“เพชร” หลั่งน้ำตากลางเวทีปราศรัยเผย เหตุฟางเส้นสุดท้ายลงสนามการเมือง ลั่นหมดเวลาประนีประนอม ขออาสาเข้าสภาไป จวกบิ๊กตู่ อ้อนขอคะแนนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ

วันที่ 22 ม.ค.2565 เมื่อเวลา 18.00 น. ที่ลานกีฬาชุมชนเสนานิคม 2 ซ.พหลโยธิน 34 นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 หลักสี่-จตุจักร พรรคก้าวไกล เบอร์ 6 จัดปราศรัยใหญ่ครั้งแรก โดยมีแกนนำและสมาชิกพรรคก้าวไกล

อาทิ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. ร่วมเวทีปราศรัย

โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนเขตจตุจักรและแฟนคลับของพรรคก้าวไกลมาร่วมฟังการปราศรัยจำนวนมาก รวมถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ก็มาร่วมฟังปราศรัยด้วยเช่นกัน ท่ามกลางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เข้มข้น ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าร่วมฟังปราศรัย และการจัดที่นั่งฟังปราศรัยแบบเว้นระยะห่าง

นายกรุณพล กล่าวเริ่มต้นว่า หลายคนสงสัยว่าทำไมพรรคก้าวไกล จึงส่งดารามาลงสมัคร บางคนคิดว่ากลัวแพ้จึงส่งดารามาลง บางคนก็บอกว่าทำไมเอาคนไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองมาเล่นการเมือง ทั้งนี้ขณะกล่าวนายกรุณพล มีเสียงสั่นเครือก่อนน้ำตาจะไหลจนต้องหยุดการพูดไปช่วงหนึ่ง ก่อนกล่าวต่อว่า

ก่อนหน้านี้ ตนเห็นว่าอดีตพรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคการเมืองเพื่อประชาชน และไม่มีนายทุนผูกขาด แต่การไปขวางทางผู้มีอำนาจและไปตีแผ่ความไม่ชอบมาพากลในประเทศนี้ สุดท้ายพรรคก็ถูกยุบ นั่นเป็นฟางเส้นสุดท้ายของตนที่รู้สึกว่าแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาตามระบอบรัฐสภาได้หายไป แต่เมล็ดพันธุ์ที่พรรคอนาคตใหม่หว่านลงไปแล้วแตกหนอออกมาเป็นต้นใหม่คือพรรคก้าวไกล เมื่อตนทราบ

สิ่งเดียวที่ทำได้คือเดินไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล มันเป็นความอัดอั้นใจ และตนเชื่อว่าคนหลายคนก็อึดอัดใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ในประเทศนี้ เราเห็นคนลำบากมามากเกินไปแล้วเราเห็นอนาคตของชาติถูกขังอยู่ในเรือนจำเพียงเพราะเรียกร้องอนาคตของตัวเอง

นายกรุณพล กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นเพียงคนตัวเล็กๆ ที่อยากมีสิทธิ์และหน้าที่ในการช่วยให้พ่อแม่พี่น้องให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เราพอหรือยังกับการบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาด ที่บอกว่าเราจะมีวัคซีนเพียงพอและให้ประชาชนได้ออกมาใช้ชีวิตตามปกติแต่มันเกิดขึ้นหรือไม่

วันนี้กระทรวงกลาโหม ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อนุมัติงบประมาณซื้อเครื่องบิน F-35 จำนวน 4 ลำ มูลค่า 1.38 หมื่นล้านบาท แต่ไม่มีเงินที่จะมาช่วยเหลือทางด้านสาธารณสุข เพื่อหาชุดตรวจเอทีเค และวัคซีนให้ประชาชนอย่างเพียงพอ เพื่อให้ออกมาใช้ชีวิตตามปกติและเศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อไปได้

เงินเพียงเท่านี้เขาให้เราไม่ได้ แต่สามารถเอาไปซื้อเรือดำน้ำ เครื่องบิน รถถัง หรืออาวุธได้มากมาย ตนอยากถามว่า วันนี้ทุกประเทศทั่วโลกพบเจอกับปัญหา โควิด-19 มีประเทศไหนอยากจะรบกับเราหรือไม่ พรรคก้าวไกลและตนมีความเห็นตรงกันว่า เราต้องการให้ทุกคนมีเสรีภาพ ทุกคนต้องเท่าเทียม และเสมอเหมือนกันทั้งทางด้านกฎหมาย สาธารณสุข การศึกษา และสวัสดิการ

“วันนี้พรรคก้าวไกล จึงส่งผมซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าเป็นดารา แต่ขอย้ำอีกครั้งว่าดาราเป็นเพียงอาชีพที่ผมใช้ทำมาหากินมาตลอดชีวิต แต่ดาราคนนี้จบเศรษฐศาสตร์ เป็นเจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอี และดาราคนนี้พร้อมจะเข้าไปด่าพล.อ.ประยุทธ์

ถึงเวลาแล้วที่เราจะไม่ประนีประนอม และจะไม่พูดจาดีๆด้วยกับคนที่ไร้วิสัยทัศน์และไม่มีเหตุผล ถึงเวลาที่เราต้องการการเปลี่ยนแปลง ต้องการคนที่พุ่งชนปัญหา และพูดตรงๆ อย่างดุดัน แต่ไม่ก้าวร้าว เราจะก้มโค้งให้ประชาชน แต่เราจะยืนตรงต่อหน้าเผด็จการ” นายกรุณพล กล่าว

นายกรุณพล ปราศรัยต่อว่า พรรคก้าวไกลมีส.ส.ที่เป็นสาวเย็บผ้า มีส.ส. ที่เป็นอาจารย์ มีส.ส. ที่เป็นวิศวกร และวันนี้พรรคก้าวไกลกำลังจะมีส.ส.ที่เป็นดารา แต่สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยเสียงจากพี่น้องประชาชนทุกคน ที่จะเข้าคูหาในวันอาทิตย์ที่ 30 ม.ค.นี้ เพื่อกาเบอร์ 6 เพื่อส่งเสียงให้รัฐบาลรู้ว่าเราจะไม่ทนและต้องการการเปลี่ยนแปลง