น.ศ.วิจิตรศิลป์ ทำพิธี ‘เรียกผีผู้บริหาร’ หอบ 1,700 ชื่อยื่นถอด ‘อธิการ-คณบดี’ รอง ส.มช.ขอลาออกลั่นอดสู

น.ศ.วิจิตรศิลป์ ทำพิธี ‘เรียกผีผู้บริหาร’ หอบ 1,700 ชื่อยื่นถอด ‘อธิการ-คณบดี’ รอง ส.มช.ขอลาออก อดสู-สิ้นภาคภูมิ

วันที่ 25 ตุลาคม 2564 เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ หน้าสำนักงานสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อาคารยุทธศาสตร์ฯ นักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ และเครือข่ายนักศึกษา มช. กลุ่มชุมชนนักศึกษาอธิปไตย รวบรวม 1,700 รายชื่อ เข้ายื่นต่อ 1.สภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 2.คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน และ 3.คณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ให้พิจารณาถอดถอน นพ.นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รศ.อัศวิณีย์ หวานจริง คณบดีคณะวิจิตรศิลป์

โดยเวลา 13.35 น. นักศึกษาร่วมกันทำสัญลักษณ์ เขียนเทียนเป็นชื่อ “นิเวศน์ นันทจิต” และ “อัศวิณีย์ หวานจริง” คณบดีคณะวิจิตรศิลป์ และข้อความ ‘ขณะวิจิตรสิ้น’ ก่อนนำพานธูปเทียนมาจุด ตั้งอยู่ด้านข้าง ก่อนเริ่มทำพิธี “เรียกผีผู้บริหาร” และเรียกสภามหาวิทยาลัยมารับหนังสือเรียกร้องถอดถอนผู้บริหาร ระหว่างนี้มีการกล่าวทวงถามถึงบทบาทหน้าที่ของผู้นำนักศึกษา ทั้งสโมสรคณะ สโมสรกลาง และสภานักศึกษา ถึงความใส่ใจในเรื่องสิทธิเสรีภาพและสวัสดิภาพของนักศึกษา ที่บรรดาผู้นำนักศึกษาควรเป็นกลุ่มแรกที่ออกมายืนเคียงข้างนักศึกษาต่อประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นใน ม.เชียงใหม่

ตัวแทนนักศึกษากล่าวว่า เรามีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ

1.ขอตั้งกรรมการตรวจสอบ ถอดถอนอธิการบดี มช., คณบดีวิจิตรศิลป์ มช.และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ‘วิจิตรสิ้น’

2.อธิการบดี มช. และคณบดีวิจิตรศิลป์ ต้องมาจากการเลือกตั้งของนักศึกษา คือปัญหาที่มีมานานแล้ว แม้เราจะไล่ออก ก็จะมีคณบดีชายตะขาบขึ้นมาอีก จึงควรจะมีการคัดเลือกจากนักศึกษา

3.เราอยากให้มีการดำเนินการตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นในคณะวิจิตรศิลป์ ทั้งการดำเนินการของผู้บริหาร การจัดการ งบประมาณ การเคารพสิทธิเสรีภาพในมหาวิทยาลัย และการวางตัวของคณบดี และผู้บริหาร การแก้ปัญหาการทุจริต ฯลฯ

ซึ่งการแต่งตั้งโดยขาดความโปร่งใสเป็นปัญหาที่นักศึกษาหลายคนต้องประสบ การบริหารงานซ้ำเดิมทำให้ปัญหาไม่ถูกแก้ไข เหมือนปัญหาที่เกิดขึ้นในสาขาวิชามีเดียอาร์ตที่ช่วงต้นปีมีการรื้อถอน เอางานนักศึกษาไปทิ้ง คณบดีคนนี้มีกิริยา การรวางตัวที่ไม่เหมาะสม เราต้องการให้ตรวจสอบ เพราะตอนนี้เราเดือดร้อนมากๆ แล้ว

จากนี้เราจะยื่นข้อเรียกร้องให้ 3 องค์กร คือ 1.สภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 2.ยื่นผ่านคุณทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ไปคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร และ 3. ยื่นผ่านคุณเพชรรัตน์ ใหม่ชมภู พรรคก้าวไกล ไปยังคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน

ด้าน “รองนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่” กล่าวว่า ขอบคุณนักศึกษามีเดียอาร์ตที่ลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพที่เราพึงมี แก้ความอัปยศอดสู มีการขุดปัญหาใต้พรม จึงขอมาพูดถึงองค์การนักศึกษาว่าตนจะยืนเคียงข้างอย่างแน่วแน่

“ฝากถึงคนที่ยังนิ่งเฉยต่อเหตุการณ์ เรามาพูดในฐานะผู้นำนักศึกษา มีสูทประจำตำแหน่ง แต่ไม่ค่อยภาคภูมิใจที่ไม่สามารถแสดงออกถึงเจตนารมณ์ของนักศึกษาได้

“ผมขอฝากถึงเพื่อนสมาชิก สโมสรนักนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ส.มช.) ที่ยังนิ่ง วางเฉย อ้างว่าติดโปรเจ็กต์ ซึ่งทราบในภายหลังว่ามีการเข้าไปคุยกับผู้บริหารคณะวิจิตรศิลป์ ประเด็นคือ ส.มช.ต้องตอบคำถามกับสังคม รวมถึงประธานสภานักศึกษาคนอื่นๆ พวกคุณเข้าไปคุยกับผู้บริหารโดยไม่มีเพื่อนสมาชิกมีเดียอาร์ต แม้แต่คนเดียว กลับอ้างว่านักศึกษามีเดียอาร์ตส่งเอกสารขออนุญาตไม่ครบ บอกว่าดำเนินการตามระบบ แต่เราไม่เห็นอะไรออกมาเป็นรูปธรรม

“‘ขณะวิจิตรสิ้น’ เป็นขณะเดียวกับที่ปัญหาซึ่งซุกใต้พรม ได้ถูกขุดขึ้นมา เป็นความน่าอัปยศอดสู ทั้งที่ ส.มช. ควรออกมาแสดงออกเป็นกลุ่มแรก หากเมินเฉยต่อนักศึกษาจะมี ส.มช.ไปทำไม” รองนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่กล่าว และว่า

“นักศึกษาที่ถูกคดี ม.112 สโมสรนักศึกษาไม่แม้แต่ไปให้กำลังใจที่ สภ. ผมจึงผิดหวังเป็นอย่างมากที่เราร่วมฝ่าฝันกันมา กลับไร้ซึ่งกระดูสันหลังที่จะยืนยันว่าคดีเหล่านี้ไม่เป็นธรรม ไปจนถึงการเทคแอ๊กชั่นของนักศึกษา เรียกร้องสวัสดิการ ปกป้องประโยชน์นักศึกษา คือลดค่าเทอม เรากลับกลายเป็นแกะดำ ผมขอออกจากกลุ่มนักศึกษาวันใหม่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป” รองนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่มพรรควันใหม่ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.มช.ในปีนี้

ก่อนนำเปลวเทียนมาลนสัญลักษณ์ ส.มช.ที่เสื้อสูท โดย “ชุมชนนักศึกษาอธิปไตย” ระบุด้วยว่า เสื้อสูทประจำตำแหน่งดังกล่าวเป็นเสื้อที่บรรดาผู้นำนักศึกษาต่างภาคภูมิใจและไร้ยางอายเมื่อสวมใส่ ด้วยเหตุที่ไม่สามารถกระทำตนให้เหมาะสมกับการเป็นผู้นำนักศึกษาได้อย่างแท้จริง

ขอบคุณภาพทั้งหมดจาก ประชาคมมอชอ, ชุมชนนักศึกษาอธิปไตย