‘กลุ่มรักเชียงใหม่51’ แนะ รบ. อย่ากีดกันคนให้กำลังใจ ‘ปู’ 25ส.ค. ชี้รธน.ให้สิทธิเสรีภาพตามระบอบ ปชต.

SONY DSC

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2560 นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล ประธานที่ปรึกษากลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เผยกรณีรัฐบาลใช้มาตรการสกัดกั้น หรือบล็อค พร้อมตรวจสอบการใช้งบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่สนับสนุนผู้ไปให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนศาลตัดสินคดีจำนำข้าว วันที่ 25 สิงหาคมนี้ ว่า รัฐบาลกำลังหลงทาง มีสติ อย่าเข้าทางชาวบ้าน ควรปล่อยให้เป็นธรรมชาติถ้าบีบคั้น หรือกดดันมากเกินไป อาจถูกต่อต้าน ลุกฮือได้ เพียงบอกผู้ไปให้กำล้งใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้อยู่ในความสงบ ไม่พกอาวุธ ก่อความรุนแรง ละเมิดอำนาจศาล หรือทำผิดกฏหมายเท่านั้น เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางนาย ที่ออกมาพูดจาทำนองข่มขู่ ห้ามใช้รถตู้รับส่ง หรือใช้กฏหมายจราจร ดำเนินคดีจับปรับผู้ที่ไปให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ บริเวณศาล ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควร อาจสร้างความไม่พอใจกับผู้สนับสนุน และเดินทางไปให้กำลังใจมากขึ้น

“อยากให้รัฐบาล และเจ้าหน้าที่ระดับสูง คิดใหม่ ทำใหม่ อย่าอ้างกฏหมาย หรือใช้อิทธิพลข่มขู่ กดดัน เพราะการให้กำลังใจ ไม่ใช่ชุมนุมการเมือง หากต้องการสังคมสามัคคี ปรองดอง ไม่แบ่งฝ่าย ต้องเลิกการกระทำดังกล่าว ส่วนเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ควบคุมสถานการณ์ ไม่ให้เกิดความรุนแรงเท่านั้น ถ้ายังกีดกันให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทุกวิถีทาง ยิ่งถูกพลังเงียบต่อต้าน เดิมประเมินผู้มาให้กำลังใจเพียง 40,000-50,000 คน อาจเพิ่มเป็นแสนคนก็ได้ ถ้าไม่กีดกันหรือกดดัน จนทนไม่ไหว หรือมือที่ 3 สร้างสถานการณ์ เชื่อว่าทุกอย่างผ่านไปได้แน่” นายเพชรวรรต กล่าว

นายเพชรวรรต กล่าวอีกว่า เมื่อ 4-5 ปีก่อน เคยมีการชุมนุมทางการเมืองนับแสนคน บางคนไป 15-30 วัน ยังควบคุมสถานการณ์ได้ แต่การไปให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพียงวันเดียว เพื่อฟังคำตัดสิน ไม่น่ามีปัญหา เพียงเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกเท่านั้น ส่วนกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ปล่อยอิสระ หรือฟรีสไตล์ ไม่บังคับ
หรือชี้นำใด ๆ ขึ้นอยู่กับความรัก ผูกพัน และศรัทธาส่วนบุคคล เชื่อผู้ไปให้กำลังใจใช้ทุนทรัพย์ตนเอง ไม่มีใครสนับสนุนหรือช่วยเหลือใด ๆ ดังนั้นรัฐบาลอย่าห่วงหรือวิตกเกินเหตุ

“รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ประกาศใช้เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 ซึ่งรัฐธรรมนูญเป็นกฏหมายสูงสุด ไม่ใช่รัฐบาล หรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีอำนาจสูงสุด ดังนั้นบุคคลย่อมมีสิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยขั้นพื้นฐาน เพียงยังไม่มีการเลือกตั้งเท่านั้น ฝากเตือนรัฐบาล คสช. ควรยึดรัฐธรรมนูญเป็นหลัก ไม่ใช่อำนาจตนเอง เมื่อรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว แต่ไม่ยอมใช้ หากลงจากอำนาจ หรือหมดบุญวาสนา อาจถูกฟ้องขึ้นศาล จนนานาชาติไม่ยอมรับผู้ที่นิรโทษกรรมตนเอง ให้พ้นผิดไปได้” นายเพชรวรรต กล่าว

สุดท้ายอยากให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลเรื่องกฏหมาย นายมีชัยฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) อธิบาย พร้อมให้คำแนะนำเรื่องรัฐธรรมนูญ และกฏหมายที่เกี่ยวข้องแก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ว่าควรปฏิบัติและออกคำสั่งอย่างไร ไม่ให้กระทบสิทธิและเสรีภาพประชาชน และขัดต่อรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว จะได้ไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง