‘ไบเดน’ เย้ย ‘ปูติน’ หลังชนฝา ชี้เพิ่มโอกาสใช้อาวุธเคมี สื่อโปรเครมลินชี้ทหารรัสเซียดับเกือบหมื่น

ไบเดนเย้ยปูตินหลังชนฝา ชี้เพิ่มโอกาสหันใช้อาวุธเคมี สื่อแท็บลอยด์โปรรัฐบาลเครมลิน ปูดตัวเลขทหารรัสเซียดับเกือบหมื่น เจ็บกว่า 1.6 หมื่น

 

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เชื่อว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย กำลังอยู่ในสภาพ “หลังชนฝา” ในกรณียูเครน และยิ่งเพิ่มความเป็นไปได้ที่ปูตินจะหันไปใช้อาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพ

ในงานสัมมนาโต๊ะกลมทางธุรกิจซึ่งจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ไบเดนกล่าวว่า เขาเชื่อว่ารัสเซียกำลังเตรียมพร้อมสำหรับปฏิบัติการจัดฉากครั้งใหม่

“พวกเขาบอกว่ายูเครนมีอาวุธชีวิภาพและอาวุธเคมี นั่นเป็นสัญญานชัดเจนว่าพวกเขากำลังพิจารณาว่าจะใช้สองสิ่งนี้”ไบเดนกล่าว

ผู้นำสหรัฐกล่าวด้วยว่า การกระทำดังกล่าวของรัสเซียจะกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองที่รุนแรง และว่าปูตินรู้ว่าจะมีผลกระทบที่ร้ายแรงตามมาจากพันธมิตรในกองกำลังสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต)

อย่างไรก็ดีจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดมาตรการตอบโต้จากชาติตะวันตกแต่อย่างใด ขณะที่สหรัฐและชาติพันธมิตรได้โต้แย้งกับรัสเซียหลายครั้งในข้อกล่าวหาที่ว่ารัสเซียอาจใช้ข้ออ้างเป็นเท็จเกี่ยวกับอาวุธเคมี เพื่อปูทางไปสู่การใช้อาวุธเช่นนั้นเอง

ทหารรัสเซียคาดตายเกือบหมื่น

บิสสิเนส อินไซเดอร์ รายงานโดยอ้างรายงานของ คอมโสโมลสกาย่า ปราพดา สื่อแท็บลอยด์ในกำกับของรัฐบาลรัสเซีย รายงานว่า มีทหารรัสเซียถูกสังหารในช่วงการรุกรากยูเครนเกือบหมื่นคน ก่อนที่สื่อจะรีบทำการลบตัวเลขออกจากเนื้อข่าว โดยอ้างภายหลังว่าสื่อถูกแฮกเข้าระบบ แต่เนื้อหาก่อนถูกลบออกไประบุ โดยอ้างแหล่งข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมรัสเซียว่า ทหารรัสเซียถูกฆ่าตายแล้ว 9,861 ราย และบาดเจ็บราว 16,153 ราย นับเป็นตัวเลขความสูญเสียกว่าที่รัฐบาลรัสเซียเปิดเผย ซึ่งยังคงมีปัญหาเรื่องความแม่นยำถูกต้องของข้อมูล ซึ่งก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานว่าทหารรัสเซียตายเพียง 498 นาย ส่วนข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯระบุ ทหารรัสเซียล้มตายในยูเครนคร่าวๆ 7,000 ราย เท่ากับรัสเซียสูญเสียทหารจำนวนมากในเวลาเพียงเดือนเดียว เมื่อเทียบกับทหารสหรัฐฯที่เสียชีวิตในสงครามอัฟกานิสถาน 20 ปี อยู่ที่ 2,461 นาย

จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าตัวเลขความสูญเสียที่แท้จริงมีแค่ไหนหรือเนื้อหานี้ไปจบที่การเผยแพร่ในสื่อแท็บลอยด์ของรัฐบาลรัสเซียได้อย่างไร

ทั้งนี้ รัฐบาลรัสเซียยกระดับเซ็นเซอร์ข่าวการทำสงครามรุกรานยูเครนอย่างหนัก รวมถึงการสั่งแบนสื่อโซเชียลเพื่อไม่ให้ชาวรัสเซียรู้อีกด้านของสิ่งที่รัฐบาลรัสเซียพยายามประโคมว่าเป็น ปฏิบัติการพิเศษทางทหารเพื่อปลดปล่อยยูเครนจากการครอบงำของนาซี ในขณะที่ภาพความสูญเสียของทหารรัสเซียที่ถูกกองทัพยูเครนต้านทานการบุกอย่างดุเดือด และภาพความเสียหายของทรัพย์สินและชีวิตพลเรือนยูเครนจำนวนมากที่ถูกทำลายล้างโดยพลานุภาพของจรวด ปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศของรัสเซียถูกเผยแพร่จำนวนมาก และชาวรัสเซียรับรู้ด้านที่รัฐบาลรัสเซียพยายามปกปิดอย่างหนัก.

 

ราคาน้ำมันโลกพุ่งอีก หลังซาอุฯโดนกบฏโจมตี-อียูหารือแบนน้ำมันรัสเซีย

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง หลังจากซาอุดีอาระเบีย ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกออกมาเตือนว่าการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียที่เป็นฝีมือของกลุ่มกบฏเยเมนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเป็นภัยคุกคามโดยตรงกับห่วงโซ่การผลิตน้ำมันของโลก

ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นยังเป็นผลกระทบมาจากการเปิดการหารือของรัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรป ถึงข้อเสนอในการห้ามซื้อขายน้ำมันกับรัสเซีย หลังจากรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนต่อเนื่องเกือบ 1 เดือนแล้ว

สองประเด็นดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือ ปรับตัวสูงขึ้นทันที 7 เปอร์เซ็นต์ ไปอยู่ที่ 115.49 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปรับขึ้นอีก 6 เปอร์เซ็นต์ ไปอยู่ที่ 110.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ด้านดัชนีวอลสตรีทปรับตัวลง 0.8 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับดัชนีแนสแดค และตลาดหุ้นยุโรป ที่ปิดตลาดลงมาอยู่ในโซนสีแดงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นอังกฤษปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้นราว 0.5 เปอร์เซ็นต์ หลังจากยูเครนประกาศปฏิเสธการยื่นคำขาดของรัสเซียให้ทหารยูเครนในมารีอูปอลที่ถูกรัสเซียปิดล้อมวางอาวุธและยอมแพ้