ส.ส.ปชป. บี้ นำกำไร ‘ปตท.’ ชดเชยราคาน้ำมันดีเซล สุพัฒนพงษ์ แจง ขัดหลักกฎหมาย

“ส.ส.ปชป.” บี้ นำกำไร “ปตท.” ชดเชยราคาน้ำมันดีเซลแพง เหน็บ “สุพัฒนพงษ์” อย่าตอบเหมือนปกป้องผลประโยชน์ ด้านเจ้าตัว แจง เจียดกำไรแก้ดีเซลไม่ได้ เหตุ ขัดหลักกฎหมาย

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม วาระพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส. ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตั้งกระทู้ถามนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ถึงการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันดีเซลที่มีราคาแพงและกระทบกับประชาชน รวมถึงผู้ให้บริการด้านการขนส่ง ว่า ราคาน้ำมันดีเซล 30 บาทต่อลิตร คือเพดานราคาน้ำมันดีเซล ที่รัฐบาลประกาศควบคุม ซึ่งก่อนหน้านี้ทางอนุกมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนรษฎร มีข้อเสนอไปยังรัฐบาล ให้ดำเนินการเพื่อให้ราคาน้ำมันดีเซล​ต่ำกว่าลิตรละ 30 บาท

โดยใช้กลไกรัฐ คือ 1.ลดการผสมไบโอดีเซล ลิตรละ 47 บาท หากลดได้ และ ใช้กลไกของรัฐดูแลปาล์ม จะลดลิตรละ 2 บาท, 2.ลดภาษีสรรพสามิต เก็บราคา 5.99 บาทต่อลิตร, 3.ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 4,000 ล้านบาท หรือราคาสูงถึง 1.99 บาทต่อลิตร หากบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพ ไม่ควรกู้ตามที่ครม.อนุมัติ, 4.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลดารชดเชยแอลพีจี ภาคขนส่ง เหลือเพียงภาคครัวเรือน และ 5. ทบทวนการทำงานของ ปตท. โดยให้ ปตท.มุ่งดูแลประชาชน มากกว่าแสวงหากำไร ที่ล่าสุด​ประกาศผลกำไร 3 ไตรมาส รวม 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรบนคราบน้ำตาของประชาชน ดังนั้น ควรให้ ปตท.​มีการชดเชยค่าน้ำมันดีเซลให้ประชาชน

ด้านนายสุพัฒนพงษ์ ชี้แจงว่า สถานการณ์น้ำมันเราได้ติดตามอย่างใกล้ชิด แต่เนื่องจากสถานการณ์ราคาพลังงานมีความผันผวนมาก เกิดปรากฏการณ์ผู้ผลิตและผู้ใช้รายใหญ่มีความเห็นต่างกันและมีมาตรการโต้ตอบกัน ขณะที่ในส่วนของปตท. ปัจจุบันเป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจ รัฐบาลถือหุ้นประมาณ 60 กว่าเปอร์เซ็นต์ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ กิจการที่ปตท.ดำเนินการเกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ มีคณะกรรมการกำกับดูแลพลังงาน การทำงานของ ปตท. คือ ดูแลเสถียรภาพให้ประชาชนมั่นใจว่ามีพลังงานใช้ในต้นทุนที่เหมาะสม และทำธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ก๊าซปิโตเลียมเพื่อแข่งขันกับเอกชน ช่วยขยายเศรษฐกิจ ท่ามกลางการแข่งขันตลาดเสรี ทั้งนี้ ปัจจุบัน ปตท. มีหนี้สินสูงถึง 1.5 ล้านล้านบาท เมื่อเทียบกำไร ใน 9 เดือน เป็นกำไรที่เกิดจากการเพิ่มมูลค่าน้ำมัน ต้องเก็บไว้ 2 หมื่นล้านบาท กำไร แค่ 5.5 หมื่นล้านบาท ทั้งปีอาจได้ 8 หมื่นล้านบาทจากผลประกอบการ

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า สินทรัพย์ของปตท. อยู่ที่ 2.5 ล้านล้านบาท กำไรแสนล้านบาท เมื่อเทียบกับธุรกิจของต่างประเทศ กำไรไม่มาก แม้จะดูเหมือนเยอะ ทั้งนี้ ตามสัดส่วนของการถือหุ้น แม้รัฐบาลจะถือหุ้นมาก ถึง 62% แต่อีก 38% คือ นักลงทุนและประชาชน หากนำกำไรของปตท. สนับสนุนมาตรการของรัฐบาล เช่น สนับสนุนดีเซล ทำไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ได้จาก ปตท.ทั้งนี้ตลอด 9 เดือน เป็นเงิน 5.6 หมื่นล้านบาท คือ เงินปันผลที่รัฐบาลได้รับ และ เงินภาษี โดยเงินนี้จะออกมาในรูปแบบของการช่วยเหลือด้านต่างๆ เช่นกองทุนน้ำมัน

นายสุพัฒนพงษ์ ชี้แจงด้วยว่า ราคาขายน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท.​ราคาต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับเอกชนรายอื่นๆ ซึ่งเป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ไว้เพื่อดูแลประชาชน รวมถึงโครงการอื่นที่ช่วยเหลือประชาชน ยอมรับว่าอาจมีสิ่งที่ขาดตกบกพร่อง ดังนั้น กมธ.ฯเรียกให้ชี้แจงได้

นายอัครเดช กล่าวว่า ทางกมธ.ฯ เคยเรียก ปตท.​ชี้แจงแต่พบการบ่ายเบี่ยงไม่พร้อม แม้จะมาชี้แจงเป็นคำตอบทั่วไป เช่น ทำซีเอสอาร์ ซี่งคำชี้แจงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ชี้แจงได้ตอบเหมือนเป็นพนักงาน ปตท.​ ตอบในกมธ. ดังนั้น ขอให้ฟังคำตอบที่ชัดเจน อย่าทำหน้าที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของปตท. และขอให้ประกาศให้นำกำไรของปตท.​มาช่วยเหลือประชาชนทั้งหมด

นายสุพัฒนพงษ์ ชี้แจงต่อว่า ยืนยันว่าตนทำงานเป็นกลาง และเน้นประโยชน์ประชาชนของประเทศ ปตท. คือรัฐวิสาหกิจ คือ ใช้อำนาจท่าน หากเรียกไม่มา ท่านก็ตามได้ ให้แจ้งมาที่ตน พร้อมจะตามให้ เพราะเป็นหน้าที่อธิบายกับผู้แทนประชาชนเพื่อสื่อความให้ประชาชน ทั้งนี้ ตนกำชับว่าให้ไปทุกครั้งที่เรียก ยืนยันตนไม่ได้ตอบแทน ปตท. แต่ขอให้เชื่อมั่นในรัฐวิสาหกิจไทยในตลาดหลักทรัพย์ ที่ทำหน้าที่ดูแลประชาชน แต่ไม่สามารถนำกำไรทั้งหมดมาช่วยประชาชนได้ เพราะรัฐบาลถือหุ้นเพียงแค่ 62 % ยังมีผู้ถือหุ้นรายอื่นอีกด้วย อีกทั้งขัดต่อหลักการปกติของกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนจะถามคำถามสุดท้าย นายชวน กล่าวเตือนนายอัครเดชด้วยว่าว่าขอให้เกียรติรัฐมนตรีด้วย ทำให้นายอัครเดช ชี้แจงว่า ตนให้เกียรติรัฐมนตรี และทำความเคารพทุกครั้ง ซึงมติของอนุกมธ.ฯ รัฐวิสาหกิจของสภาฯ ที่ไล่รัฐมนตรีเพราะไม่สามารถให้ ปตท. ชี้แจงกมธ.ฯ ได้ ผ่านการกลั่นกรองมาแล้ว ไม่ใช่การไม่ให้เกียรติ แต่เมื่อเป็นความเดือดร้อนของประชาชน ดังนั้นอยากถามย้ำว่าถึงการนำกำไรของปตท.เพื่อแก้ปัญหาราคาน้ำมันดีเซลแพง

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวชี้แจงอีกครั้งว่า ที่ผ่านมาปตท. ส่งเงินให้รัฐ เป็นงบประมาณแผ่นดิน รวม 5.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งราคาขายต่ำสุดเมื่อเทียบกับสถานีบริการน้ำมันเอกชน เป็นรัฐวิสาหกิจไทยไม่ทอดทิ้ง ส่วนรายละเอียดของค่าใช้จ่ายนั้นตนไม่ทราบ แต่ขอให้ทราบว่าเป็นผู้นำตลาดในการกำหนดราคาน้ำมันดีเซล ตามนโยบายรัฐบาล