“จาตุรนต์” ชี้ “ประยุทธ์” อยู่ต่อ-ออกไป ขึ้นอยู่กับ “พรรคร่วมรัฐบาล-ฝ่ายค้าน” สะท้อนพิษร้ายรธน.60

วันที่ 25 มกราคม 2565 นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและสมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อความพยายามอยู่ในอำนาจต่อของอดีตผู้นำรัฐประหารอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่ามกลางความนิยมที่ตกต่ำของรัฐบาลและความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาประเทศจนทำให้มีกระแสการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ว่า

ประยุทธ์อยู่ต่อ ประชาชนได้อะไร

ประยุทธ์ไป ประชาชนจะทำอย่างไร

ความขัดแย้งแตกแยกในรัฐบาลได้มาถึงจุดที่พลเอกประยุทธ์ไม่สามารถบริหารประเทศต่อไปได้แล้ว ที่พลเอกปะยุทธ์ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ได้เป็นเพราะฝ่ายต่างๆในรัฐบาลยังไม่พร้อมที่จะเลือกตั้งในทันที พลเอกประยุทธ์เองก็ยังต้องการหาทางลงจากหลังเสือแบบไม่เป็นอันตรายเกินไป ประกอบกับกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญยังไม่เสร็จ การยุบสภาในทันทีทันใดก็จะนำมาซึ่งความยุ่งยากเสียหายต่อบ้านเมืองที่พลเอกประยุทธ์เองไม่สามารถปัดความรับผิดชอบได้

รัฐบาลประยุทธ์จะอยู่ต่อไปได้นานเท่าใดไม่ได้ขึ้นกับตัวพลเอกประยุทธ์เอง แต่ขึ้นอยู่กับทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน หากพรรคร่วมรัฐบาลไม่สนับสนุนรัฐบาลในการทำหน้าที่ในสภา พลเอกประยุทธ์ก็อยู่ไม่ได้ แต่ถึงยังอยู่ได้ อย่างช้าก่อนเปิดสมัยประชุมหน้าในเดือนพฤษภาคม พลเอกประยุทธ์ก็ต้องหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านอยู่ดี

การอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ต่อจากนี้ไปไม่ใช่เพื่อการแก้ปัญหาประเทศหรือสร้างผลงานใดๆ แต่เป็นการซื้อเวลาเพื่อหาทางลดความเสียหายของพลเอกประยุทธ์เองเท่านั้น สภาพเช่นนี้จึงเป็นการซ้ำเติมความเสียหายต่อประเทศชาติที่กำลังประสบปัญหาอย่างร้ายแรงมานานเต็มทีแล้ว

การที่พรรคร่วมรัฐบาลตกอยู่ในสภาพแตกเป็นเสี่ยงๆนอกเหนือการกำกับควบคุมของนายกรัฐมนตรี ทั้งๆที่เป็นผู้เคยมีสว. 250 เสียงอยู่ในมือ เป็นผลมาจากการออกแบบรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเพื่อทำลายระบบพรรคการเมืองให้อ่อนแอ สส.ไม่ต้องฟังมติพรรค เกิดการเลี่ยงบาลียุบพรรคเพื่อควบรวมก็ได้ สมคบสมยอมกันเล่นละครขับสส.ออกจากพรรคเพื่อให้ย้ายพรรคก็ได้

สภาพเช่นนี้นอกจากทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอแล้วยังทำให้ผู้มีอำนาจและเงินสามารถกำกับบงการพรรคการเมืองและนักการเมืองได้ตามใจชอบ ทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อระบอบเผด็จการที่จะ สามารถใช้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเหยียดหยามประณามความเลวทรามของนักการเมือง ทั้งๆที่สิ่งเหล่านี้เป็นผลจากการวางระบบของพวกเนติบริกรที่รับใช้เผด็จการกับการใช้อำนาจเผด็จการบีบบังคับกวาดต้อนนักการเมืองจำนวนไม่น้อยให้มารวมตัวกันในพรรคการเมืองที่เป็นเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจของเผด็จการโดยแท้

สถานการณ์ทางการเมืองได้มาถึงจุดที่ไม่อาจคาดหวังว่ารัฐบาลแก้ปัญหาอะไรให้ประชาชนได้ จะหวังให้นายกฯที่ไม่มีความรู้ความสามารถคนนี้แก้เกมปรับตัวเพื่อให้บริหารประเทศต่อไปก็ไม่มีทางเป็นได้

สิ่งที่ประชาชนเราจะต้องช่วยกันคิดก็คือเมื่อประยุทธ์อยู่ไม่ได้แล้ว ทำอย่างไรรัฐบาลใหม่จะไม่ใช่พวกที่สืบทอดอำนาจมาด้วยกัน แต่เป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชนและพร้อมจะแก้ปัญหาประเทศตอบสนองความต้องการของประชาชนจริงๆ

7 ปีมานี้ พิสูจน์แล้วว่าการรัฐประหารและการปกครองโดยเผด็จการกับพวกนั้นมีแต่สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติมากขึ้นทุกที