เมื่อวานนี้ (16 มี.ค.65) ตามเวลาท้องถิ่น ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลก ในกรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ คณะผู้พิพากษาได้พิจารณาคำร้องของยูเครนที่ยื่นการคุ้มครองชั่วคราวจากกรณีกองทัพรัสเซียเข้ารุกรานยูเครน คณะผู้พิพากษาได้มีเสียง 13-2 มีคำสั่งให้รัสเซียระงับปฏิบัติการทางทหารในยูเครน

ผู้พิพากษาศาลโลกระบุว่า รัสเซียต้องระงับการปฏิบัติการทางทหารในยูเครนทันที และต้องทำให้แน่ใจว่าหน่วยทหาร รวมถึงผู้คนที่ได้รับการสนับสนุนหรืออยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียจะไม่ดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการทางทหารอีกต่อไป

ขณะที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องงดเว้นจากการกระทำใดๆ ที่อาจทำให้ข้อพิพาทรุนแรงขึ้น หรือยิ่งทำให้สถานการณ์ยากที่จะแก้ไข

อย่างไรก็ดี องค์คณะผู้พิพากษาไม่ได้สั่งการให้รัสเซียรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการใดๆ กลับมา แต่ภายใต้พันธกรณีทางกฎหมายระหว่างประเทศ รัสเซียมีภาระผูกพันให้ต้องปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวของศาลโลก

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ประกาศว่า นี่คือชัยชนะอย่างสมบูรณ์ของยูเครนในคดีที่ไอซีเจได้สั่งให้รัสเซียยุติการบุกรุกทันที คำสั่งดังกล่าวมีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ รัสเซียต้องปฏิบัติตามทันที การเพิกเฉยต่อคำสั่งนี้จะทำให้รัสเซียโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น

อนุมัติงบหนุนทางทหารพันล้านช่วยยูเครน

ด้านโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวภายหลังจากประธานาธิบดีเซเลนสกี้ได้วิดีโอคอลล์กล่าวสุนทรพจน์ต่อสมาชิกสภาสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าประกาศงบประมาณช่วยยูเครน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนทางการทหารให้กับยูเครนเพิ่มเติม พร้อมทั้งประกาศว่าการให้ความช่วยเหลือยูเครนครั้งนี้ เป็นความช่วยเหลือพันธมิตรของสหรัฐอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในการสู้รบกับรัสเซีย

รายงานระบุว่า งบประมาณดังกล่าวในจำนวนนั้น 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นงบประมาณที่อนุมัติไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่อีก 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นงบประมาณช่วยเหลือที่อนุมัติโดยสภาคองเกรสเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

แม้ไบเดนจะยังคงปฏิเสธที่จะประกาศเขตห้ามบินเหนือยูเครน เช่นเดียวกับนาโต ที่ยังคงปฏิเสธมาโดยตลอดเนื่องจากเกรงว่าสงครามจะขยายวงกว้างออกไปนอกยูเครน อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวระบุว่าการสนับสนุนทางทหารทั้งหมดนี้ จะเป็นยุทธปัจจัยที่ส่งไปช่วยเหลือยูเครน ประกอบด้วย

จรวดต่อต้านอากาศยานระบบอินฟราเรด “สติงเกอร์” 800 กระบอก,จรวดต้านรถถัง “เจวาลิน” 2,000 กระบอก ,อาวุธต้านเกราะเบา 1,000 กระบอก, จรวดต้านยานเกราะ AT-4 6,000 กระบอก,โดรนทางยุทธวิธี 100 ลำ,เครื่องยิงลูกระเบิด 100 กระบอก ปืนไรเฟิลจู่โจม 5,000 กระบอก ปืนพก 1,000 กระบอก และไรเฟิล(แบบสไนเปอร์) 400 กระบอก คลังกระสุน 20 ล้านนัด สำหรับอาวุธเล็ก,กระสุนเครื่องิยงลูกระเบิด,กระสุนปืนครก และชุดป้องกันประเภท เสื้อกันกระสุน25,000 ชุดและหมวกป้องกัน25,000 ใบ

บึ้มโรงละครดังเมืองมาริอูโปล ชาวเมืองหลบภัยอยู่ข้างใน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 16 มีนาคมระบุว่า รัสเซีย โจมตีทางอากาศเข้าใส่โรงละครแห่งหนึ่งที่เป็นสถานที่หลบภัยของประชาชนนับพันคน ในเมืองมารีอูโปล เมืองท่าที่รัสเซียยังคงโจมตีอย่างต่อเนื่องในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยล่าสุดยังไม่ทราบชะตากรรมของพลเรือนที่อยู่ภายใน

เหตุการณ์ดังกล่าวรายงานโดยสภาเมืองมารีอูปอล ที่เผยแพร่ภาพของอาคารที่ถูกทำลายลงโดยระบุว่า กองทัพรัสเซียจงใจโจมตีเข้าใส่โรงละครใจกลางเมืองมารีอูปอล เครื่องบินทิ้งระเบิดใส่อาคารที่มีชาวเมืองมารีอูปอลหลายร้อยคนหลบภัยอยู่

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นยืนยันแล้วว่าภาพดังกล่าวเป็นโรงละครในเมืองมารีอูปอล จริง ขณะที่วิดีโอหลังเกิดเหตุระเบิดแสดงให้เห็นไฟที่ลูกไหม้ขึ้นท่ามกลางซากตึกที่ถล่มลงมา โดยล่าสุดยังไม่ทราบจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

สภาเมืองระบุผ่านเทเลแกรมว่า อาคารส่วนกลางได้รับความเสียหายเช่นเดียวกับทางเข้าก็ถูกทำลายลงเช่นกัน ด้านเปโตร แอนดรุสเชนโก ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเมืองมารีอูปอล ระบุว่า โรงละครดังกล่าวเป็นที่พักพิงหลบภัยสงครามที่ใหญ่ที่สุดทั้งขนาดและจำนวนผู้พักพิง โดยเปิดเผยว่าตัวเลขเบื้องต้นมีคนพักอยู่ภายในมากกว่า 1,000 คน

ทั้งนี้เมืองมารีอูปอล ถูกกองทัพรัสเซียบุกถล่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา หลังจากความพยายามในการเจรจาให้มีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ที่กินเวลาหลายสัปดาห์ล้มเหลวลง

ขณะที่การโจมตีดังกล่าวมีขึ้น 1 วันหลังจากเจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวหาทหารรัสเซียว่าจับคนเอาไว้ราว 400 คนในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองมารีอูปอลด้วยขณะที่ล่าสุดทางการยูเครนระบุว่ามีประชาชนราว 2,500 คนที่เสียชีวิตในเมืองมารีอูปอล และยังมีอีกหลายแสนคนที่ยังคงติดอยู่ในเมือง