้อยกว่า 110 วัน เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับพื้นที่ โดยใช้พันธุ์ข้าว กข 57, กข 41 ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรชาวจังหวัดสิงห์บุรีนิยมปลูกอยู่แล้ว

นายมีศักดิ์ ภักดีคง รองอธิบดีกรมประมง ได้กล่าวว่า กรมประมงได้ดำเนินโครงการปล่อยน้ำเข้านา ปล่อยปลาลงทุ่ง เพื่อฟื้นฟูพันธุ์สัตว์น้ำ ซึ่งประตูระบายน้ำบางโฉมศรี เป็น 1 ใน 12 ทุ่ง ขณะนี้ได้ดำเนินการปล่อยปลาลงทุ่งไปแล้วจำนวน 4.8 ล้านตัว และในวันนี้ได้นำพันธุ์ปลามาปล่อยเพิ่มเติม จำนวน 100,000 ตัว ได้แก่ ยี่สกเทศ จำนวน 96,000 ตัว ปลานวลจัน จำนวน 2,000 ตัว ปลาช่อน จำนวน 2,000 ตัว คาดว่าเกษตรกรจะมีรายได้จากการจับสัตว์น้ำ 1 ล้านบาท ผลผลิตสัตว์น้ำในทุ่งเพิ่มขึ้น 6-10%

ในการนี้ พลเอกฉัตรชัยฯ กล่าวได้กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความห่วงใยเกษตรกรในพื้นที่ มุ่งมันที่จะผลักดันการทำเกษตรของประเทศไทย ให้มีประสิทธิภาพ เรามีแผนการทำงานที่ชัดเจน ทั้งระยะสั้นและระยาว อยากเห็นเกษตรกรทำเกษตรแล้วมีความสุข เกิดความภาคภูมิใจในอาชีพเกษตรกร และมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพ ภายใต้หลักเศรษฐกิจพอเพียง อยากให้เกษตรกรเดินหน้าไปพร้อมกัน