เผยแพร่ |
---|
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ที่ห้องประชุมข่าวสด มติชนสุดสัปดาห์ นิตยสารรายสัปดาห์ที่เป็นชุมชนนักคิด คอลัมนิสต์ที่นำเสนอแง่มุม ให้วิเคราะห์ ต่อยอดและถกเถียงแลกเปลี่ยน ได้ก้าวสู่ครบรอบปีที่ 42 ของนิตยสาร ได้จัดงานเสวนา 2565 ท้าเปลี่ยนประเทศไทย เชิญบุคคลสำคัญของพรรคการเมืองชั้นนำของไทยมาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ภาคการเมืองเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศหลายมิติ หลังผ่านวิกฤตโควิด-19 ในช่วงร่วมแลกเปลี่ยนเมื่อเวลา 14.30 น. หลังการแสดงวิสัยทัศน์ จากนักการเมืองระดับแกนนำสำคัญของพรรคการเมือง 4 พรรค ได้แก่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย และคุณศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ผ่านคำถามจาก จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ พิธีกรและผู้ดำเนินรายการชื่อดัง
ในส่วนคำถามถึงพรรคการเมืองกับคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นฐานเสียงชี้ชะตาในการเลือกตั้งครั้งหน้า มีไอเดียจะตอบสนองความต้องการคนหนุ่มสาวยังไง
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า สำหรับนโยบายคนรุ่นใหม่ของพรรคเพื่อไทย ได้เตรียมนโยบายสำหรับแก้ไขปัญหาเรียนจบแล้วไม่มีงานทำ ซึ่งเป็นปัญหาที่เด็กและเยาวชนที่เติบโตในยุคพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องเจอ ทั้งตกงาน หางานทำไม่ได้ ไม่มีอนาคต โดยพรรคเพื่อไทยจะใช้กลไกของคณะกรรมการด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม คิดค้นวิธีการเชิงกลยุทธ์และเชื่อมโยงนวัตกรรม มาใช้ในการดำรงชีวิตและทำมาหากิน ด้วยการสร้างงานและแนวทางการช่วยเหลือ รวมทั้งสร้างวิธีการที่จะรองรับให้เยาวชนสามารถประคองตัวได้ในช่วงต้นและยืนอยู่ได้ในอนาคต เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่มีที่ยืนในสังคมและกำหนดอนาคตตนเองได้ และในฐานะที่พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคการเมือง หากได้เป็นรัฐบาลจะสนับสนุน ไม่ขัดขวางความคิดสร้างสรรค์ จะผลักดัน ไม่ยืนขวางทางคนรุ่นใหม่
ด้านคุณศิริกัญญา กล่าวว่า จากอนาคตใหม่สู่ก้าวไกล ฐานเสียงคือคนรุ่นใหม่ แม้เราไม่ใช่คนหนุ่มสาวอายุน้อย แต่ด้วยจริตที่ใกล้เคียง วิธีคิดที่ทับซ้อนบางอย่างพอดี การสื่อสารของเราไปโดนใจ ถ้าเราจะรักษาคนที่ยังสนับสนุน ไม่มีทางอื่นอะไรนอกจากฟัง ทำตัวเป็นพื้นที่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่ว่ารอคิดไปก่อนแล้วค่อยตอบทีหลัง วิธีการของคนรุ่นใหม่ค่อนข้างเร็ว ต้องรับฟังและทำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทันที
ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า คนรุ่นใหญ่ รุ่นกลาง ต่างมีประสบการณ์ของตัวเอง แต่ต้องยอมรับว่าคนรุ่นใหมที่จะเป็นเจ้าของประเทศในระยะยาว เขามีโลกอินเตอร์เน็ตที่สืบหาเอง มีตรรกะและเหตุผลมากกว่ารุ่นก่อน คาดหวังต่อประเทศสูง เราเองต้องยอมรับและรับฟัง แม้ประสบการณ์เราจะมากกว่า แต่พวกเขารอบรู้มากกว่าเรา การเข้ามามีส่วนร่วมที่เรามีคนรุ่นใหม่เข้ามา
เราต้องสนับสนุนให้ใช้ศักยภาพของพวกเขาอย่างเต็มทีสุด นั้นทำไมถึงลดเวลาเรียนและเรียนที่จำเป็นต่อการทำมาหากิน ต้องการหลายทักษะ เราต้องสนับสนุนพวกเรา ได้เรียนในสิ่งที่ใช้ประโยชน์ได้ เขาเรียนในอินเตอร์เน็ตได้มากกว่าในห้องบรรยาย ถ้าลดเวลานี้ลงก็เข้าสู่ตลาดแรงงานได้เร็ว เราต้องสนับสนุนให้พวกเขาเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ มีกองทุนที่ช่วยตั้งตัว นอกจากเรื่องกองทุน เรามีหลายมหาวิทยาลัยทั้งไทยและต่างประเทศ ต้องมีศูนย์บูรณาการเชื่อมโยง ถ้าไม่มีการวิจัย เราสามารถส่งเสริมให้ได้ตามฝัน เป็นเจ้าของกิจการได้อย่างแท้จริง ด้วยความจริงใจและทำได้ เราจะเชื่อมโยงมหาวิทยาลัยในไทยและต่างประเทศรองรับการทำงานของคนรุ่นใหม่
ส่วนนายนิพนธ์ กล่าวว่า การทำให้คนทุกกลุ่มอยู่ร่วมกันอย่างสันติ แต่ในมุมมองพรรคปชป.ที่ผ่านร้อนหนาวมามาก ช่วงปี 18-19 คนในปชป.ก็ถูกกล่าวหาเป็นคอมมิวนิสต์ ชวนต้องหนีเข้าป่า ฉะนั้นปชป.ซึมซับสิ่งเหล่านี้ ช่วงวัยที่แตกต่าง ถ้าไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ ก็อยู่ได้ยาก วันนี้ทำยังไงให้การศึกษามีคุณภาพ เราใช้เวลานานให้การศึกษามีคุณภาพแต่ตอนนี้ต้องยกระดับ เราต้องการให้ตลาดแรงงานที่รองรับคนหนุ่มสาวที่จบมหาลัยได้สอดคล้องตามความจริง เช่น AEC จะผลิตคนยังไงให้ค้าขายพื้นที่ลุ่มน้ำโขง หรือค้าขายชายแดนยังไงให้สอดคล้องแต่ละพื้นที่ เราต้องปรับยุทธศาสตร์การศึกษาชาติ ที่สอดคล้องกับแต่ละพื้นที่
“ในมุมมองปชป. การให้โอกาสคนหนุ่มสาว เมื่อก่อนเราผลิตให้คนเข้าสู่ราชการ แต่วันนี้คนรุ่นใหม่ทำยังไงได้เป็นเจ้าของกิจการหรือเป็นซีอีโอ เป็นสิ่งที่เราต้องทำ ปัญหาความเหลื่อมล้ำโครงสร้างรายได้ เราอยากปั้นคนเจน Z เป็นเจ้าของกิจการ เราต้องส่งเสริมให้เกษตรกรขายสินค้าโดยตรง ปชป.กว่า 8 ทศวรรษ ถ้าที่นี่เป็นสถาบันทางการเมืองที่คนอยากเข้ามีส่วนร่วมสร้าง ปชป.ก็พร้อมต้อนรับ” นายนิพนธ์ กล่าว