“โพลลับ” หน่วยข่าวกรอง ประเมิน เพื่อไทยนำโด่ง เพราะฐานเสียงยังเหนียวแน่น ไม่หาย

โพลลับหน่วยข่าวชี้ โค้งสุดท้ายซ่อมหลักสี่-จตุจักร เพื่อไทยนำโด่ง ทิ้งพลังประชารัฐ พรรคกล้า เผยฐานเสียงยังเหนียว คะแนนนิยมไม่หาย

วันที่ 28 ม.ค.65 สำหรับสถานการณ์ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม.เขต 9 จตุจักร-หลักสี่ มีรายงานข่าวว่า หน่วยงานด้านข่าวกรอง ได้ประเมินแนวโน้มจากการติดตามข่าวสารข้อมูลพบว่า ขณะนี้ผู้ที่มีคะแนนนิยมสูงสุดคือ นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครหมายเลข 3 พรรคเพื่อไทย เนื่องจากเคยเป็นส.ส.ในพื้นที่เก่าย่านนี้ และการเลือกตั้งล่าสุดเมื่อปี 2562 ได้รับคะแนนเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 2 แพ้อันดับ 1 คือ นายสิระ เจนจาคะ พรรคพลังประชารัฐ ไปเพียง 2,700 คะแนน

ขณะที่ฐานเสียงเดิมของนายสุรชาติยังอยู่ครบถ้วน ไม่ได้ลดลงไป ประกอบกับยังเป็นนักการเมืองที่ลงพื้นที่ต่อเนื่อง ชาวบ้านตามชุมชนต่างๆ ยังเชื่อถือ ในทางตรงกันข้ามเสียงของพรรคพลังประชารัฐ ที่เดิมนายสิระได้รับชัยชนะนั้น เกิดความแตกแยก คะแนนลดลงไป ต่างจากนายสุรชาติที่คะแนนเดิมยังเหนียวแน่น ดังนั้นถึงขณะนี้จึงนับว่าคะแนนนิยมผู้สมัครพรรคเพื่อไทยยังนำหน้าทุกผู้สมัคร

คะแนนนิยมที่ตามมาคือ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี หมายเลข 2 พรรคกล้า เนื่องจากมีฐานเสียงเดิมอยู่บ้างในฐานะอดีตส.ส.เขตจตุจักร อีกทั้งจากการสำรวจข้อมูลพบว่า ฐานเสียงของกลุ่มกปปส. โดยเฉพาะฐานเดิมของนายสกลธี ภัททิยกุล ที่เคยเป็นส.ส.ในเขตหลักสี่ จตุจักรมาก่อน ได้เทมาให้กับนายอรรถวิชช์ ในฐานะเพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกัน ทั้งระดับมัธยมและมหาวิทยาลัย รวมถึงการที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ส่งผู้สมัคร ทำให้มีคะแนนเสียงจากผู้สนับสนุนประชาธิปัตย์บางส่วนเทมาให้

ส่วนนางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 7 อาศัยฐานเสียงเดิมของนายสิระ แต่เป็นฐานที่ลดลงไป เนื่องจากเสียงกลุ่มกปปส.ของนายสกลธี เทไปให้กับพรรคกล้า รวมทั้งความขัดแย้งระหว่างนายสิระ กับน.พ.เหรียญทอง แน่นหนา ทำให้มวลชนของน.พ.เหรียญทอง หันไปเลือกนายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ ผู้สมัครเบอร์ 1 พรรคไทยภักดี เท่ากับว่าคะแนนเสียงในผู้สมัครพลังประชารัฐ กับพรรคไทยภักดี มีลักษณะแย่งมวลชนกันเอง

สำหรับนายกรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัครหมายเลข 6 พรรคก้าวไกล มีคะแนนเสียงจากคนรุ่นใหม่ รวมทั้งผู้ที่เคยลงคะแนนให้พรรคอนาคตใหม่ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แม้ว่าในการเลือกตั้งใหญ่กระแสของพรรคอนาคตใหม่มาแรงมาก และฐานเดียวกันกับพรรคก้าวไกล แต่เนื่องจากครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งซ่อมเขตเดียว ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล จึงทำให้กระแสคนรุ่นใหม่ในการเลือกตั้งซ่อมเขตนี้ ไม่คึกคักเท่าที่ควร