เผยแพร่ |
---|
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. จากกรณี พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคกล้า เขียนบทความวิจารณ์นโยบายรถคันแรกในโอกาสครบรอบ 10 ปี ระบุว่าเป็นโครงการที่มีปัญหา เอื้อประโยชน์กลุ่มทุนบางกลุ่ม ทั้งยังก่อให้เกิดนิสัยฟุ่มเฟือย เกิดปัญหาการจราจรติดขัด ต่อมามีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจำนวนมาก เข้าไปแสดงความเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย มีการโต้เถียงไปในหลายแนวทาง ล่าสุด นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า เข้าไปแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายรถคันแรก โดยชี้ว่าพบข้อบกพร่องในเชิงนโยบายหลายเรื่อง เช่นความไม่รอบคอบช่วงดำเนินนโยบาย จนส่งผลกระทบอุตสาหกรรมยานยนต์ถึง 5 ปี เป็นต้น นายกรณ์ระบุช่วงหนึ่งว่า
“ผมขอเล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่าเมื่อ 10 ปีก่อน ตอนช่วงท้ายของการเป็นรัฐบาล ผมได้ออกแบบและนำเสนอโครงการ ‘บ้านหลังแรก’ และมีทีมงานมาบอกว่าพรรคเพื่อไทยกำลังคิดเสนอนโยบาย ‘รถคันแรก’ ผมเลยเอามานั่งคิดเปรียบเทียบ และสรุปว่าบ้านหลังแรกคือ การส่งเสริมให้มีการเข้าถึงปัจจัย 4 เพิ่มความมั่นคงให้ประชาชนและเป็นการออมที่ดี เพราะบ้านราคามักจะสูงขึ้น ในขณะที่รถยนต์แค่ถอยออกมาจากร้านราคาก็หายไปหลักหมื่นแล้ว แถมการมีรถยังนำไปสู่ค่าใช้จ่ายอีกมากมาย ใครไม่พร้อมจริงไม่ควรซื้อ เราเลยปฏิเสธนโยบายนี้
แน่นอนทุกนโยบายมีผู้ได้ประโยชน์ ใครจะซื้อรถอยู่พอดี หรือมีความจำเป็นต้องมีรถยนต์ในจังหวะนั้นก็ต้องรู้สึกว่านโยบายนี้ดี แต่การกำหนดนโยบายที่ดีต้องคิดให้รอบคอบ ซึ่งผลลัพธ์ของโครงการนี้สุดท้ายส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไป 5 ปี เพราะทำให้ยอดขายกระจุกตัวและบริษัทผลิตรถยนต์ก็ผลิตให้ไม่ทันในปีที่ออกนโยบาย นโยบายนี้ที่พลาดอีกสาเหตุหนึ่งคือรัฐบาลไปกำหนดเงื่อนไขเวลา ทำให้หลายคนที่ไม่พร้อมต้องเร่งซื้อทั้งๆ ที่ไม่พร้อม หากรัฐบาลส่งสัญญาณว่าสิทธินี้มีให้ 5 ปี ใครไม่พร้อมยังไม่ต้องรีบ ผลค้างเคียงคงจะน้อยลง เรื่องรถติดผมว่าไม่เท่าไร แต่ที่แน่ชัดคือหนี้ครัวเรือนที่พุ่งกระฉูดในช่วงนั้น ซึ่งนักวิชาการวิเคราะห์ว่ามีเหตุผลสำคัญมาจากโครงการรถคันแรก”
ด้าน พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เข้ามาตอบการแสดงความเห็นของนายกรณ์ ระบุว่า “ขอบคุณสำหรับข้อมูล insight ครับ คุณกรณ์ .. ผมดีใจที่หลายท่านในนี้เข้ามาแลกเปลี่ยนมุมมอง และช่วยให้ผมเข้าใจ-รับฟัง-เห็นใจประชาชนอีกมุมนึง ที่ส่วนลดหย่อนโครงการ “รถคันแรก” มีประโยชน์กับพวกเค้าจริง… แต่เมื่อพิจารณามุมกว้าง คำนึงถึงปัจจัยรอบด้าน ทั้งทางสังคม-ทางเศรษฐกิจในครัวเรือน-ทางสิ่งแวดล้อม …ด้วยความเคารพ แทบมองไม่เห็นถึงความมีน้ำหนักในการเป็นนโยบายเยียวยาที่เร่งด่วน+จำเป็น หลังสถานการณ์วิกฤตน้ำท่วมสักเท่าไร… และแน่นอนครับ เรื่องกรอบ เงื่อนไขเรื่องเวลา ยังสร้างปัญหาทั้งผู้ซื้อที่ยังไม่พร้อม (แต่ต้องรีบซื้อภายในปีนั้น) และฝั่งผู้ผลิต ที่ผลิตไม่ทันรับรถล่าช้าไปมาก …หากขยายกรอบเวลาเป็น 5 ปีตามที่คุณกรณ์เสนอมา จะทำให้ยืดหยุ่นขึ้น จะลดปัญหาทั้ง 2 ฝั่งไปได้เยอะครับ”