ม.หอการค้าไทยคาดจีดีพีปี 65 โต 4.2% เหตุรัฐเติมมาตรการกระตุ้นใช้จ่าย-ลดหนี้ครัวเรือน

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2564 ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ขณะนี้เริ่มเข้าภาวะการฟื้นตัว โดยการฟื้นตัวจะเห็นชัดเจนในไตมาส 2/2565 หลังจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังไม่มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อปรับเพิ่มขึ้น แม้จะมีการคลายมาตรการล็อกดาวน์ เปิดเมืองให้ทำกิจกรรมได้ตามปกติ และเปิดประเทศ ทำให้จะมีเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยว ช่วงที่เหลือปีนี้มีจำนวนเข้าไทย 2-3 แสนคน สร้างรายได้ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ประกอบกับเม็ดเงินจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะช้อปดีมีคืน ยิ่งใช้ยิ่งได้ คนละครึ่ง รวมทั้งรายได้ภาคการส่งออกคาดทั้งปีนี้ขยายตัว 16.5% ทำให้เศรษฐกิจไทย ฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4/2564 และขยายตัว 2-3% ส่งผลให้เศรษฐกิจทั้งปี 2564 ขยายตัว 1.5% เท่านั้น

นายธนวรรธน์กล่าวต่อว่า สำหรับปี 2565 คาดเศรษฐกิจไทยขยายตัวในกรอบร้อยละ 3.6-4.5% และค่ากลางอยู่ที่ 4.2% โดยการขยายตัวดีขึ้นชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 ปัจจัยส่งผลต่อเศรษฐกิจปี 2565 คือ ภาคอุตสาหกรรมกลับมาฟื้นตัว หลังภาคส่งออกปี 2564 ขยายตัวต่อเนื่องจึงเกิดการลงทุนเพิ่มเพื่อผลิตส่งออก โดยประเมินว่าส่งออกปี 2565 ขยายตัวเพียง 5.4% เนื่องจากฐานส่งออกปี 2564 สูง ขณะที่ภาคบริการจะโดดเด่นมากขึ้นหลังจากเปิดประเทศ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5 ล้านคน และสร้างรายได้กว่า 3 แสนล้านบาท ส่งผลดีต่อการจ้างงานทั้งในภาคการผลิตและบริการ รวมทั้งราคาน้ำมันทรงตัว 80-85 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล และเชื่อว่ารัฐจะตรึงราคาดีเซลที่ลิตรละ 30 บาท จนกว่าเศรษฐกิจฟื้นตัว ค่าเงินบาทอยู่ระดับ 32-33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และเงินเฟ้อระดับ 1.5% จากปี 2564 ระดับ 1.2%

ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามปี 2565 คือ ปัญหาหนี้ครัวเรือน เพราะธุรกิจขนาดเล็กยังเข้าไม่ถึงสินเชื่อ กระทบกับรายได้ของประชาชนฐานราก รวมทั้งภาครัฐ ควรเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยใช้เม็ดเงินอย่างน้อย 5 แสนล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรก ตามข้อเรียกร้องของภาคเอกชน โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง เพิ่มเติมอีกคนละ 1,500 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาสแรก รวมทั้งเร่งการจ้างงาน และจัดซื้อจัดจ้างโครงการลงทุนภาครัฐ ที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งจะเป็นพื้นฐานการผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ดีขึ้นต่อไป และการเร่งฉีดวัคซีนเพื่อสร้างความมั่นใจคนไทยและต่างชาติ