หมูแพง : รมช.เกษตรฯยันหมูพอในระบบ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ลั่นไม่ลาออก ไม่ได้ทำอะไรผิด!

เรื่องใหญ่! ชวนถกวิกฤต ‘หมูแพง’ จี้เร่งพัฒนาวัคซีน รมช.เกษตรฯแจงหมูในระบบมีเพียงพอ แล้วหายไปไหน? อธิบดีกรมปศุสัตว์ ลั่นไม่ลาออก ไม่ได้ทำอะไรผิด

รายการโหนกระแสวันที่ 13 มกราคม “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เกาะติดสถานการณ์หมูแพงที่ตอนนี้ราคาไปไกลมาก กระทบทุกหย่อมหญ้า โดยสัมภาษณ์ ภมร ภุมรินทร์ ประธานกรรมการสหกรณ์ผู้เลี้ยงสุกร จ.ชลบุรี คุณพล พีรพล ฤทธิเพชรอัมพร ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรปศุสัตว์ราชบุรี จำกัด, สพญ.วรวรรณ กิตติศักดิ์ชนะ กรรมการสหกรณ์การเกษตรปศุสัตว์ราชบุรี จำกัด, นัยนา มาทำไม ผู้บริหารร้านย่างเนย 100 สาขา ตอนนี้ลำบากมาก, จงใจ กิจแสวง เจ้าของแบรนด์หมูทอดเจ๊จง มันเกิดอะไรขึ้น และจะฟื้นฟูเรื่องนี้อย่างไร

เจ๊จงเปิดร้านขาหมูมานานหรือยัง?
เจ๊จง : เกือบ 20 ปีแล้วค่ะ

เคยเจอกรณีหมูแพงขนาดนี้มาก่อนมั้ย?
เจ๊จง : ไม่เคยเจออะไรที่ขนาดนี้ เชื่อมั้ยเปิดร้านมาวันที่สามทั้งอาทิตย์เครียด จนบอกลูกว่าเราน่าจะหลุดออกจากตรงนี้ไปสักวัน ไม่งั้นตายแน่ๆ ไม่ใช่แค่เจ๊เครียด ลูกแต่ละคนก็บอกว่าไม่ไหว จริงๆ เขาร้องกับเจ๊มาตั้งแต่ก่อนปีใหม่แล้วว่าเขาขายแล้วขาดทุนกันนะแม่ เขาใช้คำว่าโปรดพิจารณาด้วยกับการที่จะต้องขึ้นราคาที่ขายอยู่ทุกวันนี้ เพราะเขาไม่ไหวกันจริงๆ เจ๊ก็บอกว่าไหนๆ จะปีใหม่แล้ว เจ๊ก็รู้ว่าตอนนั้นก็วิกฤตเหมือนกัน คนที่ลำบากก็เยอะ เจ๊เลยบอกว่าแม่ขอได้มั้ย ขอหลังปีใหม่ แต่ขอปรึกษาผู้ใหญ่ก่อนว่าจะเอายังไงดี เจ๊ก็โทรหาผู้ใหญ่ว่าขอปรึกษาหน่อยได้มั้ย ตอนนี้ของขึ้นขนาดนี้จะปรับเท่าไหร่

เมื่อก่อนเจ๊เคยซื้อหมูราคาเท่าไหร่?
เจ๊จง : 115-125 แล้วก็มา 135 ถ้าเลยจาก 135 เจ๊จะบอกลูกค้าว่าเจ๊ขอปรับนิดนึงนะ เดี๋ยวถ้ามันลงมาต่ำกว่า 135 หรือ 135 เจ๊จะลดให้

อันนี้หมูสามชั้น หรือหมูทั่วไป?
เจ๊จง : สะโพกหลังที่เจ๊ทอดอยู่นี่แหละค่ะ ถ้า 135 นี่คือติดเพดานที่เจ๊จะไม่มีกำไรเหลือแล้ว จากที่เจ๊ขายราคาตอนที่ยังไม่ขึ้นค่ะ

ล่าสุดซื้อเท่าไหร่?
เจ๊จง : ของเจ๊ยังโชคดีที่ยังดึงราคาได้ที่ 155 แต่ตอนนี้ส่งข่าว รอปรับอีก 2 รอบ

เจ๊รู้ใช่มั้ยข้างนอกซื้อกันที่ราคา 200 กว่าบาท แต่เจ๊ได้ในราคา 155?
เจ๊จง : 155 เจ๊ก็แย่แล้ว เพราะด้วยราคาที่เจ๊ขาย เจ๊ก็พยายามที่จะดึง สุดท้ายแล้วเจ๊มองว่าพอเจ๊ไม่ไหว หรือคนขายหมูไม่ไหว ก็มาอยู่ที่แม่ค้า แม่ค้าไม่ไหวก็ไปอยู่ที่ลูกค้า เจ๊มองว่าทั้งหมดไปตกอยู่ที่ลูกค้า พอเราเห็นตรงนี้ทำให้เรารู้สึกเครียด เมื่อก่อนเวลาเจ๊จะขึ้น เจ๊ขึ้น 1 บาท 2 บาทเต็มที่แล้ว ต่อที่เจ๊ขาย เจ๊จะมีข้าวราดใส่ถุง ข้าวหมูราดใส่ถุงกับใส่กล่อง แล้วมีหมูเป็นขีด เมื่อก่อนขึ้นทีละบาท อย่างหมูเคยขึ้นสองบาท ก็เท่ากับโลนึงขึ้น 20 บาท แต่เวลาหมูลงปุ๊บเจ๊ก็ลงเลย แต่ตอนนี้ต้องขึ้นทีละ 3 บาท

ถามทางฝั่งคุณนัย คุณเปิดย่างเนย 100 สาขา เดือดร้อนมั้ย?
นัย : เหตุการณ์คล้ายๆ เจ๊จง ตอนช่วงปลายปี เราดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ ลูกค้าเราร่วมร้อยคน ไม่นับลูกค้ารายย่อยที่มาทานที่ร้าน ทุกคนบอกว่ายิ่งขายยิ่งขาดทุน กำไรเหลือน้อยมาก

เมื่อก่อนซื้อหมูเท่าไหร่?
นัย : เอาเป็นว่าเพิ่มมา 80 บาท ตั้งแต่เดือน ส.ค.ปีที่แล้วถึงตอนนี้ พอเริ่มมีข่าวลือก็ค่อยๆ ขึ้น แล้วผมใช้หมูส่วนที่แพงที่สุดของมัน ใช้สันคอ ต่อสาขา ใช้กันวันละ 40 โล สองพาร์ทรวมกัน ไม่รวมธุรกิจอื่นๆ อย่าคูณครับ เพราะมันเยอะ (หัวเราะ)

ปัจจุบันสั่งเท่านี้มั้ย?
นัย : พอประกาศขึ้นราคา มันเซนซิทีฟมาก เราประชุมจะเอายังไงดี สุดท้ายเอาวะ ทุบโต๊ะขึ้นราคากัน พอขึ้นราคา ข่าวโควิดเข้าอีกรอบ ยอดตกเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ คราวนี้จับต้นชนปลายไม่ถูกแล้วว่าเพราะเราขึ้นราคาหรือเพราะโรคโควิดกันแน่ แต่ยอดตกลงชัดเจน

นี่คือปัญหาของผู้ประกอบการ ร้านค้าที่ขายอาหาร มีผลกระทบมาก เจ๊จงถึงขั้นอาจขอหยุดก่อนสักพักเพราะไม่ไหว พี่ภมรปัญหาที่เกิดมันเกิดอะไร?
ภมร : ก็โรงงาน เปรียบเหมือนแม่พันธุ์ที่หายไปจากระบบ เป็นโรงงานผลิตลูกออกมา เราคิดว่าเราเกิดวิกฤตครั้งนี้เพราะหมูตายมาก ตายเร็วและรุนแรง ในชลบุรีมีสมาชิกสหกรณ์อยู่ 100 กว่าราย ตอนนี้เลิกไป เหลืออยู่ 74 ราย เฉพาะ 74 รายที่ร้องทุกข์มา แม่หมูประมาณ 2 หมื่นแม่ สามารถผลิตหมูขุนเดือนนึงไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นตัวต่อเดือน หายไปจากระบบเลย พื้นที่ตะวันออกที่จะเอาหมูเข้ากรุงเทพฯไม่มีแล้ว ชลบุรีถ้าพูดกันไป ทั้งสมาชิกและพื้นที่ หมูจะเสียหายประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์

ฝั่งพี่พล ราชบุรีถือว่าเป็นหนึ่งในจังหวัดขายหมูเป็นหลัก ผลกระทบเกิดจากอะไร?
พล : ถ้าย้อนหลังไปเมื่อสองสามปีก่อนที่มีโรคระบาดรอบบ้านเรา ทางการเลี้ยงภายในระบบของประเทศก็มีการป้องกัน เพื่อบล็อกไม่ให้โรคเข้าประเทศ หลังความพยายามของทุกภาคส่วน วันนี้กรมปศุสัตว์เขาประกาศแล้วว่าเราตรวจพบโรคนี้ เป็นผลให้เห็นว่าที่ผ่านมาเราอาจประสบโรคนี้ หรือไม่ประสบก็ได้ เพราะในวันวาน ไม่มีหลักฐานยืนยัน แต่วันนี้มีการพิสูจน์แล้วว่ามี จากนี้ไปเมื่อเกิดโรคระบาดขึ้นมาแล้ว เราต้องหาวิธีป้องกัน แก้ไข

ราคาหมูแพงทุกวันนี้ พี่จะบอกว่าหมูเป็นโรคก่อน โรคอหิวาต์ แอฟริกา เกือบๆ 3 ปีแล้ว แต่เท่าที่ทราบมีสองแบบ คือหนึ่งผู้ประกอบการแบบรายย่อยจะเลี้ยงแบบฟาร์มเปิด กับอีกหนึ่งผู้ประกอบการรายใหญ่เลี้ยงแบบปิด จริงเท็จยังไงไม่ทราบ ขอถามเป็นความรู้ พอหมูเขาตายเพราะเป็นโรค เขาไม่กล้าบอก เพราะถ้าบอกจะถูกฆ่าหมูทั้งฟาร์ม เขาเลยปกปิดกันด้วยหรือเปล่า?
พล : ครับ

เพราะเขาไม่มีเงินลงทุนไปต่อยอดเขา?
พล : ครับ แล้วที่ผ่านมา วิธีการทำ หรือป้องกัน ทุกคนก็ทำดีที่สุดจนมาถึงวันนี้ วันที่เกิดภาวะหมูแพง คนเลี้ยงหมูในอดีตที่ผ่านมาเหมือนเป็นอาชีพที่สังคมไม่เห็นค่า เราจะมาเจอกันเวลาหมูแพง เจ๊จงก็รู้ เวลาหมูถูกคนเลี้ยงหมูขาดทุน เราไม่เจอกันนะ เป็นหน้าที่พวกคุณ แต่เวลาหมูแพง ประชาชนเดือดร้อน คนเลี้ยงหมูต้องออกมา วันนี้การที่หมูแพงจากโรคระบาดที่เกิดขึ้นมากมาย เกษตรกรต้องขาดทุน เสียหาย บางคนเป็นหนี้เป็นสิน เราก็มุ่งหวังว่ารัฐบาล หน่วยราชการ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยหาทางออก มาบรรเทา ให้เราผลิตได้เหมือนเดิม เพื่อให้หมูเป็นความมั่นคงทางอาหารของประเทศต่อไป

คุณหมอก็เป็นสัตวแพทย์หญิง กรณีหมูที่เสียชีวิตเรื่องเร่งด่วนมั้ย ต้องทำอะไรยังไงบ้าง?
สพญ.วรวรรณ : ในมุมมองคิดว่าน่าจะให้นักวิชาการบ้านเรา เรามีหลายๆ มหาวิทยาลัย มีนักวิชาการที่เก่งมากๆ หลายๆ ท่าน ให้มาระดมว่าเราจะผลิตวัคซีนออกมายังไง อันนี้เป็นทางออกจริงๆ ของการแก้ปัญหาราคาหมูแพงเลย ถ้าเมืองไทยมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพที่ดี และทำให้ลดอัตราการเสียหายลงไปได้จริงๆ ระบบเศรษฐกิจหมูมันจะกลับคืนมา น่าจะต้องส่งเสริมเรื่องทุนวิจัยลงไปอย่างจริงจัง แล้วให้ภาครัฐเป็นตัวกลาง ทำให้อาจารย์หลายๆ ภาคส่วน คนที่เก่งด้านไวรัสวิทยามาเจอกัน แล้วผลิตวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ

โรค ASF กำลังสร้างความวุ่นวายให้คนเลี้ยงหมูกันมาก อาจารย์มองว่าต้องมีหน่วยงานไหนมาเกี่ยวข้องและผลักดันเรื่องวัคซีนมาดูแล มันมีวัคซีนที่รักษาได้ใช่มั้ย?
สพญ.วรวรรณ : ตอนนี้ยังไม่มีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ แต่ในหลายๆ ประเทศ รวมถึงมหาวิทยาลัยชั้นน้ำของประเทศเรา อาจารย์หลายๆ ท่านเขาต้องการพัฒนาวัคซีนตัวนี้ให้เกิดขึ้นมาอยู่แล้ว เพื่อช่วยเหลือภาคเกษตรกร แต่เมื่อก่อนเราไม่สามารถเปิดโรคได้ การทำวิจัยไม่สามารถทำได้อย่างถูกกฎหมาย เพราะใครถือเชื้อไว้เพื่อทำวิจัยมันผิดกฎหมาย แต่ ณ วันนี้ที่เรารับรู้แล้วว่ามีการเปิดโรคแล้ว ฉะนั้น ภาครัฐควรควรลงมาส่งเสริมเรื่องการวิจัยวัคซีนตรงนี้ให้เกิดขึ้น แล้วอาจเป็นโอกาสในวิกฤตด้วย ถ้าเราสามารถทำวัคซีนที่มีประสิทธิภาพที่ดีให้เกิดขึ้นได้ เราสามารถช่วยเหลือเกษตรกรในภาคเลี้ยงหมู เราอาจได้เงินจากต่างประเทศในการขายวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในประเทศไทยได้

ปกติหมูในประเทศไทยปีนึงผลิตได้ประมาณปีละเท่าไหร่?
ภมร : แม่พันธุ์ถ้าอยู่ในระบบในประเทศไทยอยู่ประมาณ 1.1 ล้านแม่ ถึง 1.2 ล้านแม่ ผลิตหมูขุนประมาณ 22 ล้านตัว อันนี้คิดกลางๆ มันมีข้อเปรียบเทียบว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้วตอนเราเกิดปัญหาเรื่องโรคพีอีดีและโรคเพิร์ส แม่หมูจาก 1.2 ล้านแม่ เหลือ 8 แสนแม่ มันทำให้ราคาหมูใน 10 ปีนั้นขึ้นมา 90 บาท ก็ทำบัญญัติไตรยางศ์เลย วันนี้เราคาดการณ์ว่าแม่พันธุ์จะเสียหายแล้วเหลืออยู่ต่ำกว่า 8 แสนแม่ อาจเหลืออยู่สัก 4-5 แสนแม่ ฉะนั้น บัญญัติไตรยางศ์บอกว่า 8 แสนแม่ราคายังอยู่ที่ 90 บาท อันนี้เป็นดีมานต์ ซัพพลาย แต่ถ้าเหลือ 5 แสนแม่ วันนี้ถึงเห็นไงครับ ราคาหมูเป็นอยู่ที่ 110-120 บาท

22 ล้านตัวที่ผ่านมาเหลือประมาณกี่ล้านตัว?
ภมร : หมูขุนถ้าแม่เหลือ 5 แสน เหลือประมาณ 10 ล้านตัว เพราะแม่พันธุ์เหลือ 5 แสน ผลิตหมูขุนได้ 20 ตัว ต่อแม่ต่อปี ก็เหลือ 10 ล้านตัว หายกันครึ่งๆ ครับ บอกคุณหนุ่ม วันนี้แค่เริ่มต้นเท่านั้น

เจ๊จง : ถ้าไม่มีวัคซีนออกมาอย่างนี้ ถ้าคลอดออกมา มันจะตายมั้ยคะ

สพญ.วรวรรณ : วันนี้เราไม่มีแม่พันธุ์ที่จะคลอดด้วยซ้ำค่ะ

เจ๊จง : ตายแล้ว

นัย : อย่างที่รัฐบอกว่าห้ามส่งออกก่อน อันนี้คือได้แค่ชะลอ หรือแก้

ภมร : การส่งออก เราไม่ได้ส่งออกตั้งแต่กลางปีที่แล้วแล้ว วันนี้ราคาที่เราเคยส่งออกไปต่างประเทศเขาถูกกว่าเราแล้ว หมูเป็นเราขึ้นมาร้อยกว่าบาท เขมรวันนี้อยู่ที่ 60-70 บาท เวียดนามอยู่ที่ 60-70 บาท

เจ๊จง : เจ๊ได้เข้าสายคุยกับท่านโฆษกรัฐบาลเมื่อประมาณ 3 วันได้มั้งในอีกรายการนึง ท่านบอกว่าคนไทยกินหมูประมาณ 17-18 ล้านตัว ส่งออกปีละ 1 ล้านตัว เขาบอกว่าไม่ให้ส่งออก อาจเอา 1 ล้านตัวมาช่วยได้ เจ๊ก็คิดว่ามันจะช่วยยังไง

มันจะเหลือกี่ตัว?
ภมร : วันนี้ต้องบอกว่าโรคยังไม่หยุดนะครับ ถ้าหน้าฝนมา กระจายมากกว่านี้อีก

ปัจจุบันเหลือ 10 ล้านตัว แล้วจากนี้ไปในปี’65 ถ้าไม่มีป้องกัน หรือล้อมคอก จะยังไง?
ภมร : ก็จะเหลือ 5 ล้านตัว หรือ 7 ล้านตัว

หรืออาจไม่มีหมูกินเลย?
ภมร : ถูกต้องครับ นี่เรื่องใหญ่นะครับ ส่วนเรื่องนำเข้า วันนี้ต้องบอกตรงๆ ว่าทฤษฎีกับปฏิบัติ ปฏิบัติมีคนเอาเข้ามาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะรูปอาหารหมา อาหารแมว หรืออะไรต่างๆ ท่าเรือมีอยู่แล้ว เพื่อเอามาขายเป็นตู้อยู่แล้ว

เมื่อ 3 ปีก่อน ผู้ประกอบการต้องลงขันแก้ปัญหากันเองหรือเปล่า?
ภมร : คือเราป้องกัน เรารู้ว่าการจะต้องช่วยยังไง เพื่อยืดอายุให้นานที่สุด เพื่อฟื้นทุนที่เราเจ๊ง ไม่ว่าจะเรื่องต้นทุนอะไรต่างๆ เราพยายามให้มันตายช้าที่สุด ให้นานที่สุด ปี’61 พวกผมรวมกัน ฟาร์มนี้ช่วย 2 หมื่น ฟาร์มนี้ช่วย 3 หมื่น ลงขันกันได้เกือบ 100 ล้านนะครับ นี่คือพลังชาวหมูที่คุณคิดว่ากระจอก เอาไปตั้งด่านเพื่อกั้นเขตชายแดน ไม่ว่าหนองคาย มุกดาหาร เชียงราย สระแก้ว 6-7 ที่ ทำนวัตกรรมใหม่หมูที่คุณจะส่งออก ทำลานเพื่อไม่ให้สัมผัสเชื้อ

ไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยเหลือเหรอ?
ภมร : กรมปศุสัตว์เขาก็ช่วยเหลืออยู่แล้ว อันนี้ต้องบอกว่าเราร่วมมือกัน แต่ตอนหลังมามันก็อาจคุยกันคนละเรื่องเดียวกันเลยเกิดความขัดแย้ง จริงๆ คุณหนุ่มเชิญผมมา ผมไม่อยากมาอยู่แล้ว เพราะถือว่าเป็นลูกผู้ชาย ประกาศโรคแล้วก็จบเลย แต่เวลานี้เราคิดว่ามันต้องมาพูดถึงเรื่องการฟื้นฟู ร่วมแรงร่วมใจกัน ทำยังไงถึงจะให้มีผลผลิตใหม่

หลายคนกำลังกังวลใจ โรค ASF ที่ติดในหมู พอตายไปมีการเอาออกมาขาย มันไม่ติดสู่คนใช่มั้ย?
สพญ.วรวรรณ : ไม่ติดสู่คนค่ะ เป็นโรคที่ไม่ติดจากสัตว์สู่คน ทานปรุงสุกได้ตามปกติ ซึ่งไม่มีปัญหากับคนเลยค่ะ กินสุกเป็นสิ่งที่ดีในตัวหมู เพราะมันไม่ได้มีแค่โรคตัวนี้ มันมีโรคตัวอื่นด้วยที่เราไม่ควรกินดิบ

กรณีนี้เราสามารถสังเกตได้มั้ยว่าหมูที่เขาขายเป็นโรคหรือเปล่า?
สพญ.วรวรรณ : ถ้าสังเกตจากเนื้อเลยไม่เห็นค่ะ เพราะค่อนข้างเป็นปกติค่ะ

ภมร : โรคนี้เป็นโรคที่ถ้าหมูตายจะเน่าเร็ว คุณสังเกตอย่างเดียว ถ้าหมูเหม็น อาจจะ ฉะนั้น พ่อค้าแม่ค้าเขาไม่เอาหมูเหม็นมาขายหรอก ตับไตไส้พุงมันเน่าเร็ว ตายใช้เวลาไม่ถึง 2 ชม. ตัวเขียว ตัวดำ ตัวแดง ตับไตไส้พุงมันเน่าขยายใหญ่ 5 เท่า คุณดูอย่างเดียว ถ้าหมูมีกลิ่นเหม็นไม่ต้องกิน ส่วนเนื้อ ความอร่อยมันต่างกันอยู่แล้ว

ตอนนี้เข้าใจว่ามีทั้งหมูเป็นโรค หมูไม่ได้เป็นโรค ปศุสัตว์ออกมาประกาศแล้วว่ามีโรคนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยประกาศ ตอนนี้เป็นประเด็นเกิดขึ้น หมูเริ่มแพง มันมีการบล็อกหมูที่ไม่ได้ป่วยด้วย จริงมั้ย?
ภมร : คือที่ผ่านมา ไม่ว่าสมาคม หรือสหกรณ์เลี้ยงหมูทั่วประเทศ เราพยายามขอร้องว่าพรรคพวกมีหมูเหลือมั้ย เอามาช่วยเพราะเราเห็นใจกำลังบริโภค และเห็นใจรัฐบาลที่ไม่มีหมู นาย ก. นาย ข. บอกเฮียผมมีเหลืออยู่ 100 ตัววันนึงจะได้ อยู่ภาคใต้ ซึ่งเป็นหมูไม่ป่วย เพราะเขารอดตาย เอามาแชร์ให้คนกิน เพื่อทำให้ราคายังอยู่ได้ แต่พอประกาศออกมาแล้วข้อเสียก็เป็นแบบนี้แหละครับ ภาครัฐ หรือกรมปศุสัตว์ต้องเครงครัด เช่น ใบขนย้าย คุณก็ต้องมีการตรวจสอบ เอาเลือดไปตรวจว่าคุณปลอด ASF นะ สามวันห้าวันถึงจะออก กับภาวะที่ผู้บริโภคไม่มีหมู

จะบอกว่ามีหมูดีที่สามารถปล่อยมาได้ แต่ไม่มีการแยกตรวจ เล่นบล็อกหมดเลย หมูไม่ป่วยก็ถูกบล็อกไปด้วย เกษตรกรเขาก็ลำบาก?
ภมร : ถูก เขาจะกล้าเอาหมูออกมาเหรอ มันอาจจะโดนก็ได้ การตรวจหมูไม่ได้ตรวจ 100 เปอร์เซ็นต์ มันสุ่มตรวจ

อยู่ในสายกับ ‘ประภัตร โพธสุธน’ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตอนนี้ปัญหาหมูแพง มีนโยบายยังไงบ้าง?
ประภัตร : เวลานี้ผู้บริโภค หรือคนเลี้ยงหมูมีประมาณ 1.9 แสนราย เป็นรายย่อยซะ 1.8 แสนราย เป็นรายใหญ่ รายกลางประมาณ 2 พันกว่าราย หมายความว่าผู้เลี้ยง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์เป็นรายย่อย รายใหญ่มีเพียง 3 เปอร์เซ็นต์ ในจำนวนหมูที่เลี้ยงอยู่ในขณะนี้ 19 ล้านตัว เราบริโภคอยู่ตอนนี้ 18 ล้านต่อปี และเหลือหมูที่ส่งออกไป ปี’64 ประมาณล้านตัว ถ้าพูดถึงตัวเลขแล้ว ทั้งหมูเข้าหมูออกที่เอาไปเชือดกัน ก็ไม่น่ามีหมูขาด แต่มันเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ เดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้หมูกลับขึ้นพรวดไปเลย เขาอ้างว่าหนึ่งมาจากวัสดุในการทำอาหาร เราไม่พูดถึงว่าหมูที่ขาดขาดไปในตลาด สองหมูที่แพง เกิดจากปริมาณที่หายไปจากโรคบ้าง อะไรบ้าง ที่สมาคมพูดถึงประมาณ 3 ล้านตัว เราก็ต้องแก้ไขตรงนี้ ดังนั้น ในส่วนของกระทรวงเกษตร ที่ผมมาภาคอีสาน เราพยายามส่งเสริมรายย่อยให้รีบเลี้ยงหมู โดยมีเงินทุนนายกฯให้มา 3 หมื่นล้านมาช่วยกัน สองในระยะสั้น เราก็เข้าใจว่าพี่น้องแบกภาระอยู่ อันนี้ก็เป็นสินค้าควบคุม เราก็ต้องดูว่ากระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการอย่างไร จะมีการนำเข้าได้มั้ยในระยะเร่งด่วน สั้นๆ ไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้เลี้ยงหมู

ขอถามแบบนี้ ตอนนี้มีประเด็นที่ฝั่งผู้ประกอบการบอกว่ามีหมูที่ดีอยู่ แต่ถูกปศุสัตว์บล็อกทิ้งเหมือนกัน ไม่มีการแยกตรวจ ทำให้หมูยิ่งหายจากตลาด ทำให้ถีบราคาขึ้นมาและเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าจะแก้ปัญหาตรงนี้ยังไง?
ประภัตร : พอหน่วยงานทุกหน่วยงาน ทั้งนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย ทุกคนยอมรับกันแล้วว่ามี ASF เราก็สั่งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปสแกนในคอกต่างๆ ว่าอันไหนเป็นหรือไม่เป็น ถ้าเป็นก็ต้องใช้ พ.ร.บ.โรคระบาด ถ้าไม่เป็นเราจะไปสั่งเขาไม่ได้ เพราะการสั่งฆ่าได้ต้องมีสั่ง พ.ร.บ. โรคระบาดก่อน นี่สแกนทั้งประเทศแล้ว ส่วนที่ประชาชน หรือผู้เลี้ยงเขาร้องว่ามีการฆ่าไปก่อน เรากำลังดูอยู่ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ เราจะดูแลตรงนี้

พี่ภมรมองยังไง?
ภมร : ตอนนี้ต้องให้กรมปศุสัตว์ทำงานให้ฉับไวกว่านี้ครับ ให้เร่งเรื่องหมูที่เหลือมาให้ได้ครับ

ประภัตร : เราก็เจอปัญหานี้แล้ว ตอนนี้อยู่อุดรฯ เจอผู้ว่าทั้งหมดของภาคอีสาน ก็เจอปัญหาว่าทำงานล่าช้า เรายอมรับครับ เรามีปศุสัตว์อำเภอเพียงคนเดียว เราจึงตัดสินใจให้กรมเรียกอาสาปศุสัตว์ซึ่งมีประมาณ 3 หมื่นรายให้ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหมือน อสม. ออกไปช่วยปศุสัตว์อำเภอทันที มีค่าตอบแทนยังไงเดี๋ยวว่ากัน เพราะเราเห็นใจ วันนี้เราไม่มีเจ้าหน้าที่ ทำงานล่าช้า เรารับอาสาปศุสัตว์เข้าไปทันที

ตอนนี้มีข่าวออกมาว่ามีการปกปิดเรื่องหมูป่วย เพราะมีการเอื้อให้ทางผู้ประกอบการรายใหญ่ในการส่งออก กลัวว่าพวกผู้ประกอบการรายใหญ่ หรือฟาร์มปิดต่างๆ นานาส่งออกหมูไม่ได้ เลยมีการปิดบังกันขึ้น จริงหรือเปล่า?
ประภัตร : ไม่จริงครับ เรื่องนี้เราก็เป็นคนเริ่มต้นออกไปดูและป้องกัน เริ่มจาก จ.เชียงราย ก่อน เราก็ช่วยกันสกัดกั้น เราไม่เคยไปปกป้อง เราไม่รู้จักรายใหญ่เลย เราทำด้วยความจริงใจ และตั้งใจ แต่การที่หมูขาดเพราะเราไปส่งออกเมื่อปี’63-64 ประเทศเพื่อนบ้านหมูขาด เราก็ส่งออกไปทั้งหมด 3 ล้านกว่าตัว มันก็เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้หมูขาด

เคยมีข่าวว่าทางปศุสัตว์เบิกงบไป 500 ล้าน จริงมั้ยเมื่อกลางปี?
ประภัตร : ครม. ฯพณฯ ท่านนายกฯอนุมัติงบกลางให้แล้ว 574 ล้านเมื่อวันอังคาร เพื่อชดเชยให้พี่น้องเกษตรกรที่โดนทำลายหมูไป ในหลักการคือว่าราคาหมูในตลาดเท่าไหร่ก็ชดเชย 3 ใน 4 ทั้งหมด 574 ล้าน รวมกันแล้ว 272,000 ตัวในขณะนี้แล้วเริ่มจ่ายในสัปดาห์หน้า

หมูนี่จะแก้ปัญหายังไงต่อไป ปกติหมูในบ้านเราเหลือ 10 ล้านตัว ปี’65 อาจเหลือ 7 ล้าน?
ประภัตร : คงไม่ถึงขนาดนั้น วันนี้เราใช้อีมูฟเมนต์ ตลอดทั้งปีเรามีหมูเข้าโรงเชือดทั้งหมด 18 ล้านตัว ส่งออก 1 ล้าน ตลอด ม.ค.ยัน ธ.ค. พอปี’65 หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเราก็ให้ดูอีมูฟเมนต์อันนี้ ก็มีลูกหมูเข้าไปเลี้ยง 3 แสนกว่าตัว ถ้าเราคูณด้วย 52 ก็ไม่ขาด นอกจากว่าเรามีสต๊อก หรือกักตุนกันอยู่ เราคิดทางวิทยาศาสตร์เลย หมูเข้าหมูออกมันพอ แล้วทำไมราคามันขึ้นไป อาหารแพงเราก็รู้แล้ว่านายกฯสั่งให้ช่วยเหลือเรื่องอาหาร แล้วหมูที่หายไปอยู่ตรงไหน ผมบอกให้กระทรวงพาณิชย์ไปช่วยดูเรื่องกักตุนดีมั้ย อันนี้สำคัญ

ระหว่างท่านรัฐมนตรีพูด ผมเห็นหมอหัวเราะตลอด?
สพญ.วรวรรณ : หัวเราะที่ว่าตัวเลขที่ท่านพูดว่ายังตามระบบอีมูฟเมนต์ที่ท่านได้พูดถึงว่าเมื่อปีที่แล้ว ตั้งแต่ ม.ค.-ธ.ค.ปีที่แล้ว มีจำนวนหมูที่พอการเคลื่อนย้ายอยู่ประมาณนั้น ใช่ ถูกต้องค่ะ ยังพอมีประมาณนั้น เดี๋ยวปีนี้ท่านลองตามตัวเลขใหม่ ตัวเลขจากอีมูฟเมนต์จริงๆ อาจตกเยอะกว่านี้ เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะฟาร์มหายไปเยอะแล้ว

ไม่ได้ทำอะไรผิด!

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยถึงประเด็นที่มีการกล่าวหากรมปศุสัตว์ปิดบังข้อมูลโรคอหิวาต์หมู หรือโรคอหิวาต์ แอฟริกา​ใน​สุกร (เอเอสเอฟ) เพื่อเอื้อผู้เลี้ยงสุกรรายใหญ่ ว่า ไม่เป็นความจริง เพราะผู้เลี้ยง สุกรรายใหญ่อยู่ในระบบฟาร์มมาตรฐาน และธุรกิจของผู้ประกอบการกลุ่มนี้สามารถเดินหน้าต่อได้อยู่แล้ว ส่วนประเด็นที่กล่าวหาว่าปศุสัตว์เอื้อการส่งออกให้กับรายใหญ่ สามารถโชว์ข้อมูลให้ดูได้เลยว่ามีแต่ผู้เลี้ยงสุกรรายกลาง และรายย่อยเท่านั้น ที่มีการส่งออกหมูเป็นไปที่กัมพูชา และเวียดนาม

นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่พบเกษตรกรกำจัดหมูโดยนำใส่โอ่ง ที่ จ.นครปฐม และทำเป็นปุ๋ยขาย นั้น อยากให้เกษตรกรแจ้งให้กรมรับทราบ พอในกรณีนี้มีการแจ้งย้อมหลังทางกรมก็จะมีการตรวจสอบย้อนหลังเช่นกันว่าทำไมตอนเกิดเหตุไม่แจ้งกรม

ส่วนหลังจากนี้ ได้ร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายกสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์ม และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เป็นต้น โดยตั้งเป้าหมายอยากให้ผู้เลี้ยงสุกรที่เหลืออยู่เดือดร้อนน้อยที่สุด เพราะนั้นการประกาศโรคไม่ได้หมายความว่าทั่วประเทศจะพบโรคระบาดทั้งหมด แต่จะมีการเฝ้าระวังมากขึ้น หากตรวจพบเชื้อกรมจะเร่งประกาศควบคุมพื้นที่ เพื่อไม่ให้กระจายไปสู่พื้นทีอื่นต่อไป หลังจากนี้จะมีการสุ่มตรวจในทุกพื้นที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

“ในการทำงานมาตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เรื่องนี้ยังไม่ถือว่าหนักที่สุดเพราะตั้งแต่เข้ามาดำรงตำแหน่ง ในปี 2561 ก็เจอปัญหา โรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า (เอเอชเอส) และลัมปีสกิน ก็ผ่านมาได้ และขอพูดเลยว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำงานด้วยความตั้งใจ และซื่อสัตย์สุจริต ดังนั้น คิดว่าทุกคนรวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกตรและสหกรณ์ก็น่าจะเห็นถึงความตั้งใจที่ผมต้องการทำงานให้ดีที่สุด เพื่อผู้เลี้ยงสุกรและสัตว์อื่นๆ จนกว่าจะเกษียณราชการในอีก 8 เดือนข้างหน้านี้ ละยืนยันว่าจะไม่ลาออกจากตำแหน่งแม้โดนกดดันจากหลายฝ่าย เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ทุจริต และผมมั่นใจว่าตัวเองทำผลงานได้ดีที่สุดแล้ว” นายสัตวแพทย์สรวิศกล่าว

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์(แฟ้มภาพ)
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ (แฟ้มภาพ)

นายสัตวแพทย์สรวิศกล่าวว่า ส่วนในเรื่องของการส่งออกนั้น ปัจจุบันได้หยุดการส่งออกตามข้อสั่งการของกระทรวงพาณิชย์แล้ว เพื่อให้ราคาขายเนื้อสุกรภายในประเทศลดลง ส่วนผลิตภัณฑ์แปรรูปมองว่ายังสามารถส่งออกได้ไม่มีปัญหา นอกจากนี้ ยังได้เตรียมวางแผนช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย ที่มีมาตรฐานฟาร์ม GFM จะจูงใจให้กลับมาเลี้ยงสุกรอีกครั้งโดยการทำประกันภัยสุกร แต่รายละเอียดจะเป็นอย่างไรต้องมาหารือร่วมกันอีกครั้งต่อไป

ผู้เลี้ยงหมูชลบุรีเตรียมบุก ‘กรมปศุสัตว์’ ขอลดต้นทุน

นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงสถานการณ์หมูในพื้นที่ จ.ชลบุรีว่า ตนเองทราบข่าวเนื่องจากผู้ประกอบการเลี้ยงหมูรายใหญ่ของ จ.ชลบุรี พร้อมด้วยเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู 20 คน เข้ามาพบช่วงปีใหม่ พร้อมทั้งแจ้งว่าหมูเกิดโรคระบาดและตายลงเป็นจำนวนมาก ขาดทุน 400-500 ล้านบาท ให้หาวิธีช่วยเหลือ ซึ่งตนได้เข้าพบกับเกษตรจังหวัดชลบุรี เพื่อหาทางช่วยเหลือผู้ประกอบการเลี้ยงหมูในพื้นที่ จ.ชลบุรีแล้ว

นายสรวุฒิกล่าวว่า ยอมรับว่าในช่วงแรกเชื้อ ASF ที่ระบาดในหมูของประเทศไทย อาจจะมีการปกปิดข้อมูล เนื่องจากยังไม่มีวัคซีนในการรักษา จึงทำให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ทำให้หมูตายลงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ จ.ชลบุรี ผู้เลี้ยงหมูไม่กล้านำหมูมาเลี้ยง เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาหมูติดเชื้อ ไม่คุ้มกับการลงทุน จึงส่งผลให้ปริมาณผู้เลี้ยงหมูในพื้นที่ จ.ชลบุรีลดลงจำนวนมาก ที่สำคัญไม่ได้รับการเยียวยาจากภาครัฐอีกด้วย

“เรื่องนี้จะนำผู้ประกอบการเลี้ยงหมูในพื้นที่ จ.ชลบุรี เข้าพบกับอธิบดีกรมปศุสัตว์ เพื่อให้เกิดความมั่นใจที่จะให้ผู้เลี้ยงหมูหันมาเลี้ยงหมูเหมือนเดิม อาจจะช่วยในเรื่องของการลดต้นทุนในการลงทุนเลี้ยงหมูใหม่ เพื่อให้วงจรหมูกลับมาปกติ รวมทั้งเร่งหามาตรการในการตรวจโรค ซึ่งรัฐบาลจะต้องเป็นผู้ลงทุน เนื่องจากมีราคาแพงมากตัวละ 500 บาท” นายสรวุฒิกล่าวและว่า ส่วนในเรื่องของการชดเชยผู้เลี้ยงหมูนั้น ในทางปฏิบัติทำได้ยากมาก เพราะผู้ประกอบการบางครั้งแจ้งจำนวนการเลี้ยงไม่ตรงกับที่เลี้ยงจริง ซึ่งอาจจะมีปัญหาการชดเชยได้ในภายหลัง

ทางด้านผู้เลี้ยงหมูคนหนึ่งใน จ.ชลบุรีกล่าวว่า ขณะนี้ผู้เลี้ยงหมูรายย่อย ที่ประสบปัญหาการระบาดของโรคที่ผ่านมา ทำให้เลือดออกทวารทั้ง 5 นั้น ขาดทุนรายละ 20-30 ล้านบาท ขณะนี้ไม่กล้าลงทุน เพราะหากเลี้ยงอาจจะประสบปัญหาหมูตายอีก ประกอบกับการแพร่ระบาดของโรคจะต้องพักเล้าเลี้ยงอย่างน้อย 3-6 เดือน แต่ก็ต้องยอมรับว่า ขณะนี้ยังไม่มียาป้องกัน ทำให้เกษตรกรหลายคนไม่กล้าลงทุนเลี้ยงหมูในรอบใหม่ ส่วนเล้าหมูที่มีมาตรฐานและเป็นระบบปิด ก็ต้องลุ้นเหมือนกัน หากรอดก็รวย

“สำหรับหมูในพื้นที่ จ.ชลบุรีปกติจะมีแม่หมูประมาณ 5 แสนตัว สามารถออกลูกเฉลี่ยปีละ 20 ตัว แต่ปัจจุบันแม่หมูในพื้นที่ จ.ชลบุรีเหลือแม่หมูประมาณ 5 พันตัว ประกอบเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูไม่กล้าลงทุน จึงส่งผลกระทบต่อวงจรหมู ทำให้หมูขาดตลาด และทำให้เนื้อหมูมีราคาแพงขึ้น”