‘ยุทธพงศ์’ ชี้โควิดทะลุหมื่นแน่ อัด รบ. อยู่มา 2 ปี แต่ยังแก้ล่าช้า-สับสน

‘ยุทธพงศ์’ ชี้ ดูจากตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อโควิดอาทิตย์นี้ทะลุหมื่นคนแน่นอน อัดรบ. อยู่กับโควิดมาตั้งแต่ปี 63 แต่การแก้ปัญหายังมีทั้งล่าช้า-สับสน เตรียมเสนอพรรคยื่นอภิปรายตาม ม.152 สัปดาห์หน้า

วันที่ 9 มกราคม 2565 เมื่อเวลา 10.00 น.  ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคพท. แถลงถึงการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดโอมิครอน ว่า นี่ถือเป็นการระบาดระลอกที่ 5 แล้ว จะเห็นได้ว่า การบริหารจัดการเรื่องโควิดของผอ.ศบค. ซึ่งก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผิดพลาด ดูจากตัวเลข 4 มกราคม 65 อยู่ที่ 2,895 แต่พอมาวันที่ 7 มกราคม 65 มาอยู่ที่ 7,526 และเมื่อวานนี้ 8 มกราคมอยู่ที่ 8,263 คน และเข้าวันนี้ 8,511 คน ซึ่งตนเชื่อว่าภายในสัปดาห์นี้ยังไงก็ทะลุหมื่นคนแน่นอน โดยรอบนี้ถือว่าเป็นรอบที่ 5 แล้ว

แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลรับรู้ และอยู่กับสถานการณ์โควิดมาตั้งแต่ปี 63 แต่การแก้ปัญหามีทั้งควาล่าช้า และสับสน เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ทั้งนี้ โควิดรอบที่ 5 นี้ คล้ายๆกับรอบที่ 3 ที่ระบาดจากสถานบันเทิงแล้วกระจายออกไป บทเรียนจากรอบที่ 3 และรอบที่ 4 ทำให้เห็นว่า ระบบสาธารณสุขของเราล้มเหลว ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยจำนวนมากได้ รัฐบาลรับมือไม่ไหว

ขณะที่รอบที่ 5 สัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคมมีผู้ติดเชื้อหลักร้อย แต่พแมาต้นปี 65 กลับมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นหลายพัน สะท้อนให้เห็นว่า การระบาดของเชื้อโอมิครอนนี้ระบาดหนัก และรวดเร็ว สิ่งที่น่ากลัวคือคนไทยส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนจีนซึ่งสามารถป้องกันโอมิครอนได้ต่ำมากโอกาสท่ประเทศไทยจะติดเชื้ออย่างรวดเร็วจึงสูงมาก

นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า การระบาดรอบนี้รัฐบาลหนักกว่าที่ผ่านมา นอกจากออกมาตรการกลับไปกลับมา ยังมีความล่าช้า และสับสนด้วย รัฐบาลดำเนินมาตรการต่างๆช้าราวกับไม่อยากให้ประชาชนตระหนกกับความจริงที่เกิดขึ้น การแก้ไขปัญหาของพล.อ.ประยุทธ์ในฐษนะผอ.ศบค. กลับหายไปเฉยๆในช่วงวันหยุดยาว ไม่มีการประชุม เหมือนกับประเทศไทยไม่มีผู้นำอยู่ในขณะนั้นเลย นอกจากนี้ เมื่อมีการระบาดของโอมิครอนมีการประกาศยกเลิกเทสแอนด์โก

แต่กลับให้นักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนไว้ก่อนเข้ามาได้ 2.ไปเพิ่มแซนด์บ็อกอีก 3 จังหวัดขึ้นมาเพื่อรับนักท่องเที่ยว แต่คนไทยกลับให้ทำงานที่บ้าน 100% บบนี้สับสนไหม คนไทยไม่ให้ทำงาน แต่กลับรับนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว 3.ให้ดื่มในร้านอาหารจากเดิมถึง 5 ทุ่ม เป็น 3 ทุ่มแทน

ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอยกระดับมาตรการป้องกันโควิดเป็นระดับที่ 4 ที่ต้องงดทานอาหาร และดื่มในร้าย รวมถึงงดกิจกรรมรวมตัวกันทุกอย่าง จะเห็นได้ว่ามาตรการสับสนไปหมด ประเทศไทยอยู่กับโควิดมาตั้งแต่ปี 63 รัฐบาลก็ยังเป็นรัฐบาลเดิม ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ และยังเป็นผอ.ศบค.ด้วย แต่กลับไม่มีพัฒนาในการแก้ปัญหาเลย ทั้งที่มีบทเรียนมาแล้วถึง 5 ครั้ง นี่สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลเปป็นตัวถ่วงในการแก้ไขปัญหาโควิด และสุดท้ายก็ไปกระทบกับความเชื่อมั่นของรัฐบาล เศรษฐกิจ การท่องเที่ยวก็พังพินาศหมด