คาซัคสถานจวกสื่อตีข่าว “เหยื่อสลายม็อบ” 164 ศพ ชี้ข้อมูลเท็จ-ทำลายภาพลักษณ์

คาซัคสถานจวกสื่อตีข่าว “เหยื่อสลายม็อบ” 164 ศพ ชี้ข้อมูลเท็จ-ทำลายภาพลักษณ์

บีบีซี รายงานวันที่ 10 ม.ค. ถึงความคืบหน้าสถานการณ์นองเลือดใน คาซัคสถาน หลังจากเจ้าหน้าที่นำกำลังปราบปรามผู้ประท้วงขับไล่รัฐบาลเพราะไม่พอใจนโยบายขึ้นราคา แก๊สปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า

เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 164 ราย มากกว่าตัวเลขซึ่งทางการยืนยันที่ 44 ราย นอกจากนี้ยังมีรายงานจากสื่อบางแห่งว่าเหตุปะทะรุนแรงในเมืองอัลมาตีมีผู้เสียชีวิตมากถึง 103 ราย

ขณะที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศคาซัคสถานออกแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ม.ค. ว่าเว็บไซต์เอกชน 2 แห่งที่รายงานข้อมูลดังกล่าวเป็นผลมาจากความผิดพลาดทางเทคนิค

ส่วนกระทรวงการต่างประเทศระบุในเวลาต่อมาว่าสื่อต่างชาติที่รายงานข่าวดังกล่าวต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นเท็จว่ารัฐบาลคาซัคสถานตั้งเป้าโจมตีผู้ประท้วงที่ชุมนุมอย่างสันติ โดยย้ำว่ากองกำลังความมั่นคงของคาซัคสถานต้องเผชิญหน้ากับม็อบรุนแรงที่กระทำการไม่ต่างจากการก่อการร้าย

วันเดียวกัน รอยเตอร์ระบุจากกระทรวงกิจการภายในคาซัคสถานว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงจับกุมผู้ประท้วงที่ใช้ความรุนแรงอย่างน้อย 7,939 คน เพิ่มขึ้นจากกว่า 5,000 คนเมื่อวันก่อน

ขณะที่เอเอเฟพีรายงานว่าระบบอินเตอร์เน็ตในเมืองอัลมาตีที่ล่มมานาน 5 วัน ตั้งแต่วันพุธที่ 5 ม.ค. สามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง เช่นเดียวกับระบบขนส่งมวลชนที่กลับมาให้บริการเป็นวันแรกนับตั้งแต่เกิดการประท้วงเมื่อวันที่ 2 ม.ค. ขณะที่คีร์กีซสถาน ประเทศเพื่อนบ้าน มีกลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวหน้าสถานทูตคาซัคสถานเพื่อต่อต้านรัฐบาลคาซัคสถานที่ใช้ความรุนแรง

คาซัคสถานฮึ่มสื่อตีข่าว
An interior view shows an electronics store that was looted during mass protests triggered by fuel price increase in Almaty, Kazakhstan January 9, 2022. REUTERS/Pavel Mikheyev
“เหยื่อสลายม็อบ” 164 ศพ ชี้ข้อมูลเท็จ-ทำลายภาพลักษณ์
A woman films a building, which was burnt during mass protests triggered by fuel price increase, in Almaty, Kazakhstan January 9, 2022. REUTERS/Pavel Mikheyev
“เหยื่อสลายม็อบ” 164 ศพ ชี้ข้อมูลเท็จ-ทำลายภาพลักษณ์
A photo shows a destroyed bank in central Almaty on January 8, 2022, after violence that erupted following protests over hikes in fuel prices. (Photo by Alexandr BOGDANOV / AFP)