ประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน โพสต์คลิปวิดีโอ โพสต์คลิป เดินถนนไม่ทิ้งประชาชน สยบลือหนี สหรัฐพาอพยพ – ยอมแพ้ รัสเซีย

 

วันนี้ (26 ก.พ.) ประธานาธิบดี โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน โพสต์คลิปวิดีโอที่ถ่ายตัวเองทางเฟซบุ๊กของเขา เมื่อช่วงเวลา 12.57 น. ตามเวลาประเทศไทย เพื่อสยบข่าวลือที่มีการปล่อยออกมาว่า เขาเรียกร้องให้กองทัพยูเครนยอมจำนนต่อ กองกำลังทหารรัสเซีย โดยย้ำว่านั่นเป็น “ข่าวปลอม”

“มีข้อมูลเท็จมากมายในโลกออนไลน์ที่บอกว่าผมเรียกร้องให้กองทัพของเราวางอาวุธและให้มีการอพยพ ผมอยู่ที่นี่ เราจะไม่วางอาวุธ เราจะปกป้องประเทศของเรา” ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวขณะถ่ายคลิปวิดีโอตนเองอยู่บนถนนที่มี Gorodetsky House ในกรุงเคียฟ เป็นฉากหลัง

ทั้งนี้ เมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา (25 ก.พ.) ผู้นำยูเครนหนุ่ม วัย 44 ปีผู้นี้ ก็ได้โพสต์คลิปผ่านเฟซบุ๊กของเขา ซึ่งออกมาเดินตามท้องถนน เพื่อสร้างขวัญและกำลังให้กับชาวยูเครน พร้อมทั้งบันทึกภาพวิดีโอ โดยในคลิปดังกล่าว มีบุคคลซึ่งเป็นผู้นำระดับสูงของรัฐบาลยูเครน ประกอบด้วย หัวหน้าสำนักงานประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษาทำเนียบประธานาธิบดี โดยช่วงหนึ่ง ปธน.ยูเครน กล่าวว่า

“สวัสดีตอนเย็น หัวหน้าฝ่าย (David Arakhamia) อยู่ที่นี่ หัวหน้าสำนักงานประธานาธิบดี (Andriy Yermak) อยู่ที่นี่ นายกรัฐมนตรี (Denys Shmygal) อยู่ที่นี่ (Mykhaylo Podolyak) ที่ปรึกษาทำเนียบประธานาธิบดี อยู่ที่นี่ พวกเราอยู่ที่นี่ ทหารของเราอยู่ที่นี่ พลเมืองอยู่ที่นี่และ “เรา” อยู่ที่นี่เช่นกัน เราต้องปกป้องอิสรภาพของเรา นั่นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้น เกียรติของเรา ยูเครนจงเจริญ”

ขณะที่สื่อสหรัฐรายงานว่า ประธานาธิบดีเซเลนสกี ยังปฏิเสธข้อเสนอของสหรัฐฯ ที่จะช่วยพาเขาอพยพออกจากยูเครน โดยประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวว่า การต่อสู้อยู่ที่นี่ เราะต้องการกระสุน ไม่ใช่การเดินทาง ด้านวอชิงตันโพสต์ ยังอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และ ยูเครนที่กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ยังเตรียมการที่จะช่วยเหลือประธานาธิบดีเซเลนสกี ด้วย ทั้งนี้ มีรายงานว่าประธานาธิบดียูเครนผู้นี้ ยังได้รับเสียงชื่นชมจากโลกโซเชียลมีเดียเป็นอย่างมาก จากความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ในการตอบโต้การบุกรุกราน ของรัสเซีย

ม็อบต้านปูตินผุดอื้อรอบโลก-มาครงเตือนพร้อมเจอสงครามยืดเยื้อ

ประธานาธิบดีเอมมาเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส กล่าวเตือนประชาคมโลกให้เตรียมตัวรับกับภาวะสงครามและความขัดแย้งยืดเยื้อระหว่างยูเครนและรัสเซีย โดยนอกจากภาวะสงครามและความขัดแย้งแล้ว ยังรวมถึงผลกระทบที่จะตามมาใหญ่หลวงยาวนานจึงจำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อม

“สงครามกลับมาเยือนทวีปยุโรปอีกครั้ง เป็นการเลือกกระทำเพียงฝ่ายเดียวของประธานาธิบดีปูติน ที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมทางมนุษยธรรมตามมา ประชาชนชาวยูเครนตอนนี้กำลังพยายามต่อต้าน และยุโรปเองก็กำลังยืนเคียงข้างชาวบยูเครนในการต่อต้านครั้งนี้” มาครง ระบุ

วันเดียวกัน ยังมีชาวยูเครนและผู้ต่อต้านการทำสงครามของรัสเซียเดินทางออกมาชุมนุมแสดงพลังในเมืองใหญ่หลายแห่งทั่วโลก เช่น ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีผู้ชุมนุมหลายร้อยคนเรียกร้องให้ทางการออสเตรเลียใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียที่รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก

ขณะที่การชุมนุมที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ผู้ประท้วงเรียกร้องให้ปลดรัสเซียออกจากสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี นอกจากนี้ การชุมนุมยังเกิดขึ้นที่กรุงวอร์ซอว์ ประเทศโปแลนด์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน โดยนางสาวเกรตา ธันเบิร์ก หรือเกรียตา ทุนแบร์ย เยาวชนนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมชื่อดังก้องโลกเข้าร่วมด้วย

ปูดข่าวกรองประชุมลับผู้นำรัสเซีย หัวร้อนการบุกไม่เป็นตามแผน

ริโฮ เทลาส สมาชิกสภายุโรปและอดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเอสโตเนีย ได้ทวิตข้อความยาวเปิดเผยว่า ได้รับข่าวกรองจากฝั่งยูเครนถึงการประชุมลับในฐานลับของวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียในเทือกเขาอูราล ที่คณะผู้ปกครองประชุมกันที่นั่นเพื่อไม่ให้ใครหนีไป ปูตินโกรธมาก เขาคิดว่าสงครามทั้งหมดจะเป็นเรื่องง่ายและทุกอย่างจะเสร็จสิ้นภายใน 1-4 วัน

รัสเซียไม่มีแผนยุทธวิธี สงครามมีค่าใช้จ่ายประมาณ 20 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน มีจรวดอย่างมากที่สุด 3-4 วัน พวกเขาใช้เท่าที่จำเป็น พวกเขาขาดอาวุธ โรงงานผลิตใน Tula และ 2 แห่งใน Rotenberg ไม่สามารถผลิตให้ได้ทันตามคำสั่ง ปืนไรเฟิลและกระสุนเป็นที่สุดที่พวกเขามี

อาวุธรัสเซียรอบต่อไปสามารถผลิตได้ภายใน 3-4 เดือน – แม้จะเป็นเช่นนั้น กลับไม่มีวัตถุดิบ ซึ่งเดิมจะส่งมาจากสโลวีเนีย ฟินแลนด์ และเยอรมนี แต่ว่าถูกตัดขาดไปแล้ว

หากยูเครนสามารถยันการบุกของรัสเซียไว้ได้ 10 วัน รัสเซียก็ต้องเข้าสู่การเจรจา เพราะพวกเขาไม่มีเงิน อาวุธ หรือทรัพยากร ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังเฉยเมยต่อมาตรการคว่ำบาตร

แผนพวกเขาคือ การใช้หน่วยรบพิเศษอัลฟ่า ที่อยู่ใกล้กรุงคียีฟ ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ เป้าหมายคือเพื่อเข้ายึดคียีฟ และจัดตั้งรัฐบาลหุ่นเชิด พวกเขากำลังเตรียมการยั่วยุต่อพลเรือนผู้บริสุทธิ์ – ผู้หญิงและเด็ก – เพื่อโหมกระพือความตื่นตระหนก นี่คือไพ่ตายของรัสเซีย

แผนทั้งหมดของรัสเซียอาศัยความตื่นตระหนก – ให้พลเรือนและกองกำลังติดอาวุธยอมจำนนและ เซเลนสกี้หนีไป พวกเขาคาดหวังให้เมืองคาร์คิฟยอมจำนนก่อน แล้วเมืองอื่น ๆ จะปฏิบัติตามเพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือด แต่ชาวรัสเซียตกตะลึงกับการต่อต้านจากชาวยูเครนอย่างรุนแรง

ชาวยูเครนต้องไม่ตื่นตระหนก ขีปนาวุธมิสไซล์มีไว้เพื่อข่มขู่ รัสเซียจะสุ่มยิงเพื่อโจมตี “โดยบังเอิญ” อาคารต่างๆ เพื่อให้การโจมตีดูยิ่งใหญ่กว่าที่เป็นจริง ยูเครนต้องเข้มแข็ง และเราถึงจะให้ความช่วยเหลือ!

ริโฮทวิตทิ้งท้ายว่า เผยแพร่ข้อมูลนี้เพื่อให้โลกได้ตระหนักถึงความสำคัญของการช่วยเหลือยูเครนในเวลานี้โดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย รัสเซียนั้นลำบากแล้ว แต่ยูเครนก็อยู่ยากเช่นกันหากชาติตะวันตกไม่ให้การสนับสนุนที่มีค่ากับยูเครน!