เลือกตั้ง กทม. : หลากสีสัน พ.ท.ส่ง 50 สมัคร ส.ก. ภรรยา ‘ลูกนัท’ ชิมลาง ลงชิง ส.ก.สวนหลวง

เพื่อไทยนำ 50 ผู้สมัครส.ก.สมัครศึกเลือกตั้ง โต้ฮั้ว’ชัชชาติ’ ไม่ตั้งเป้า-ให้ประชาชนตัดสิน มั่นใจว่าไม่ว่าใครจะเป็นผู้ว่ากทม. จะผลักดันนโยบายของพรรคได้ “แอนนา” ภรรยา “ไฮโซลูกนัท” ลงสมัครชิงเก้าอี้ ส.ก. เขตสวนหลวง เชื่อจะได้รับการตอบรับที่ดี เป็นจุดเริ่มต้นเข้าสู่สนามการเมือง ชัชชาติ ยันได้เบอร์ 8 ดี อินฟินิตี้ พลังผู้ว่าฯ กทม.ไม่หยุดหย่อน ลุยหาเสียงอนุสาวรีย์ชัยทันที

 

วันที่ 31 มี.ค. นายชัยเกษม นิติศิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานโซน 2 กทม. และผอ.การเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคเพื่อไทย นำว่าที่ผู้สมัครส.ก.ทั้ง 50 เขตของพรรค เดินทางด้วยรถบัสมารับสมัครอย่างพร้อมเพรียง

นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า มั่นใจว่าผู้สมัครส.ก.พรรคเพื่อไทยทั้ง 50 เขต จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน เนื่องจากลงพื้นที่ทำงานคลุกคลีกับประชาชนมายาวนาน อีกทั้งนโยบายของผู้สมัครเป็นนโยบายที่ทำร่วมกันกับพรรคเพื่อไทย ไม่ได้วางเป้าจำนวนเท่าไหร่ แต่ขอให้ได้มากที่สุด

เมื่อถามว่านายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ไม่ได้ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย จะทำให้เสียเปรียบหรือไม่ นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า นายชัชชาติเคยเป็นแคนดิเดตนายกฯทำงานกับพรรคเพื่อไทยมายาวนานและนโยบายสอดคล้องกับพรรคเพื่อไทย จึงคิดว่าไม่ทำให้เกิดปัญหากับพรรคเพื่อไทย ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง โดยมั่นใจว่าไม่ว่าใครจะเป็นผู้ว่ากทม. เราจะสามารถผลักดันนโยบายของพรรคได้

เมื่อถามถึงที่มีการมองว่ามีการฮั้วกันระหว่างเพื่อไทยกับนายชัชชาติ นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า ไม่อยากให้ใช้คำว่าฮั้วกัน เพราะประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน

ด้าน “แอนนา” หทัยรัตน์ วิทยพูม ภรรยาของ “ไฮโซลูกนัท” นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ได้เดินทางสมัคร ส.ก. เขตสวนหลวง พรรครวมไทยยูไนเต็ด

แอนนา กล่าาว่า วันนี้มาลงสมัคร ส.ก. เขตสวนหลวง ตนตั้งใจว่าจะมาพัฒนาและทำให้ประชาชน เขตสวนหลวง และพัฒนาทำให้ กทม. เป็นเมืองที่คน กทม. ภูมิใจ จึงอยากเริ่มต้นจากที่อยู่อาศัยของตัวเองก่อน โดยตนคาดหวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี ตอนมั่นใจมาก ตนคิดว่าจะทำให้เต็มที่ และเป็นจุดเริ่มต้นที่เข้าการเมือง

ทางด้าน ไอโซลูกนัท กล่าวว่า ยุคนี้ต้องสนับสนุนภรรยา นี่เป็นการตัดสินใจของภรรยา ผ่านการชักชวนของ นายวรนัยน์ วานิชกะ หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด เป็นโอกาสที่ดีและอุดมการตรงกัน สำหรับตนเป็นนักเคลื่อนไหวฝั่งประชาธิปไตย พร้อมพัฒนาบ้านเมืองให้ กทม. เป็นเมืองที่คนภูมิใจ

‘ชัชชาติ’ เบอร์ 8 พลังไร้ขีดจำกัด 

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. อิสระ หมายเลข 8 ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการจับสลากได้เบอร์ 8 ว่า เบอร์ 8 ก็ดี เป็นรูปอินฟินิตี้พลังไม่หยุดหย่อน ทุกเลขเป็นเลขดีทั้งหมด ก็ลุยครับ ไม่มีปัญหา วินาทีที่จับไม่ได้มีเลขในใจเพราะตัวเลขไม่ได้มีผลอะไรมาก ขอให้ประชาชนจำได้ก็พอ แล้วเดี๋ยวประชาชoก็ไปเลือกเอง เบอร์เป็นเพียงตัวแทนสื่อเท่านั้น ความหมายของเลข 8 ก็ดี

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า หากได้เป็นก็จะเลือกนโยบายหลักๆ ให้ชัดเจนขึ้นมา ซึ่งมีหลายอย่างไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณ เพียงแค่เปลี่ยนแนวคิดก็สามารถทำได้ ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ของคนทุกคน ถ้าได้เป็นสิ่งแรกที่จะได้เห็นเลย คือการบริการประชาชนแบบโปร่งใส ไม่ส่วย ไม่เส้น ปรับให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง เอาเทคโนโลยีมาใช้ เปิดเผยข้อมูลของกรุงเทพ ให้บริการออนไลน์ ใช้แอพพลิเคชั่นในการแจ้งเหตุและสื่อสารกับประชาชน ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถทำได้ทันที

นายชัชชาติ กล่าวถึงกรณีที่นายกพูดว่าให้ประชาชนเลือกคนที่ทำงานได้จริงว่า ก็เป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องเลือกคนที่มาทำงานได้จริง นโยบายที่คิดมามีคนช่วยเยอะ มีการไตร่ตรองมาแล้ว ก็เป็นไปได้ และประชาชนสามารถให้ความเห็นได้ จึงนำมาปรับและออกมาเป็นนโยบายที่แถลง เพราะเป็นนโยบายที่สื่อสาร 2 ทาง ใครอยากจะให้ความเห็นก็สามารถเข้ามาแสดงความคิดเห็นได้ที่ www.ชัชชาติ.com

“ผู้ว่าฯกทม.ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ ไม่ว่าจะคนเก่าหรือคนใหม่ ขึ้นอยู่กับนโยบายและผลงานที่ผ่านมาด้วย และไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนเก่า ไม่งั้นจะมีการเลือกตั้งทำไม ไม่งั้นก็เอาคนเก่ามาทำเลย”นายชัชชาติ กล่าว

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ขอบคุณผู้สนับสนุน ก็รู้สึกดีใจ เพราะเราไม่มีฐานคะแนนเสียง แต่ตนมีนโยบายอยู่แล้ว และถ้าสอดคล้องกับใครก็สามารถทำงานร่วมกันได้ ก็เชื่อในเสียงประชาชนที่เลือกส.ก.มา ต้องให้เกียรติส.ก. อย่างตอนที่เป็นส.ส.ก็ดูแลหมด เพราะถือว่า เป็นตัวแทนประชาชน เอาประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้งไม่อยากให้คิดเรื่องพรรค เรื่องแบ่งแยก

“ในการลงพื้นที่อีก 52 วันที่เหลือ ก็จะทำป้ายเป็นแบบผอม ป้ายไดเอท ลดขนาดป้ายให้เหลือขนาด 60 เหลือขนาดเท่าเสาไฟฟ้า มันก็เห็นหน้าผมแต่คิดว่าป้ายเป็นแค่การกระตุ้นเตือน เราใช้ป้ายน้อยมาก หลักๆ คือเห็นป้ายคนอื่นให้นึกถึงชัชชาติ เพราะเราไม่อยากเปลืองทรัพยากร กระดาษ ใบปลิวที่ใช้ก็เป็นกระดาษแบบรีไซเคิล รถที่ใช้ก็ใช้รถ EV ให้มากที่สุด เพราะไม่อยากให้รถหาเสียงไปเพิ่ม P.M 2.5 ก๊าซพิษ ซึ่งเป็นแนวคิดที่เริ่มด้วยการรักเมือง” นายชัชชาติ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังได้เบอร์ผู้สมัคร นายชัชชาติ ได้เดินทางไปหาเสียงยัง อนุสาวรีย์ชัย จากนั้นนั่งรถไฟฟ้าไปต่อที่สีลม เดินซอยละลายทรัพย์ ปากคลองตลาด โดยการหาเสียงโดยขบวนรถ อีวี เน้นรักสิ่งแวดล้อมทันที

ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. อิสระ หมายเลข 6 ให้สัมภาษณ์สั้นๆ หลังออกจากที่จับสลากได้เบอร์ 6 ว่า ฝากด้วยนะเบอร์ 6 ก่อนจะออกจากศาลาว่าการกทม. ด้วยรถตุ๊กๆ และชูเบอร์ 6 ให้ผู้สื่อข่าว

“เอ้ สุชัชวีร์” คว้า เบอร์ 4 ชี้ เลขมงคล อิงอริยสัจ 4

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 4 จากพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ที่ศาลาว่าการ กทม.2 ดินแดง ภายหลังจากการจับสลากได้เบอร์ 4 ว่า เบอร์ 4 ชอบมาก เพราะเป็นหนทางดับทุกข์ อริยสัจ 4 เกิดเดือน 4 ด้วย เป็นเลขมงคลมาก เราจะเต็มที่ เพราะถือว่าได้เลขมงคลด้วย ก็จะใช้เบอร์ 4 ให้ได้ทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพมหานครให้ได้

“เปลี่ยนกรุงเทพฯ เราทำได้” นายสุชัชวีร์ กล่าวย้ำสโลแกน

 

“ศิธา” มั่นใจ 50 วัน หาเสียงนโยบายได้ครบ

น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครหมายเลข 11 พรรคไทยสร้างไทย กล่าวภายหลัง การจับหมายเลขผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ว่า เลข 11 เป็นเลขที่เชื่อมโยงกับชีวิตทางการเมือง เนื่องจากตนเกิดจากบ้านเลขที่111 หรือพรรคไทยรักไทยที่เคยถูกยุบไป พร้อมยืนยันว่าการได้เลข 11 ไม่ใช่อุปสรรคในการหาเสียง

พร้อมระบุว่า วันนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี ซึ่งตนจะขอนำประสบการณ์ทางการเมือง 22 ปีมาใช้และสื่อสารกับประชาชน ว่าปัญหาทุกวันนี้มีอะไรบ้างและนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาผ่านทางช่องทางต่างๆ และเชื่อว่า 50 วันนี้จะสามารถสื่อสารนโยบายทั้งหมดกับประชาชนได้ครบถ้วน

ด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทยจัด ขบวนรถแห่หาเสียงทันที โดยขึ้นรถประชาสัมพันธ์หมายเลข 11 ฝากศิธา ทิวารี ไปเป็นผู้รับใช้พี่น้องชาว กทม. โดยมีความตั้งใจที่จะเข้าไปทวงเงินในกระเป๋า ทวงคืนความสุข และประชาธิปไตยกลับคืนมา ขอโอกาสเข้าไปสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี สร้างคน สร้างเยาวชน สู่การเป็น Global Citizen ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ

และขอให้คำมั่นว่า จะคืนอำนาจให้คนกทม. ให้ชาวกรุงเทพทุกคน มีส่วนร่วมในการบริหารและตรวจสอบการใช้งบประมาณกทม. ด้วยสภาชุมชน (Community Council) เพื่อกำจัดคอรัปชั่น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ กทม.ด้วยระบบกระจายอำนาจการตรวจสอบ (Decentralized Autonomous Organizatiom:DAO) ด้วยเทคโนโลยี Blockchain โดยประเมินความสามารถของทุกหน่วยงานของ กทม.