“อนุทิน” จับตาสถานการณ์โควิด-19 หลังผู้ติดเชื้อกลับมาพุ่ง แต่ยังไม่ปรับมาตรการ

“อนุทิน” จับตาสถานการณ์โควิด-19 หลังยอดผู้ติดเชื้อขยับสูง ยังไม่ปรับมาตรการ ต้องพิจารณารอบคอบ

จากกรณีที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่ขยับเพิ่มสูงขึ้น จนมีข้อสงสัยว่า หากผู้ติดเชื้อแตะหลักหมื่นต่อวัน จะมีการปรับมาตรการให้เข้มข้นขึ้นหรือไม่

ล่าสุด วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เรามอนิเตอร์ยอดการติดเชื้อรายวัน และดูจำนวนผู้ป่วยหนัก จำนวนการใช้ห้อง ICU ไปจนถึงประสิทธิภาพของวัคซีน เราทำงานโดยตั้งอยู่บนความไม่ประมาท ซึ่งที่ผ่านมา ด้วยประสิทธิภาพของวัคซีน บวกกับวินัยของประชาชน การเตรียมพร้อมทางการแพทย์

พบว่าจำนวนผู้ป่วยหนัก ผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือต้องใช้ห้อ ICU ยังไม่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และ จำนวน Home isolation ยังคงสามารถควบคุมได้ดีอยู่ ผู้ป่วยติดเชื้อ ที่ไม่แสดงอาการหนักก็ยังเป็นไปตามฉากทัศน์ ของกรมควบคุมโรคประเมินไว้ ดังนั้น เรื่องมาตรการ จะยังคงไว้ที่จุดเดิม การปรับมาตรการให้เข้มขึ้น ต้องพิจารณาจากตรงนี้ด้วย การตัดสินใจ ต้องรอบคอบ เพราะกระทบกับชีวิตประชาชน

ส่วนกรณีที่เพจ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. เผยแพร่ข้อมูล หากไม่สวมหน้ากากอนามัยจะมีโทษจับปรับ ว่า น่าจะเป็นข้อเสนอของหน่วยงานใด หน่วยงานหนึ่ง ศบค. ต้องนำมาพิจารณา แต่หาก ข้อสนับสนุนนั้น เป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดในการควบคุมโรค ก็ต้องรับฟัง ทุกคนมีสิทธิ์คิด มีสิทธิ์เสนอและต้องมาฟังความคิดเห็นกัน หากได้รับความร่วมมือประชาชนนั้นเป็นอย่างดี ก็ย่อมเป็นเรื่องดี กว่าการต้องออกกฎหมายมายมาบังคับใช้

“เรื่องการปรับผู้ไม่สวมหน้ากากอนามัย ยังไม่มีการออกมาในรูปแบบกฎหมาย ซึ่งจะต้องมาหารือกันอีกครั้งหนึ่งถึงเหตุผลและความจำเป็น ส่วนนักท่องเที่ยวที่ผ่านการเดินทางเข้าประเทศในระบบ Test and Go เมื่อผ่านการคัดกรองแล้ว ช่วงระหว่างอยู่ในประเทศไทย ก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการของไทย หน้ากาก ก็ต้องใส่ จะมาบอกว่าผ่านมาตรการคัดกรองแล้วไม่ได้” อนุทิน กล่าว