สั่งปศุสัตว์เยียวยาเฉพาะผู้เลี้ยงหมูรายย่อย ชี้ชดเชยการทำลายหมู ไม่ใช่ตายจากติดโรค ASF

รมว.เกษตรฯ สั่งปศุสัตว์เข้มมาตรการคุมโรค เยียวยาผู้เลี้ยงหมูให้เฉพาะรายย่อย หลัง ครม.อนุมัติงบ 574 ล้าน เผยเป็นเงินชดเชยการทำลายหมู ไม่ใช่ตายจากติดโรค ASF

วันที่ 12 ม.ค.65 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า หลังกรมปศุสัตว์มีการสุ่มตรวจพบเชื้ออหิวาห์อาฟริกาในสุกร (เอเอสเอฟ) 1 ตัวอย่าง ที่จังหวัดนครปฐม ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์คุมเข้มมาตรการควบคุมโรค กรมปศุสัตว์จะต้องประกาศเป็นเขตโรคระบาด และมีการควบคุมการเคลื่อนย้ายในรัศมี 5 กิโลเมตร รอบจุดที่พบโรค ร่วมกับจะต้องพิจารณาทำลายสุกรที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคหรือมีความเชื่อมโยงทางระบาดวิทยากับฟาร์มที่เป็นโรค

ส่วนเงินเยียวยาที่ ครม. เพิ่งจะอนุมัติ 574 ล้านบาท เป็นเงินที่ขออนุมัติงบในการชดเชยการทำลายหมู เพื่อสกัดการระบาดของโรค หรือ ทำลายหมูที่สงสัยว่าจะเป็นโรค แต่ไม่ใช่ชดเชยหมูที่ตายจากเอเอสเอฟแต่อย่างใดตั้งแต่ปี 2562 โดยชดเชยราคาประมาณ 70% ของราคาหมู ซึ่งเงินตรงนี้จ่ายเฉพาะเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อยเท่านั้น ส่วนรายใหญ่ ทรัพยากร เงินหรือทุนมีเพียงพอแล้ว

การเกิดโรคระบาดมีมานาน ไทยเป็นไข่แดง และดำเนินการป้องกันอย่างเต็มที่แล้ว นอกจากงบประมาณปกติของกรมปศุสัตว์ ในการสกัดกั้นการระบาดของเอเอสเอฟ เอกชนผู้ประกอบการเลี้ยงหมูรายใหญ่ ได้ร่วมลงขันมาเพื่อช่วยเหลือไม่ให้เกิดการลามระบาดของเอเอสเอฟ ประมาณ 100 กว่าล้านบาท แต่การบริหารจัดการเชื้อโรค มันยาวนาน 100 กว่าล้านบาทของเอกชนหมดลง จึงได้หารือกันทั้งอุตสาหกรรมหมู ทั้งภาครัฐและเอกชน ให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการดูแลอุตสาหกรรมหมู

ดังนั้นกระทรวงเกษตรฯ จึงดำเนินการ รวบรวมขเอมูลเอกสารต่างๆ ของบประมาณเข้าไป 1,700 ล้านบาท แต่สำนักงบประมาณมองว่า เงินที่จะสามารถให้ได้เพื่อชดเชยความเสียหาย จะให้ได้ประมาณ 574 ล้านลาท สำหรับชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วจากนี้ในการป้องกัน จะต้องใช้งบประมาณของปศุสัตว์ในการดำเนินการไปก่อน