‘หมอระวี’ เผยเตรียมผนึกกำลัง ‘พรรคกลาง-เล็ก’ สู้ กม.ลูก ต้องใช้ระบบ MMP และส.ส.พึงมี

‘หมอระวี’ เผยเตรียมผนึกกำลัง ‘พรรคกลาง-เล็ก’ สู้ กม.ลูก ชี้ ต้องใช้ระบบ MMP และส.ส.พึงมี แจงไม่คิดทำสภาฯล่ม

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ว่า ที่ผ่านมาจุดยืนของพรรคเล็กและพรรคขนาดกลางเราเห็นชอบกับการเลือกตั้งด้วยบัตรใบเดียว แต่เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ลงมาแล้ว ก็ถือว่าเป็นการจบในประเด็นนี้ แต่ยังเหลือในส่วนของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม และแกนนำศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ที่ได้ยื่นหนังสือคัดค้านเรื่องการแก้ไขบัตรเลือกตั้ง 2 ใบต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน หากผู้ตรวจการไม่รับพิจารณา ผู้ยื่นสามารถยื่นที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งอาจจะต้องลองดูขั้นตอนนี้ต่อไปด้วย

นพ.ระวี ยังกล่าวถึงร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองว่า เมื่อช่วงเช้ากลุ่มพรรคเล็กและพรรคขนาดกลางได้มีการปรึกษาหารือกัน โดยมีการนัดพูดคุยกันในวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน เวลา 12.00 น. ที่รัฐสภา โดยจะมีกลุ่มพรรคเล็กที่มีเสียงเดียวและอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงพรรครักษ์ผืนป่า พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคพลังท้องถิ่นไทย พรรคชาติพัฒนา จะมาปรึกษาถึงท่าทีถึงแนวโน้มในการเลือกตั้งครั้งหน้า เมื่อมีความชัดเจนในการใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบแล้ว ต่อจากนี้ความสำคัญจะอยู่ที่การแก้กฎหมายลูกตามร่างของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รวมถึงพรรคขนาดใหญ่ที่จะเสนอเป็นการใช้ระบบ MMM คือ การเอาคะแนนที่เลือกพรรคทั่วประเทศมารวมกันแล้วหารด้วย 100 จะส่งผลให้จำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อต่อ 1 คนต้องได้คะแนนเสียงประมาณ 350,000-380,000 แต่ในความเห็นของกลุ่มพรรคเล็ก จะต้องคงหลักการเรื่อง ส.ส.พึงมีและการใช้ระบบ MMP คือการนำ 500 ไปหารจำนวนคะแนนที่ได้จากการเลือกตั้งทั้งหมด

“พรรคเล็กและขนาดกลางจะมีการพูดคุยกันถึงมาตรการในการเสนอ เช่น เราอาจจะไม่เสนอญัตติเข้าไป แต่อาจใช้วิธีสงวนแปรญัตติ หรืออาจรวมตัวกันเสนอญัตติขึ้นไปทาบเลย ไม่ว่าจะเสนอญัตติเดียวหรือเสนอแยกเป็นหลายญัตติ หรืออาจจะแยกเป็นทีละประเด็น เพราะหากมีบางประเด็นตกบางประเด็นอาจจะชนะได้” นพ.ระวี กล่าว

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคก้าวไกลและพรรคเสรีรวมไทยหรือไม่ นพ.ระวี กล่าวว่า ในส่วนตัวได้มีการพูดคุยกับพรรคขนาดกลางหลายพรรค รวมไปถึงพรรครวมพลังประชาชาติไทย ซึ่งอาจจะส่งตัวแทนมาร่วมประชุมกับเราในวันศุกร์ด้วย เบื้องต้นเราจะพูดคุยกับหลายพรรคร่วมรัฐบาลก่อน ส่วนกรณีของพรรคก้าวไกลและเสรีรวมไทยนั้น ถือเป็นการคุยส่วนตัวไม่เป็นทางการ แต่ทิศทางก็เห็นไปในทางเดียวกัน

ถามต่อว่า หากการนำเสนอแก้กฎหมายลูกไม่ผ่านตามที่พรรคเล็กเสนอ และต้องใช้ระบบ MMM ท่าทีจะเป็นอย่างไร นพ.ระวี กล่าวว่า ในเรื่องนี้มีข่าวออกมาว่า พรรคเล็กจะไม่เข้าประชุมสภา ไม่แสดงตน ไม่โหวตกฏหมายทุกฉบับสำคัญ และปล่อยให้สภาฯ ล่ม ตนขอปฎิเสธว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง พวกเรามีวุฒิภาวะพอ สิ่งที่ตัดสินใจจะเน้นผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง การทำหน้าที่ในสภาฯ เป็นคนละเรื่องกับการต่อสู้เพื่อแก้กฎหมายลูก หากสุดท้าย ไม่ได้เป็นไปตามที่เราเสนอ พรรคแต่ละพรรค ก็คงต้องไปตัดสินใจว่าจะต่อสู้ต่อ หรือจะไปรวมกลุ่มอะไรอย่างไร แต่ในขณะนี้ยังมีระยะเวลา