อรรถวิชช์ ลั่น!พรรคกล้า ไม่ใช่ประชาธิปัตย์ สาขา 2 ประเมินกระแสตอบรับดีขึ้น

“อรรถวิชช์” ลงพื้นที่ตลาดหลักสี่ ปลื้มกระแสตอบรับดี ชี้ ปชช.เข้าใจ ไม่ใช่ ปชป. สาขาสอง จ่อปราศรัยใหญ่ 28 ม.ค. จี้ กกต. รณรงค์การซื้อสิทธิ์ขายเสียง พร้อมชวนคนสงขลา-ชุมพร ใช้สิทธิ์ ลต.ซ่อมพรุ่งนี้
เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่ตลาดริมบึงเมืองทอง ย่านหลักสี่ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.หลักสี่-จตุจักร เบอร์ 2 พรรคกล้า ลงพื้นที่พบปะพี่น้องพ่อค้าแม่ค้า พร้อมเน้นย้ำถึงแนวทางการทำงานของพรรคกล้า ที่จะเน้นเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก และให้ความรู้เรื่องการทำบิลสำหรับจ่ายภาษีในโครงการคนละครึ่ง ซึ่งได้รับความสนใจอย่างดี โดย นายอรรถวิชช์ กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม จ.ชุมพร และ จ.สงขลา ที่หาเสียงวันนี้เป็นวันสุดท้ายและเลือกตั้งวันที่ 16 มกราคมว่า ขอย้ำว่าพรรคกล้าเป็นเวทีให้คนคุณภาพที่เขาเป็นตัวจริงในแต่ละสาขาอาชีพ คนหนึ่งคือ นายพงศธร สุวรรณรักษา เบอร์ 4 สงขลา เป็นทนายความนักสู้ อีกคนคือ พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ เบอร์ 5 ชุมพร เป็นอดีตผู้กำกับที่อายุยังน้อย แต่ลาออกจากราชการมาทำการเมือง

“ถ้าอยากเห็นภาคใต้เปลี่ยนเป็นการเมืองที่ไม่ใช่การเมืองครอบครัว ไม่ใช่การเมืองเครือญาติ 16 มกราคม เป็นตัวตัดสินสำคัญ ขอฝากไว้ด้วยครับ อารมณ์ของทางใต้กับกรุงเทพมีความต่าง เราลองดู เปลี่ยนหรือไม่ อยู่ในมือท่าน การเมืองคุณภาพ การเมืองสร้างสรรค์เป็นไปได้” นายอรรถวิชช์ กล่าว

(ชมคลิป)

ส่วนการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมกรุงเทพมหานคร นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าประชาชนให้การตอบรับดีขึ้น ในเขตจตุจักรมีความคุ้นชินกันดีอยู่แล้ว ส่วนเขตหลักสี่คนเริ่มเปิดใจ และเข้าใจมากขึ้นว่า พรรคกล้าไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์สาขาสอง ส่วนการหาเสียงในกลุ่มหมู่บ้าน-คอนโด ได้การตอบรับดีมาก หลายคนดีใจที่ตนกลับมาลงสมัคร แม้มีเวลาหาเสียงน้อยแต่จะพยายามไปให้ครบทุกที่ เชื่อว่าพรรคกล้าเรามาถูกทางกับการสร้างพรรคแนวเศรษฐกิจแบบนี้ ก่อนจะมีการปราศรัยใหญ่ในวันที่ 28 มกราคม ขณะนี้ก็จะมีการปราศรัยย่อยทุกวันระหว่างลงพื้นที่หาเสียง โดยเน้นให้ความรู้เศรษฐกิจฐานราก เศรษฐกิจเพื่อคนตัวเล็ก ส่วนช่วงเย็นก็สำรวจทางลัด ทางระบายน้ำ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมและการจัดการน้ำในเขตหลักสี่-จตุจักร โดยวันที่ 30 มกราคม จะเป็นตัวชี้วัดได้อย่างดี และฝากถึงสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้รณรงค์เรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียงและให้คนออกมาใช้สิทธิ์เยอะๆ

นายอรรถวิชช์ กล่าวต่อว่า สำหรับปัญหาราคาสินค้าแพงโดยเฉพาะราคาหมู รัฐบาลต้องแก้ไข โดยอาจมีการนำเข้าหมูในระยะสั้น แต่ต้องไม่กระทบเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อย จึงอยากฝากให้รัฐบาลดูแลกลไกราคา เพราะขณะนี้ไม่ใช่แค่หมูที่ราคาแพง ยังลุกลามไปถึงสินค้าอื่น ซึ่งจากการลงพื้นที่ หลายร้านยอมกำไรลดจากการขายอาหารสำเร็จรูป แต่เชื่อว่าอาการแบบนี้อยู่ได้อีกไม่เกิน 2 เดือน หากราคาหมูยังเป็นแบบนี้ ราคาอาหารสำเร็จรูปจะขึ้นแน่ จึงอยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไข รวมถึงปัญหาราคาล็อตเตอรี่แพง ซึ่งพบว่าราคาในท้องตลาดยังมีความหลากหลาย จึงอยากให้กองสลากควบคุมราคาให้ดีกว่านี้