‘เท่าพิภพ’ จ่อฟ้องรัฐบาลแบบกลุ่มศุกร์นี้ โวยกระตือรือล้นเปิดบ่อน แต่ไม่แยแส ‘คนกลางคืน’

‘เท่าพิภพ’ โวย รัฐบาลกระตือรือล้นเปิดบ่อน แต่ไม่แยแส ‘คนกลางคืน’ ย้ำ ทุกธุรกิจต้องการความแน่นอนชัดเจน เผย ‘ก้าวไกล’ จ่อยื่นฟ้องแบบ Class Action รัฐบาล ศุกร์นี้

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล กล่าวว่า จากการที่ตนเคยอยู่ในแวดวงคนทำร้านอาหารผับบาร์หรือ ‘ธุรกิจกลางคืน’ มาก่อน ช่วง 2 ปีมานี้ ได้ฟังเสียงสะท้อนความทุกข์จากเพื่อนฝูงและผู้ประกอบการมากมายจนรู้สึกเหนื่อยใจกับการบริหารของรัฐบาลนี้มาก เพราะนอกจากความช่วยเหลือที่มีให้น้อยมากจนถึงไม่มีแล้ว ยังซ้ำเติมด้วยการทำตัวเป็นบ่อนทำลายความหวังในการทำมาหากินของพวกเขาด้วยความโลเลไม่ชัดเจนในมาตรการและคำสั่งแต่ละครั้ง และที่น่าน้อยใจมากก็คือ ในขณะที่รัฐบาลพูดกรอกหูประชาชน สร้างภาพสารพัดให้ธุรกิจกลางคืนเป็นผู้ร้ายของสถานการณ์โควิดแต่เพียงผู้เดียว สิ่งที่รัฐบาลกล้าที่จะทำมากกว่าคือการผ่อนปรนให้บ่อนชนวัว ชนไก่ กัดปลา แข่งนก ชกมวย ดำเนินการได้ ทั้งที่กิจกรรมเหล่านี้ก็เคยเกิดคลัสเตอร์ใหญ่มาแล้วทั้งสิ้น
.
“รัฐบาลดูจะกระตือรือล้นมากเรื่องเปิดบ่อน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ถึงกับบอกว่าเป็นของขวัญคนไทยในวันลอยกระทง เพราะได้เห็นหนังสือคำสั่งผ่อนคลายการแข่งขันชนไก่ ปลากัด แข่งม้า ชนโค ชกมวยและแข่งนก ไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดแล้ว ส่วนตัวผมไม่ขัดข้องอะไรในเรื่องนี้ แต่แค่มีคำถามว่า ในเมื่อรัฐบาลเชื่อมั่นว่าสามารถอนุญาตให้กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงดำเนินการได้ภายใต้มาตรการควบคุมโรค

แล้วเหตุใดจึงไม่นำแนวคิดนี้มาใช้ให้เป็นคุณกับธุรกิจกลางคืนบ้าง คลัสเตอร์สนามมวยลุมพินี คลัสเตอร์สนามวัวชน คลัสเตอร์บ่อนพนันเคยมีมาแล้วทั้งนั้น ถึงท่านให้เหตุผลว่ายังห้ามไม่ไปชมที่สนามตอนนี้ แต่ถามว่าการรวมกลุ่มตามบ้านเจ้ามือยังมีอยู่และเป็นความเสี่ยงเช่นกันใช่หรือไม่ และท่านจะห้ามได้อย่างไร แต่ท่านยังกล้าคลายล็อกให้ภายใต้เงื่อนไขการกำกับมาตรการความปลอดภัย แล้วทำไมจึงไม่กล้าใช้เงื่อนไขนี้คลายล็อกให้ธุรกิจกลางคืนที่ได้รับความลำบากอย่างต่อเนื่องด้วย”
.
เท่าพิภพ ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมารัฐบาลปล่อยให้ชะตากรรมของธุรกิจกลางคืนอยู่บนความไม่แน่นอน เดี๋ยวบอกเปิด เดี๋ยวบอกต้องเลื่อน เลื่อนแล้วบอกจะพิจารณาใหม่ ยิ่งนายกรัฐมนตรีบอกเปิดได้ก็ปิดได้ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ สมดังคำที่ใครๆมักบอกว่า ให้ทหารมาทำธุรกิจ ต่อให้เป็นผู้ขายขายเจ้าเดียวก็เจ๊ง เพราะพวกท่านไม่เข้าใจธุรกิจแม้แต่นิดเดียว เนื่องจากการทำธุรกิจทุกอย่างต้องการความแน่นอนชัดเจน ต้องวางแผน ต้องเตรียมตัว มีต้นทุน บุคลากร วัตถุดิบที่ต้องเตรียม ไม่ใช่นึกจะเปิดก็เปิดนึกจะปิดก็เปิดได้เหมือนสั่งลูกน้องในค่ายทหาร
.
“คราวก่อนพวกเขาก็เสียเงินฟรีไปแล้วรอบหนึ่งจากการประกาศเปิดประเทศแล้วเลื่อนออกไป ตอนนี้มีข่าวว่าจะชงเข้า ศบค.ชุดใหญ่ ให้พิจารณาเลื่อนเข้ามาอีก ผมจึงขอเสนอว่า ควรพิจารณาเปิดให้ธุรกิจกลางคืนทำมาหากินได้แล้ว ส่วนจะมีมาตรการป้องกันอย่างไรก็ไปกำหนดร่วมกันกับกลุ่มผู้ประกอบการ รวมถึงควรมีแนวทางช่วยเหลือต่างๆให้เขาเริ่มต้นได้ด้วย เช่น เงินทุนในการปรับปรุงร้านภายใต้มาตรการความปลอดภัย หรือสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อขยายสายป่านให้ยาวขึ้น ส่วนกิจการใดหากเห็นว่าต้องปิดก็ออกมาตรการชดเชยเยียวยามาให้ชัด อย่าทิ้งพวกเขาไว้ข้างหลังเพื่อเป็นแพะรอท่านเชือดในเวลาควบคุมโควิดไม่ได้เหมือนที่เคยทำตลอดมา”
.
ทั้งนี้ เท่าพิภพ กล่าวว่า สำหรับกรณีที่กลุ่มผู้ประกอบการ นักร้อง นักดนตรีกลางคืน ที่มายื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดทำการสถานบันเทิงตามกำหนดเดิม 1 ธ.ค. 64 ผ่านทาง ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร นั้น ทางคณะกรรมาธิการได้นำเข้าสู่วาระการพิจารณาในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ย.64)

นอกจากนี้ จากการที่พรรคก้าวไกลเสนอเป็นตัวกลางในการฟ้อง Class Action (ฟ้องร้องแบบกลุ่ม) เพื่อเรียกค่าเสียหายให้ประชาชนที่เดือดร้อนจากมาตรการสั่งปิดเพราะโควิด เพื่อสร้างบรรทัดฐานความรับผิดชอบของภาครัฐ สำหรับกรณีเรียกร้องค่าเสียหายและการชดเชยเยียวยากลุ่ม นักดนตรี ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผับ บาร์ และธุรกิจกลางคืน ที่มีการรวบรวมรายชื่อไปแล้วนั้น จะมีการไปยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง ในวันศุกร์นี้ (27พ.ย.64)