ถกประเมินบิ๊กสกสค.วุ่น ‘ตรีนุช’ สั่งทบทวนใหม่มอบ ‘สุภัทร’ ดูละเอียดก่อนสรุป 7 ธ.ค.  

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) ว่า ที่ประชุมหารือกรณีนายธนพรสมศรี เลขาธิการสกสค. ยื่นหนังสือคัดค้านเกณฑ์การประเมินเลขาธิการ สกสค.ที่ไม่เป็นธรรม โดยระบุว่ามีตัวชี้วัดที่ผิดปกตินั้น ยังไม่ได้ข้อสรุป ทั้งนี้มีหลายประเด็นที่ต้องให้ฝ่ายกฎหมายและคณะกรรมการประเมินผลงานเลขาธิการสกสค. ที่มีนายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร เป็นประธาน ลงไปดูรายละเอียด โดยเฉพาะประเด็นที่เลขาธิการสกสค. มีข้อกังวล เพื่อให้การประเมินเป็นไปด้วยความชอบธรรม และรอบคอบ ส่วนเรื่องกรอบเวลานั้นยังไม่มีความชัดเจน

“ดิฉันยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายธนพร เป็นการส่วนตัว การดำเนินการทุกอย่างขอให้เป็นไปตามขั้นตอน ส่วนตัวพยายามจะทำทุกอย่างให้รอบคอบและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุด ”รัฐมนตรีว่าการศธ. กล่าว

นายสุภัทร  จำปาทอง ปลัดศธ. กล่าวว่า ที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุป โดยได้มีการนัดหารือเรื่องดังกล่าวอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ส่วนรายละเอียดว่าต้องมีการปรับแก้เกณฑ์การประเมินหรือไม่นั้น คงไม่สามารถบอกได้ แต่จะเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด

นายบัณฑิต  กล่าวว่า ยืนยันว่าเกณฑ์ประเมินจัดทำขึ้น ตามแผนการทำงาน ที่นายธนพร เสนอต่อคณะกรรมการสกสค.ทั้งหมดไม่ได้มีอะไรที่แตกต่าง  ที่มีนอกจากแผนที่เสนอ คือ ประเมินสมรรถนะผู้บริหาร ซึ่งเป็นไปตามทำสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กำหนด ส่วนกรณีที่ร้องว่า เกณฑ์ประเมินไม่เป็นธรรมนั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการสกสค. คณะกรรมการประเมิน เป็นเพียงผู้ออกแบบเกณฑ์การประเมิน ซึ่งก็เป็นไปตามหลักการทั่วไป ไม่ได้มีอะไรพิเศษเป็นไปตามแผนการทำงานที่เลขาธิการสกสค.เสนอต่อคณะกรรมการสกสค.

ทั้งนี้ตนเป็นเพียงผู้เข้ามาให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงส่วนการตัดสินใจขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการสกสค. ทั้งนี้การประเมินยังไม่มีกรอบเวลาที่ชัดเจน เพราะยังไม่ได้ข้อมูลจากเลขาธิการสกสค. หากได้ข้อมูลมา ประเมินไม่เกิน 15 วันก็น่าจะเสร็จ แต่หากยังไม่ได้ข้อมูล ก็ไม่สามารถดำเนินการได้

นายธนพร  กล่าวว่า  ตนได้เข้าชี้แจ้งข้อคัดค้านซึ่งที่ประชุมก็รับฟัง และให้กลับไปดูรายละเอียด หรือชะลอการประเมินออกไปก่อน และได้มอบหมายให้นายสุภัทร ไปดูประเด็นเรื่องข้อกฎหมายให้ชัดเจน และเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการสกสค.พิจารณาอีกครั้งในวันที่ 7 ธันวาคม ทั้งนี้ประเด็นที่ตนเห็นว่าไม่เป็นธรรม คือ กรณีการให้คะแนนการประเมิน ตามแผนงานที่ตนได้เสนอ ซึ่งกำหนดคะแนนเต็มที่ 5  หากประเมินแล้วทำได้ครบตามที่เสนอแผนไว้ จะได้ 3 คะแนนหรือ 60%

หากต้องการได้ 4 คะแนน หรือ 75% จนถึง5 คะแนน หรือ 100% ต้องทำให้ได้ดีเกินกว่าแผนที่กำหนดไว้  โดยต้องได้คะแนนรวมเกิน 75% จึงจะผ่านการประเมิน ซึ่งเกณฑ์การประเมินจัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน แต่ตนทำงานตามแผนเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ดังนั้น จึงไม่สามารถย้อนเวลากลับไปทำงานย้อนหลังให้ได้คะแนนเกินกว่าแผนที่เสนอไปได้ ทั้งนี้หากคณะกรรมการยืนยันจะใช้เกณฑ์ประเมินเดินจะดำเนินการอย่างไรนั้น ตอนนี้คงไม่สามารถบอกได้ ต้องรอผลการพิจารณาของคณะกรรมการสกสค.