“สงคราม” อัดผู้มีอำนาจแก้ปัญหาแรงงานเถื่อนไม่จริงใจ เพราะมีผลประโยชน์บังตา

“สงคราม” อัด ผลประโยชน์บังตาทำผู้มีอำนาจไม่จริงใจแก้ปัญหาแรงงานเถื่อน อัดมาตรการรัฐสร้างปัญหาไม่รู้จบ เปิดประเทศแต่ไม่พร้อมทำไทยสูญรายได้มหาศาล

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากนโยบายล็อคดาวน์ประเทศที่ผ่านมา ส่งผลกระทบทั้งสังคม และเศรษฐกิจ ของประเทศอย่างหนัก ผู้ประกอบการประสบปัญหา ยิ่งผู้ประกอบการส่งออกประสบปัญหาหนักมาก เพราะไม่มีแรงงานทำงาน เนื่องจากรัฐบาลไล่แรงงานต่างด้าวกลับประเทศต้นทาง โดยไม่มีแนวทางแก้ปัญหา

มาถึงเวลานี้รัฐบาลยังสร้างปัญหาไม่รู้จบ เปิดประเทศแต่ ไม่เปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ สั่งปิดนานนับปี สูญเสียรายได้มหาศาล ที่ผ่านมาสถานบันเทิงสร้างรายได้เข้าประเทศต่อปีหลายหมื่นล้านบาท รัฐบาลอ้างเพื่อป้องกันโควิด แต่ไม่สามารถหยุดยั้งการระบาดได้ แต่สร้างความเสียหายได้ ทั้งๆที่รัฐบาลควรหามาตรการในการที่จะให้กลุ่มสถานบันเทิง เปิดได้ โดยต้องทำตามมาตรการที่รัฐกำหนด แต่รัฐคิดไม่เป็น ทำไทยสูญรายได้ นักท่องเที่ยวมาไทยจะไปเที่ยวที่ไหน ให้เดินป่า หรือ อยู่แต่ทะเล เท่านั้นหรือ

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า เมื่อคิดเปิดประเทศ แต่กลับไม่มีแรงงานทำงาน ดังนั้นผลที่ออกมาคือการลักลอบเข้ามาของแรงงานผิดกฎหมายจำนวนมาก ภาพหน่วยงานความมั่นคงจับแรงงานลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายหลายร้อยคน อยากถามว่าในพื้นที่จริงเป็นเช่นไร เพราะหลายฝ่ายมองว่าสร้างภาพเท่านั้น
“พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศนโยบายขึงขังว่าจะจัดการขบวนการขนแรงงานเถื่อนอย่างจริงจัง แต่ในความเป็นจริงฝ่ายความมั่นคงรู้ดีถึงปัญหาแต่ไม่ดำเนินการเพราะผลประโยชน์บังตา ภาพการจับแรงงานเถื่อนเป็นเพียงการขอจับเท่านั้น แต่ส่วนหลังฉากเปิดทางให้ผู้มีอิทธิพลขนแรงงานนับหมื่นคนเข้าไทยอย่างผิดกฎหมาย ปัญหาที่ตามมาคือการป้องกันการระบาดของไวรัสทำเท่าไหร่ก็แก้ไม่ได้ เพราะมีผู้มีอำนาจในรัฐบาลไม่เอาจริงกับการแก้ปัญหาแรงงานข้ามชาติ ดังนั้นอยากให้ผู้มีอำนาจคิดถึงประชาชนมากกว่าผลประโยชน์ของตัวเอง ปัญหาลักลอบเข้าเมืองจะเบาบางงอย่างแน่นอน”นายสงคราม กล่าว