‘ไทยสร้างไทย’ เปิดตัว “ปณิธาน ประจวบเหมาะ” เสริมทัพคนรุ่นใหม่

คนรุ่นใหม่แห่ซบ ไทยสร้างไทยต่อเนื่อง ล่าสุด “ปณิธาน ประจวบเหมาะ” เปิดตัวเสริมทัพคนรุ่นใหม่เพิ่ม เจ้าตัวพร้อมหนุน บำนาญประชาชน 3,000 บาท แก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย เผยเสียงตอบรับดี ชาวบางนาถูกใจทั้งคนทั้งพรรค

วันที่ 19 มกราคม 2565 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ให้การต้อนรับ นายปณิธาน ประจวบเหมาะ เข้าเป็นสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย โดยจะเข้ามาเสริมทัพคนรุ่นใหม่ หลังจากเริ่มต้นทำงานในพื้นที่เขตบางนา ได้รับเสียงขานรับ สนับสนุนการมาร่วมงานกับคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นอย่างดี

และสัมผัสได้ว่า ประชาชนคนบางนา ยังชื่นชอบและพร้อมให้การสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ เมื่อประสานเข้ากับการทำงานในพื้นที่เลือกตั้งเดิมของบิดาพันตำรวจโทกุลธน ประจวบเหมาะ รวมทั้งคุณปู่คือ นายธรรมนูญ ประจวบเหมาะ ที่เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในเขตบางนา ซึ่งทั้งสองท่านได้วางรากฐานทำงานพื้นที่มาโดยตลอด จึงได้รับการตอบรับจากพี่น้องชาวบางนา ที่สะท้อนว่าถูกใจทั้งคนและพรรค

รวมถึงนโยบายพรรคที่มุ่งสร้างโอกาส สร้างรายได้ ให้ประชาชน เพื่อนำพาเศรษฐกิจที่ดีกลับมาสู่ประเทศไทยอีกครั้ง โดยตนตั้งใจที่จะลงพื้นที่ทุกวันเพื่อไปรับฟังทุกปัญหาอย่างจริงจัง จะได้รู้ปัญหา รู้ความต้องการที่แท้จริงจากเสียงของประชาชน รู้ว่าประชาชน เดือดร้อนอะไร และอยากให้แก้ไขปัญหาเรื่องใดบ้าง เพื่อจะนำไปสู่การแก้ไขได้อย่างถูกต้องตรงความต้องการ ของประชาชนให้มากที่สุด

นายปณิธาน ระบุด้วยว่า บำนาญประชาชน 3,000 เป็นนโยบายที่ตรงใจประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่บางนา ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ ที่มีผู้สูงอายุในชุมชนเป็นจำนวนมาก จากข้อมูลของกรมกิจการผู้สูงอายุ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 พบว่า จำนวนประชากรผู้สูงอายุมีทั้งหมด 11.62 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 17.57 ของประชากรไทยทั้งหมด

ยิ่งไปกว่านั้นไทยกำลังจะเป็นประเทศกำลังพัฒนา ประเทศแรกของโลก ที่ก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุแบบสมบูรณ์ (Aged Society) ในปี 2565 และคาดว่าจะขยับขึ้นเป็นสังคมสูงอายุแบบสุดยอด (Hyper Aged Society) หรือมีสัดส่วนประชากรสูงอายุเข้าหา 20% ในปี 2574

ดังนั้นนโยบายดังกล่าวของพรรค จึงตอบโจทย์ ปัญหาสำคัญของประเทศ และนโยบายดังกล่าวจะช่วยลดภาระของลูกหลาน ที่ต้องเลี้ยงดูส่งเสียบิดามารดา ทั้งที่ตัวเองก็หารายได้ไม่เพียงพอในการดูแลครอบครัวตัวเองอยู่แล้ว

ขณะเดียวกันนายปณิธาน ยังย้ำถึงจุดยืนทางการเมืองของตนเองว่า มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งตนเองเห็นว่าประเทศไทยยังไม่เป็นประชาธิปไตยที่สากล ตนเองจึงสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้เป็นประชาธิปไตย รวมถึงการยกร่างการแก้ไข รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อเป็นบันไดก้าวแรกไปสู่การมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. และการยกเลิก มาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย