“พิธา” ชี้ อย่าเดาใครผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. บอก รอ 23 ม.ค. เชื่อ สร้างความเปลี่ยนแปลงให้คนกรุงฯ เชื่อ ปมขัดแย้งในพปชร. กระทบเสถียรภาพรัฐบาล ลั่น ฝ่ายค้านจะเป็นเสาหลักช่วงรัฐบาลไม่มีสมาธิ ‘วิโรจน์’ แย้มเหตุ แจมแสดงคลิปหาเสียง ผู้ว่าฯ กทม. แบ่งรับแบ่งสู้ ถูกจับตาเป็นแคนดิเดตฯ ก้าวไกล

วันที่ 21 มกราคม 2565 เมื่อเวลา 11.15 น.ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก) ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า ขณะนี้เป็นการคาดเดากันไปต่างๆ นานา ซึ่งอยากให้รู้ว่าพรรค ก.ก. เอาจริงในการแก้ปัญหาให้คนกทม. โดยเสนอผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ที่พร้อมชนทุกปัญหานั้น เพื่อให้กทม.เกิดความเปลี่ยนแปลงได้จริง ส่วนที่มีการคาดเดาว่าเป็นนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรค ก.ก. อาจเป็นการอนุมานไปล่วงหน้าเอง ซึ่งทั้งนี้ต้องรอดูวันที่ 23 มกราคม อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า ตัวแคนดิเดตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ทีมงานและทีมนโยบายทุกคน มีความตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่แน่นอน

เมื่อถามถึง ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า กระทบเสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลแน่นอน ซึ่งน่าเสียดาย เพราะตอนนี้ศึกในเข้มข้น แต่ศึกนอกเข้มข้นมากกว่า เนื่องจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจที่ตนเรียกว่า “เศรษฐกิจ ฟุบ เฟ้อ” วันนี้มีใครเชื่อหรือไม่ว่าเงินเฟ้อเพียง 1.5% ซึ่งสวนทางกับอารมณ์เวลาเดินตลาด ดังนั้น เราต้องรื้อตะกร้าเงินเฟ้อใหม่หมด ในส่วนของฝ่ายค้านเองได้มีการพูดคุยกัน ว่าฝ่ายค้านต้องเป็นเสาหลักในการสู้วิกฤต ขณะที่รัฐบาลไม่มีสมาธิในตอนนี้

ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวเป็นแคนดิเดตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ของพรรค ก.ก. ว่า “ขอให้รอความชัดเจนในวันที่ 23 มกราคมนี้ ถ้าจะให้ผมตอบปฏิเสธก็คงไม่ได้ แต่ถ้าจะให้ตอบรับเลยคือให้เป็นไปตามกำหนดการ”

เมื่อถามถึงกรณีที่นายวิโรจน์ปรากฏตัวในคลิปประชาสัมพันธ์หาเสียงให้แคนดิเดต ผู้ว่าฯ กทม. ของพรรค ก.ก. มีนัยยะที่จะสื่อสารอะไร นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนไปเป็นตัวแสดงว่าชีวิตของคนกทม. เป็นอย่างไร เมื่อถามย้ำว่าเหตุใดพรรค ก.ก. จึงเลือกนายวิโรจน์ เป็นตัวแสดง นายวิโรจน์ กล่าวว่า ในคลิปถ่ายตนจากบริเวณข้างหลัง จึงเลือกตน เพราะตัวใหญ่ และหลังใหญ่ เพื่อจะให้ขึ้นกล้อง โดยเราพยายามจะสื่อสารและสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตของมนุษย์กรุงเทพฯ ให้มากที่สุด

นายวิโรจน์ กล่าวว่า คุณสมบัติแคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม. ของพรรค ก.ก. เป็นไปตามคอนเซ็ปที่ต้องพร้อมชนเพื่อคนกรุงเทพฯ เพราะที่ผ่านมามีผู้ว่าฯ กทม. ที่ทำตัวเป็นกลางมาตลอด ทำให้กรุงเทพฯ ยังเป็นอย่างที่เราเห็น คือปัญหาที่ควรจะแก้กันตรงๆ ก็แก้แบบปะผุ และแก้ปัญหากันเป็นรายปี โดยในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมาผู้ว่าฯ กทม. ก็ไม่ได้เป็นกลาง และก็ไม่กล้าจะชนกับปัญหาเพื่อรักษาชีวิตของคนกรุงเทพฯ

การชนนั้นไม่ได้หมายความว่าต้องชนกับใคร แต่เป็นการชนกับ 1.ระบบราชการของกรุงเทพฯ 2.ระบบราชการส่วนกลางที่มีหน่วยงานซ้ำซ้อนเต็มไปหมด โดยผู้ว่าฯ กทม. ก็มีอำนาจจำกัดด้วยกฎหมาย และ 3.นายทุนที่คอยสูบเลือดสูบเนื้อคนกรุงเทพฯ ดังนั้นจึงต้องมีผู้ว่าฯ กทม. ที่ทำหน้าที่ประสาน พร้อมชนกับปัญหา และไม่ลอยแพชีวิตคนกรุงเทพฯ ให้เป็นไปตามยถากรรม

ผู้ว่าฯ กทม. ที่เราเลือกจะต้องเป็นคนที่เข้าใจความเจ็บปวด และความเจ็บจนชินของคนกรุงเทพฯ ที่กว่าจะได้ชีวิตดีๆ ก็ต้องจ่ายเงินไม่ว่าจะจนหรือจะรวย