พาณิชย์ชี้ราคาหมูเริ่มทรงตัว พร้อมเข้มลุยตรวจราคาสินค้า

พาณิชย์เผยราคาหมูเริ่มทรงตัว พร้อมเดินหน้าคุมเข้มสินค้า จัดทัพสายตรวจปูพรมตรวจราคาสินค้าทั่วประเทศ

วันที่ 26 มกราคม 2565 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายให้ติดตามสถานการณ์ด้านราคาและปริมาณสินค้าอย่างใกล้ชิด

ขณะนี้แนวโน้มราคาหมูเนื้อแดงในท้องตลาดเริ่มปรับลดลงแล้ว จากการที่กรมหารือร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกร โรงเชือด และห้างสรรพสินค้า ขณะนี้ราคาเริ่มทรงตัว และมีแนวโน้มปรับลดลง แต่หากพบเห็นการขึ้นราคาในช่วงนี้ ซึ่งไม่มีเหตุผล เพราะมีการตรึงราคาหน้าฟาร์มไว้เรียบร้อยแล้ว

วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม
วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม

ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวด ยอมรับว่าปีนี้ราคาปรับตัวสูงขึ้นจริง แต่ถือเป็นปีทองของชาวสวนปาล์ม จากปีที่ผ่านมาราคาตกต่ำ ซึ่งปัจจุบันราคาผลปาล์มขยับขึ้นไป 11 บาทกว่า แต่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ประมาณการว่าผลผลิตจะเริ่มทยอยออกสู่ตลาด และจะออกมากขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป จึงคาดว่าแนวโน้มสถานการณ์ราคาน่าจะอ่อนตัวลงตามกลไกตลาด

ซึ่งที่ผ่านมาได้ติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง และขอความร่วมมือโดยเฉพาะห้างสรรพสินค้า ให้ช่วยกันประคับประคองราคา แต่ต้องยอมรับว่าปริมาณผลปาล์มปีนี้ไม่สูงมากจากสถานการณ์โควิด ทำให้ปริมาณน้ำมันปาล์มดิบลดลงในตลาดโลกลดลง ราคาก็ปรับสูงขึ้นตาม แต่สถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย จะทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบอ่อนตัวลงตาม

สำหรับตรวจดูแลราคาสินค้า ตามที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีได้มีข้อสั่งการให้ตั้งคณะทำงานกำกับติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าแก้ไขปัญหาและดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนและกระทำความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (War room) โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน มีรองปลัดกระทรวงพาณิชย์และอธิบดีทุกกรมในกระทรวงพาณิชย์เป็นคณะทำงาน มีอำนาจหน้าที่ 3 ด้าน ได้แก่ (1) ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า (2) แก้ไขปัญหาราคาสินค้า และ (3) ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่กระทำความผิด ซึ่งจากการประชุมครั้งที่ 1/2565

เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 คณะทำงานฯเห็นควรให้บูรณาการเจ้าหน้าที่จากทุกกรมของกระทรวงพาณิชย์จึงได้มีการจัดชุดสายตรวจกระทรวงพาณิชย์รวม 55 ชุด ออกตรวจสอบในพื้นที่ 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ เป็นประจำทุกวัน เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2565 เป็นต้นไป ซึ่งจะมีการกำชับให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจนและห้ามจำหน่ายสินค้าสูงเกินสมควร

หากตรวจพบการกระทำผิดจะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้า และปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ในส่วนภูมิภาคมีผู้ว่าราชการจังหวัดของแต่ละจังหวัดในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน War room ส่วนภูมิภาค ดำเนินการจัดชุดสายตรวจโดยบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด เป็นต้น ตรวจติดตามสถานการณ์ด้านราคาและปริมาณสินค้าอย่างใกล้ชิด และดำเนินคดีกับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายโดยทันที ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าและบริการที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ