ประชาธิปัตย์ ขย่ม! พรรคไหนให้ “คนนอก” มาครอบงำ ต้องถูกฟันตามกฎหมาย

“ราเมศ” ชี้ หากบุคคลอื่นครอบงำพรรคการเมืองต้องถูกลงโทษตาม กม. เชื่อ กกต.ยึดหลักกฎหมาย – พยานหลักฐาน ส่วนประชาธิปัตย์ ยึดรัฐธรรมนูญ-กฎหมาย เคร่งครัด

วันที่ 27 ต.ค. นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ให้ตรวจสอบพรรคการเมืองที่มีบุคคลอื่นที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคดำเนินการในลักษณะควบคุม คลอบงำ ชี้นำพรรค ว่า ข้อกฎหมายตามกฎหมายพรรคการเมือง ระบุไว้ค่อนข้างชัดในเรื่องดังกล่าว คือ

มาตรา 28 ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม นอกจากนี้ยังมี มาตรา 29 ที่ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม

นายราเมศกล่าวต่อว่า เมื่อมีบุคคลยื่นต่อ กกต.ก็เป็นหน้าที่ที่จะต้องวินิจฉัยเบื้องต้น เชื่อว่า กกต ดำเนินการเรื่องนี้ได้ไม่ยาก ผิดถูกว่ากันไปตามที่กฎหมายกำหนด ตามพยานหลักฐาน และบ้านเมืองปกครองด้วยกฎหมาย หากมีการกระทำการที่ฝ่าฝืน มีพยานหลักฐานชัด ก็จะละเว้นไม่ได้ ทุกฝ่ายต้องให้อิสระในการวินิจฉัยของ กกต อย่างเต็มที่ ซึ่งประเด็นสำคัญที่ต้องวินิจฉัยหนีไม่พ้นเพียงประเด็นเดียวที่เหลือคือ ลักษณะที่ทำนั้น ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ต้องถูกลงโทษตามที่กฎหมายกำหนด

“ในส่วนของพรรคฯยึดหลักการข้อนี้อย่างเคร่งครัด อำนาจที่สำคัญของพรรคการเมืองคือ สมาชิกพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค มีอิสระในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองโดยยึดรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ข้อบังคับอย่างเคร่งครัด”นายราเมศ กล่าว