สุวิทย์ เตือน ทิดไพรวัลย์ ปมทรัพย์สินหลังสึก ลั่นอยู่ที่จิตสำนึก เรื่องการละอายชั่วกลัวบาป

นายสุวิทย์ เตือน ทิดไพรวัลย์ ปมทรัพย์สินหลังสึก ถามเชื่อกฎแห่งกรรมหรือไม่ ชี้แม้จะไม่เป็นกฎหมาย ไม่มีข้อบังคับ แต่อยู่ที่จิตสำนึก เรื่องการละอายชั่วกลัวบาป

หลังจากเพจ ไพรวัลย์ วรรณบุตร​ ได้โพสต์ภาพลาสิกขาของอดีตพระมหาไพรวัลย์ จากเดิมที่แจ้งว่าจะสึกวันที่ 4 ธ.ค.​ตามที่ได้ประกาศเอาไว้ โดยมีภาพบรรยากาศของการสึก และอดีตพระมหาไพรวัลย์​ ได้เปลี่ยนเป็นเสื้อขาว สวมโสร่ง พร้อมโพสต์ภาพยิ้มอรุ่มเจ๊าะ ด้วยแคปชั่นว่า “เริ่ม” และเขียนในคอมเมนต์ไว้ว่า “ผมโสดนะ” ก่อนที่จะโพสต์ภาพเดินทางไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาล

ล่าสุด นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระ โพสต์ในเพจ หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ถึงทิดไพรวัลย์ว่า

พักนี้กระแสมหาไพรวัลย์ รู้สึกดูจะเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในสังคมอยู่พอสมควร ประเด็นที่พวกเขาต่างวิจารณ์กันคือ ตอนมหาไพรวัลย์มาบวช มาแต่ตัว แต่อยู่ในพระศาสนา จนยกสถานะทั้งทางการศึกษา สังคม และทรัพย์สินจนอู้ฟู่ ร่ำรวย แล้วก็สึกออกจากความเป็นภิกษุ เช่นนี้ดูว่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้คนมากเกินไปหรือเปล่า

ตอบ เรื่องพระจะสึก ฝนจะตก ขี้จะแตก ฟ้าจะผ่า มันคงห้ามกันไม่ได้ แต่ที่สังคมเขาวิจารณ์กันคือ ทรัพย์สินที่ได้มาขณะที่เป็นภิกษุ ว่ามันควรจะตกเป็นของพระภิกษุผู้ที่ลาสิกขา หรือตกเป็นของตัวทิดที่พึงสึกไปแล้วหรือไม่

ประเด็นนี้ควรวินิจฉัยว่า ทรัพย์สินที่ชาวบ้านเขาถวายให้นั้น เขาถวายศากยบุตร พุทธชิโนรส สาวกของพระพุทธเจ้า หรือถวายให้นายไพรวัลย์ เมื่อภิกษุนั้นลาสิกขาไปแล้ว ทรัพย์เหล่านั้นควรตกเป็นของใคร

ประเด็นนี้ควรยกเอาประเพณีก่อเจดีย์พระทรายมาเล่านั่นคือ ชาวบ้านเมื่อถึงเทศกาลสงกรานต์ เขาช่วยกันขนดิน ขนทรายเข้าวัด เพื่อก่อเจดีย์พระทราย ถวายคืนแก่วัด ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อจะใช้หนี้พระสงฆ์ เพราะชาวบ้านเขากลัวว่าทุกวันที่เขามาในวัด อาจมีเศษดิน เศษทรายติดเท้าติดมือเขาไปบ้าน เขาจึงขนดิน ขนทราย มาคืนให้วัด เรียกว่า เป็นการใช้หนี้สงฆ์