สธ.ชง ศบค. เปิดประเทศ เฟส 2 ตรวจ ATK คนเข้า ปท. งดค่าธรรมเนียมวัคซีน พาสปอร์ต

สธ.ชง ศบค. เปิดประเทศ เฟส 2 ตรวจ ATK คนเข้า ปท. งดค่าธรรมเนียมวัคซีน พาสปอร์ต

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ สธ. ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 11/2564 ว่า วันนี้การลงนามในสัญญาการสั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์ 30 ล้านโดส สำหรับปี 2565 ซึ่งจะนำมาเป็นบูสเตอร์ โดส รวมถึงในสัญญากับผู้ผลิตมีการเปิดช่องว่า หากมีวัคซีนรุ่นที่ 2 หรือวัคซีนสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีลงมาได้ ไทยสามารถจัดซื้อได้ในล็อตดังกล่าวได้ทันที และการลงนามจัดซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) จำนวน 5 หมื่นคอร์ส หรือ 2 ล้านเม็ด เพื่อรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19

นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อฯ มี 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.การปรับแนวทางสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตามแผนการเปิดประเทศในระยะที่ 2 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไป โดยรับผู้เดินทางไม่กักตัวตามระบบ Test and Go ใน 63 ประเทศ โดยต้องมีเอกสารการฉีดวัคซีน หลักฐานการตรวจหาเชื้ออาร์ที-พีซีอาร์ (RT-PCR) ก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง โดยจะมีการปรับว่าหากเข้ามาถึงไทยแล้วสามารถตรวจด้วยแอนติเจน เทสต์ คิท (ATK) ได้เป็นระยะ

“ทั้งนี้ สธ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะติดตามสถานการณ์เพื่อปรับมาตรการ หากจำเป็นต้องผ่อนคลายก็ผ่อนคลาย ส่วนที่ต้องขันให้แน่นขึ้นก็จะขัน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในประเทศ สามารถประกอบธุรกรรมได้อย่างปกติที่สุด”

นายอนุทิน กล่าวและว่า 2.การยกเว้นค่าธรรมเนียมออกหนังสือรับรองสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เฉพาะโควิด-19 ตามเดิม 50 บาท ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ E-vaccines Passport สำหรับผู้เดินทางระหว่างประเทศวันที่ 1-31 ธ.ค. 64 ซึ่งได้จัดหน่วยบริการ 120 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และ จ.นนทบุรี รวม 3 แห่ง คือ รพ.บางรัก ถนนสาธร สถาบันบำราศนราดูร และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) พื้นที่ระดับเขต 7 แห่ง ได้แก่ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคเชียงใหม่ ราชบุรี สระบุรี ชลบุรี ขอนแก่น อุดรธานี และสงขลา และระดับจังหวัด 110 แห่ง โดยที่ผ่านมา ผู้รับบริการกว่า 9 หมื่นคน จึงมีการให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

นายอนุทิน กล่าวว่า 3.การจัดหายารักษาโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นขั้นตอนปฏิบัติ โดยจะซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ที่ผ่านมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว โดยได้ขอความเห็นชอบจัดซื้อยาแพกซ์โลวิด (PAXLOVID) จากบริษัท ไฟเซอร์ เป็นการขยายฐานการเข้าถึงยาของประชาชน โดยจัดซื้อในจำนวนเท่ากันที่ 5 หมื่นคอร์ส หรือ 2 ล้านเม็ด ใช้คอร์สละ 40 เม็ด นอกจากจะซื้อแล้ว จะให้มีการศึกษาวิจัยทางคลินิก โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่ม 607 เราหวังว่ายาเหล่านี้ จะมาทำให้ประชาชนมีความปลอดภัย มีทางเลือก มีความมั่นใจว่า แพทย์จะมียาที่มีสรรพคุณดีที่สุดของแต่ละบุคคลได้

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงเรื่องการเปิดประเทศระยะที่ 2 ว่า จะเสนอเข้าที่ประชุม ศบค.ในวันที่ 26 พ.ย.นี้ เป็นไปตามที่รัฐมนตรีว่าการ สธ.ระบุ โดยหลักๆ คือ จะมีการเปิดช่องทางการเข้าประเทศมากขึ้น เพราะดูข้อมูลแล้วว่า อัตราการติดเชื้อในคนที่เข้ามาในประเทศระยะแรกค่อนข้างน้อย เช่น คนที่เข้ามาตามระบบ Test & Go มีการติดเชื้อร้อยละ 0.08 เป็นไปตามแผนที่นายกรัฐมนตรีกำหนดไว้ ดังนั้น 1.จะเสนอเปิดช่องทางการเข้าประเทศมากขึ้น เดิมอนุญาตให้เข้ามาเฉพาะทางอากาศเท่านั้น ก็จะเปิดเพิ่มทางเรือ และทางบก แต่ก็ไม่ใช่เปิดด่านบกทั้งหมดทั่วประเทศ จะเลือกเฉพาะด่านที่มีความปลอดภัยนำร่องไปก่อน 2.มีข้อจำกัดน้อยลง แต่ต้องเข้มข้นเรื่องการฉีดวัคซีน และการตรวจทางห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ (แล็บ)

นพ.โอภาส กล่าวว่า ส่วนรายชื่อประเทศที่จะเข้ามานั้น ที่ประชุม ศบค.ก่อนนี้ ได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) พิจารณาและประกาศเพิ่ม

“แต่แนวโน้มไม่น่าจะลดประเทศเดิมที่ได้อนุญาตไปก่อนหน้านี้ เพราะดูประเทศก็เป็นเพียงต้นทาง ไม่สำคัญเท่าคนที่เข้ามา คือ ต้องฉีดวัคซีนครบทุกคน ยกเว้นเด็กที่ฉีดไม่ได้ ก่อนเข้าต้องตรวจ RT-PCR ในระยะ 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และเมื่อเข้ามาแล้ว เดิมเรากำหนดว่าให้ตรวจ RT-PCR ซ้ำ ก็อาจจะปรับเป็นการตรวจ ATK แทน และมากำหนดว่าระหว่างนี้จะให้อยู่รอที่ไหน และใครจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนวิธีตรวจ ต้องใช้เวลา เพราะขณะนี้ระบบ Test & Go มีคนเข้ามา 5 พันกว่าราย เชื่อว่าถ้าเราเปิดมากกว่านี้ จะมีคนเข้ามามากกว่านี้ ดังนั้น ต้องวางระบบให้ดีก่อน” นพ.โอภาส กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีคนต่างชาติเข้ามา ตรวจเจอเชื้อก่อนในระดับที่ต่ำ แต่พอเข้ามาแล้วมีอัตราการติดเชื้อมากน้อยแค่ไหน นพ.โอภาส กล่าวว่า กลุ่มที่เข้ามาแล้วมีการติดเชื้อไม่มาก เมื่อเทียบกับการติดเชื้อในประเทศไทย ทั้งนี้ จากข้อมูลที่รวบรวมจากภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ไม่ได้ทำให้การระบาดใน จ.ภูเก็ต เพิ่มขึ้น ย้ำว่า เข้ามาแล้วจะมี่การติดเชื้อ แต่เข้ามาแล้ว การติดเชื้อต่ำ