เข็นร่างกม. #สุราก้าวหน้า เข้าสภา แต่ไม่ถึงฝัน โดนอุ้ม! ให้รมต.ศึกษา 60 วัน

‘เท่าพิภพ’ รับหนังสือ “ทะลุฟ้า-ประชาชนเบียร์’ หนุนสภารับ ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ชี้ คือก้าวแรกของการปลดล็อก ทลายทุนผูกขาด สานอนาคตสุราไทย แต่ฝันค้าง โหวตอุ้มถ่วง ส่งให้รมต.ศึกษาอีก 60 วัน

 

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ที่อาคารรัฐสภา เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. เขต 22 พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ….(โดยเฉพาะส่วนเนื้อหาว่าด้วย “สุราก้าวหน้า”)  ที่สภาผู้เเทนราษฎรจะมีการพิจารณาเพื่อลงมติในวาระ 1 ในวันนี้ เป็นตัวแทนพรรคก้าวไกล รับหนังสือจากภาคประชาชนที่เรียกร้องให้สภารับหลักการร่างกฎหมายดังกล่าว เพื่อเป็นก้าวแรกในการปลดล็อกกฎหมาย ทลายทุนผูกขาด และเปิดโอกาสให้ประชาชนหรือผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงการผลิตได้
.
“หากร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่าน จะเป็นก้าวเเรกของการปลดล็อกเบียร์และสุราพื้นบ้านให้ประชาชนได้มีโอกาสผลิตสุรา จากวัตถุดิบในพื้นที่ เป็นการยกระดับเเละสร้างรายได้ให้ประชาชน วันนี้ตั้งเเต่ช่วงเช้า มีประชาชน เเละกลุ่มผู้ค้าสุรา เจ้าของสถานประกอบการ เดินทางมายังหน้ารัฐสภา เพื่อเรียกร้องเเละกดดันให้สภารับร่างกฎหมายฉบับนี้ และให้รัฐบาลถอดถอนญัตติขอการอุ้มร่างกฎหมายออกไป ผมอยากให้ผู้มีอำนาจได้ฟังเสียงของประชาชนที่มาในวันนี้ด้วย” เท่าพิภพ ระบุ
.
ด้าน ธนากร ท้วมเสงี่ยม ตัวแทนกลุ่มทะลุฟ้าเเละประชาชนเบียร์ กล่าวว่า เราเป็นคนตัวเล็กๆที่อยู่ในวงการสุรา แต่พวกเราเจอปัญหามากมายเกี่ยวกับกฎหมายรัฐไทยที่ไม่เคยมองเราเป็นประชาชนเลย กฎหมายแบบนี้มองประชาชนชาวสุราไม่ต่างจากศัตรูของรัฐ ถูกบีบบังคับให้ทำได้ยาก การจะมีพื้นที่อยู่ในสื่อก็ทำได้ยาก การจะพูดถึงเเบรนด์ การจะทำปริมาณที่มันใหญ่ขึ้น มีคุณภาพขึ้นทำได้ยาก ยากเกินกว่าที่เราจะเข้าไปอยู่ในตลาดได้จริงๆ
.
“เราคิดว่า ร่างพรบ.สุราก้าวหน้านี้เปิดโอกาสให้ประชาชนคนธรรมดา มีโอกาสมากขึ้นในการผลิตสุราที่เยอะขึ้นมากกว่าที่กฎหมายกำหนด เพราะกฎหมายกำหนดสูงเกินกว่าที่เราไปเเตะได้ ทำให้เราได้เข้าถึงการผลิตสุราได้อย่างเท่าเทียมนายทุน ทั้งผลิตเพื่อดื่มเองหรือผลิตเพื่อจำหน่าย เราไม่สามารถผลิตได้เป็นหมื่นลิตรต่อวัน เป็นล้านลิตรต่อปี มันไม่มีทางที่คนธรรมดาจะทำอย่างนั้นได้ มันเปิดโอกาสให้แก่คนเพียงไม่กี่คน ที่พวกเขายึดอำนาจการดื่มกินของพวกเราไปหมดเเล้ว เราจึงขอกดดันให้พรรครัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน พรรคการเมืองเห็นแก่ปากท้องของประชาชน ร่วมโหวตให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่าน อาทิ พรรคภูมิใจไทย ที่เคยผลักดันเรื่องกัญชาซึ่งน่าจะเป็นมุมมองเดียวกัน และอย่างกรณีร้อยเอกธรรมนัส ที่ผลิตสุราชุมชนในพื้นที่ตนเองอยู่แล้ว อยากให้มองเห็นประโยชน์ ปากท้องประชาชนเช่นกัน”

ขณะที่ นิก อนุมานราชธน กล่าวในฐานะผู้ประกอบการคอกเทลบาร์เเละสุราชุมชน ว่า ในส่วนคอกเทลบาร์มีปัญหาที่เราไม่สามารถเอาคอกเทลที่ผสมไว้ใส่ขวดและขายให้นำกลับบ้านได้ เพราะมีเรื่องของบรรจุภัณฑ์ที่กฎหมายห้ามไว้อยู่ ส่วนทางสุราชุมชนก็คือ เรื่องของ กำลังผลิตที่จำกัดไว้ 5 เเรงม้า 7 เเรงคน ที่เราไม่สามารถขยายฐานหรือเพิ่มความสามารถในการผลิตให้สุรามีคุณภาพยิ่งขึ้นเพื่อไปเเข่งขันในตลาดได้
.
“เราอยากให้มองถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจที่หายไปจากสิ่งที่รัฐผูกขาด เวลาเราไปต่างประเทศ เราจะใช้สถานที่โรงกลั่นสุราเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่ในไทยไม่มี เพราะเราถูกปิดกั้นไว้ ในต่างประเทศมีการนำเอาผลไม้ต่างๆมาแปรรูปเป็นสุรา ประเทศเราไม่สามารถทำได้ เพราะมีกฎหมายบังคับให้ประชาชนลืมตาอ้าปากไม่ได้ จึงขอฝากทุกคนร่วมกดดันให้ ส.ส. ในสภาวันนี้ให้ลงมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว เพื่อเป็นการปลดล็อกให้สามารถผลิตสุราพื้นบ้านเเละยกระดับสร้างมูลค่าให้แก่ท้องถิ่น เเละเราอยากให้รัฐมองว่าร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นสิทธิในการประกอบอาชีพเรา ”

ขณะที่ ผศ.ดร.เจริญ เจริญชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี่ผลิตอาหาร ด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ กล่าวว่า ตนรู้จักผู้ประกอบการสุราชุมชนทั่วประเทศ เนื่องจากเป็นผู้ให้ความรู้ในการพัฒนาสุราชุมชน ซึ่งสุราชุมชนถูกจำกัดอยู่ที่ 5 เเรงม้า เเละคนงานไม่น้อยกว่า 7 คน การที่จะผลิตสุราชุมชนที่มีคุณภาพจะต้องอาศัยกำลังผลิตเครื่องมือ เครื่องจักรที่เพียงพอ มีการใช้วัสดุอุปกรณ์ มีการพัฒนาที่สากลยอมรับ เช่น รัม วอสก้า แต่ปัจจุบันสุราชุมชนที่อนุญาตไม่ได้เป็นโรงงานทำได้เพียงสุราขาว

ดังนั้นฝ่ายที่ไม่ต้องการให้ชุมชนผลิต จะระบุเสมอว่า ทำเเล้วคุณภาพไม่ดี การที่เราไม่สามารถผลิตเท่าเทียมต่างประเทศได้เพราะข้อจำกัดตรงนี้ หากใครจะทำสุราที่มีคุณภาพ จะต้องมีกำลังผลิตอย่างน้อย 9 หมื่นลิตรต่อวัน ซึ่งต้องใช้ทุนมหาศาล ซึ่งชาวบ้านมีวัตถุดิบทางธรรมชาติที่สามารถทำสุราที่มีคุณภาพได้ อาทิ อ้อย ลำไย ลิ้นจี่ ซึ่งในต่างประเทศไม่มี เมื่อนำสุราประเภทนี้บ่มกับไม้โอ๊คจะได้สุราที่ดีกว่าวิสกี้ ในต่างประเทศ
.
“เเต่วันนี้ทำไม่ได้ ขอให้ ส.ส.ช่วยกดดันไม่อนุญาตให้รัฐบาลนำร่างกฎหมายนี้ไปศึกษา 2 เดือน ซึ่งเราไม่เเน่ใจว่าจากนั้นก็จะขอยืดเวลาออกไปอีกหรือไม่ ขอให้ส.ส.ร่วมลงมติอีกครั้งเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการในการพิจารณาตรงนี้ในการหารือกันจะดีกว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ใช่ประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เเต่เป็นประโยชน์ของประชาชน รายเล็กรายน้อย ผลประโยชน์ของเกษตรกรในการนำวัตถุดิบมาสร้างมูลค่า สร้างรายได้ ยกระดับให้ชุมชน เเละกรณีเรื่องของการต่อต้าน การโฆษณาเมาเเล้วขับ เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่เรากำลังจะนำเสนอข้อจำกัดในการแก้ปัญหาผู้ประกอบการที่ถูกควบคุมการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การพูดถึงสุรา เพราะในขณะประเทศเราเริ่มมองไปในทิศทางการเห็นสุราเป็นศัตรู พยายามสร้างสุราให้เป็นปีศาจ แต่ในนานาอารยประเทศสุราเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศชาติ”

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 12.50 น. รัฐสภามีมติ เห็นด้วย 207 เสียงให้ ไม่เห็นด้วย 195 เสียง ส่งร่างแก้ไข พรบ.ไปให้ รมต. พิจารณาก่อนเป็นเวลา 60 วัน จนมีการตั้งข้อสังเกตทั้งจากส.ส.และกลุ่มรณรงค์ปลดล็อการผูกขาดสุรา ว่าเป็นการเตะถ่วงร่างกฎหมายออกไปหรือไม่

ด้านเท่าพิภพ ได้โพสต์วิดีโอช่วงเวลาลุ้นผลการพิจารณา ก่อนที่จะแสดงท่าทางผิดหวัง หลังทราบผลมติของสภา

ต่อมา เท่าพิภพ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 207 ต่อ 195 เสียง ให้ส่ง ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ให้รัฐมนตรีพิจารณาก่อนส่งกลับมาให้สภาพิจารณารับหลักการอีกครั้งใน 60 วัน ว่า ขอขอบคุณเพื่อนส.ส.พรรคก้าวไกล และ ส.ส. พรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่เห็นด้วยตั้งเเต่เเรก ในการลงมติไม่เห็นด้วยให้อุ้มร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา
.
“มติของสภาผู้แทนราษฎรที่ออกมา 207 ต่อ 195 เสียง ถือว่าใกล้เคียงกันมากจนเกือบประสบความสำเร็จ จึงต้องขอขอบคุณไปยัง ส.ส.ฝั่งรัฐบาล หลายท่านที่ร่วมลงมติไม่ยอมให้อุ้มไปด้วยเช่นกัน ไม่ว่า พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งเป็นพรรคน้องใหม่ในสภา
.
“ขอยืนยันต่อพี่น้องประชาชนว่าร่างกฎหมายดังกล่าวยังไม่ถูกตีตก ความหวังของพวกเรายังไปต่อ อยากให้ประชาชนรอวันสุกงอม อีกไม่เกิน 2 เดือน นับจากนี้ ร่างกฎหมายจะถูกนำมาพิจารณากันใหม่ เราจะรณรงค์ต่อไปเเละพยายามเปลี่ยนความคิดของคนที่ยังไม่เห็นด้วยให้ได้ มติในวันนี้เป็นนิมิตรหมายที่ดี เพราะผู้เเทนราษฎรทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ยังมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันบางส่วนในการพิจารณากฎหมายเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน จึงยังถือเป็นความหวังของประชาชนที่ยังมีต่อสภาผู้แทนราษฎรได้”
.
จากนั้น เท่าพิภพ ได้กล่าวขอโทษประชาชนที่ยังทำไม่สำเร็จในวันนี้ ยืนยันว่า ได้ทำอย่างเต็มที่เพื่อปลดล็อกอนาคตสุราไทย ขอให้ประชาชนมีความหวัง เราจะร่วมสู้กันต่อไปในอีก 2 เดือนข้างหน้า
.
ด้าน ธนากร ท้วมเสงี่ยม กลุ่มทะลุฟ้าเเละประชาชนเบียร์ กล่าวว่า พวกเรารวมตัวกันเรียกร้องให้ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านไปลุล่วง โดยที่ไม่คาดมาก่อนว่าจะมีการเล่มเกมทางการเมืองด้วยการส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา เราคิดว่าจะสะดวกเเละรวดเร็ว เพราะเราได้เห็นการทำงานของพรรคมาเเล้ว เราได้พูดคุยกับคณะทำงานของพรรคที่ทำงานเรื่องพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า มาตั้งแต่เริ่มต้น โดยเชื่อมั่นว่า ร่าง พ.ร.บ.นี้ จะสามารถทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้จริง อย่างไรก็ตาม ต่อให้ยังไม่ถึงจุดหมาย เรายังเชื่อว่า ในอนาคตเสียงส่วนใหญ่จะเห็นด้วยในการแก้ไข พ.ร.บ.นี้ เพื่อทำให้เรื่องการอยู่การกินในประเทศนี้เป็นเรื่องชีวิตของประชาชนจริงๆ ทั้งนี้ ต้องขอบคุณ พรรคก้าวไกล พรรคฝ่ายค้าน พรรครัฐบาลทุกท่านที่ร่วมกันโหวตด้วยการฟังเสียงประชาชน
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มทะลุฟ้าเเละประชาชนเบียร์ ตั้งหลักชุมนุมเพื่อรอผลการลงมติที่หน้ารัฐสภาตั้งแต่ช่วงเช้า อย่างไรก็ตาม แม้ผลการลงมติออกมาจะไม่เป็นไปตามที่หวัง ก็ยังคงปักหลักต่อเพื่อรณรงค์และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ด้วยการเชิญชวนให้ประชาชนที่สนใจมาร่วมชิมสุราพื้นบ้าน ,สุราชุมชน และคราฟเบียร์ โดยทุกท่านสามารถเดินทางมาชิมผลิตภัณฑ์ของพวกเขาได้ที่หน้ารัฐสภา เกียกกาย กรุงเทพมหานคร จนถึงเวลา 19.00 น.