กองทัพบูร์กินาฟาโซยึดอำนาจ ไม่ทราบชะตาปธน.กาโบเร

กองทัพบูร์กินาฟาโซยึดอำนาจ ไม่ทราบชะตาปธน.กาโบเร

กองทัพบูร์กินาฟาโซประกาศผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติว่าได้ทำการยึดอำนาจมาจากประธานาธิบดีรอช มาร์ก คริสติยอง กาโบเร แล้ว โดยอ้างว่าเป็นเพราะสถานการณ์ความมั่นคงในประเทศเป็นสาเหตุที่ทำให้จำเป็นต้องทำเช่นนี้

แถลงการณ์ของกองทัพระบุว่าประธานาธิบดีกาโบเรล้มเหลวที่จะสร้างความเป็นเอกภาพในชาติ รวมถึงล้มเหลวในการรับมือกับวิกฤตการณ์ด้านความมั่นคง ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อรากฐานจำนวนมากของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แถลงการณ์ระบุด้วยว่าทั้งรัฐบาลและรัฐสภาถูกยุบไปพร้อมกับระงับใช้รัฐธรรมนูญ แต่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะฟื้นคืนประชาธิปไตยภายในเวลาที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังได้มีการประกาศปิดพรมแดนของประเทศบูร์กินาฟาโซอีกด้วย

แถลงการณ์ดังกล่าวถูกอ่านโดยทหารคนหนึ่งในกองทัพแต่ลงนามโดยพันโทปอล อองรี ซานดัลโก ดามิบา ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้นำการปฏิวัติยึดอำนาจและเป็นผู้บัญชาการอาวุโสซึ่งมีประสบการณ์หลายปีในการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธมุสลิมหัวรุนแรง

ความไม่พอใจในตัวประธานาธิบดีกาโบเรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความล้มเหลวในการจัดการกับกลุ่มติดอาวุธมุสลิมหัวรุนแรง อย่างไรก็ดียังไม่ชัดเจนว่าขณะนี้เขาถูกนำตัวไปไว้ที่ใด โดยทหารระบุเพียงว่าผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมดอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย

การประกาศยึดอำนาจดังกล่าวมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่มีรายงานว่าทหารนอกแถวได้บุกยึดค่ายทหาร และได้ยินเสียงปืนดังขึ้นในกรุงวากาดูกู เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

ด้านพรรคเคลื่อนไหวเพื่อประชาชนก้าวหน้า (พีเอ็มพี) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่า ประธานาธิบดีกาโบเรและรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลรอดตายจากความพยายามในการลอบสังหาร

ก่อนหน้านี้มีภาพจากกล้องวิดีโอแสดงให้เห็นว่ารถกันกระสุนซึ่งเป็นรถที่ถูกใช้โดยประธานาธิบดีกาโบเรมีร่องรอยกระสุนยิงพรุน และถูกจอดทิ้งไว้บนถนนในกรุงวากาดูกู

ประธานาธิบดีกาโบเรไม่ปรากฏตัวในที่สาธารณะนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น แต่มีการโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ซึ่งโพสต์ล่าสุดเรียกร้องให้มีการวางอาวุธเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ

ทั้งนี้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีทหารจำนวนหนึ่งออกมาเรียกร้องให้ทำการปลดผู้บัญชาการทหาร พร้อมกับร้องขออาวุธยุทโธปกรณ์รวมถึงทรัพยากรที่จำเป็นในการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธที่มีความเชื่อมโยงกับกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) และอัลเคด้า

นายอันโตนิอู กุแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติออกมาประณามการรัฐประหารดังกล่าว และเรียกร้องให้กองทัพให้การรับรองว่าจะปกป้องและให้การดูแลประธานาธิบดีกาโบเรด้วย

ขณะที่สหภาพแอฟริกา (เอยู) และกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกาตะวันตก (อีโควาส) ซึ่งเป็นกลุ่มความร่วมมือในภูมิภาคแอฟริกาได้ออกมาประณามการยึดอำนาจที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งระบุว่าเป็นหน้าที่ของกองทัพที่จะต้องดูแลสวัสดิภาพของประธานาธิบดีกาโบเร

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าหลังมีข่าวการควบคุมตัวประธานาธิบดีกาโบเรและการยึดอำนาจ ประชาชนในกรุงวากาดูกูได้ส่งเสียงร้องยินดีและเฉลิมฉลองข่าวดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าสัญญาณอินเตอร์เน็ตในประเทศบูร์กินาฟาโซใช้การได้ไม่ดีนัก