พบเดลต้าระบาดกว่า 10 มณฑลในจีน เหตุเดินทางข้ามเขต หวั่นโควิดกลับมาพุ่งอีก

ที่มา : Xinhua

สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในจีน กลับมาน่าเป็นห่วงอีกครั้ง จากสายพันธุ์เดลต้าที่มาจากการเดินทางข้ามภูมิภาค-ข้ามประเทศ สะเทือนอีเวนต์กีฬา รัฐบาลงัดกฎหมายใหม่คุมเข้มชายแดน 

วันที่ 25 ตุลาคม 2564 เว็บไซต์ไลฟ์มินท์ของอินเดีย รายงานอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีน ที่ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ในจีน จะพุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า และหลังจากนี้จะพบพื้นที่ที่มีการระบาดมากขึ้น

นายอู่ เหลียงโหย่ว เจ้าหน้าที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน กล่าวระหว่างการแถลงสรุปในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า การที่โควิดกลับมาระบาดในจีนครั้งล่าสุด มีสาเหตุจากสายพันธุ์เดลต้าที่มาจากต่างประเทศ

ด้าน นายหมี่ เฟิง โฆษกคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน กล่าวว่า การระบาดในจีนครั้งนี้เกิดขึ้นใน 11 มณฑลของจีน นับตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีประวัติเดินทางข้ามภูมิภาคมาก่อน นอกจากนี้ เขายังได้เตือนพื้นที่ที่พบการระบาดให้รีบบังคับใช้มาตรการฉุกเฉิน

นายซู มิน เจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคม เผยว่า บางเมืองในมณฑลก่านซู่ ซึ่งรวมถึงเมืองหลวงอย่างนครหลานโจว และเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ได้ระงับการให้บริการรถโดยสารประจำทางและแท็กซี่ เนื่องจากการแพร่ระบาด

ที่เอ๋อจี้ เมืองแถบตะวันตกของมองโกเลียใน เจ้าหน้าที่ได้ขอให้ประชาชนและนักเดินทางอยู่แต่ในที่พัก ตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด ตามแถลงการณ์ของรัฐบาลท้องถิ่น

จีนพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 26 ราย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แบ่งเป็น มองโกเลียใน 7 ราย, มณฑลก่านซู่ 6 ราย, เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย 6 ราย, กรุงปักกิ่ง 4 ราย, มณฑลเหอเป่ย์ 1 ราย, มณฑลหูหนาน 1 ราย และ มณฑลส่านซี 1 ราย ตามรายงานของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ

ความพยายามในการควบคุมการระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลต้าในเอเชียเริ่มลดน้อยลง เนื่องจากรัฐบาลในหลายประเทศต้องการเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ เช่น สิงคโปร์ที่เพิ่งประกาศเมื่อวันเสาร์ว่า พนักงานที่ได้รับวัคซีนครบโดสและผู้ที่หายป่วยจากโควิดนาน 270 วัน สามารถกลับมาทำงานได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นไป ทั้งที่สัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลสิงคโปร์เพิ่งต่อมาตรการควบคุมโควิดไปอีก 1 เดือน เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น แม้ประชากรเกินกว่า 84% ของประเทศ จะได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว

โควิดป่วนอีเวนต์กีฬาจีน

รองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคปักกิ่ง รายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า ที่กรุงปักกิ่ง พบการระบาดใน 3 เขต ซึ่งรวมถึงเขตไฮเดียน และผาง ซิงโห่ว โดยในกรุงปักกิ่งมีรายงานการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย และอีก 1 รายที่ไม่แสดงอาการ ในช่วงบ่ายวันเสาร์ถึงบ่ายวันอาทิตย์

ด้วยเหตุนี้ กรุงปักกิ่งจึงยกเลิกการแข่งขันวิ่งมาราธอน ซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม นอกจากนี้ ทางการกรุงปักกิ่งยังห้ามไม่ให้ประชาชนที่เดินทางมาจากเมืองที่พบการระบาดเดินทางเข้ามาในพื้นที่อีกด้วย

ฟรานซ์ทเวนตี้โฟร์ รายงานว่า ผู้จัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนเมืองอู่ฮั่น ออกแถลงการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะเลื่อนการจัดงานออกไปก่อน เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการระบาด โดยผู้จัดงานจะคืนเงินค่าสมัครให้กับประชาชนที่ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว

ก่อนหน้านี้ ผู้จัดงานคาดว่าจะมีประชาชน 26,000 คน เข้าร่วมการแข่งขันฟูลมาราธอนและฮาล์ฟ มาราธอน ในเมืองอู่อั่น ซึ่งเป็นเมืองแรกที่พบการระบาดของโควิด เมื่อช่วงปลายปี 2562

ก่อนหน้านี้ จีนประสบความสำเร็จในการลดจำนวนผู้ติดเชื้อ ด้วยการใช้มาตรการเชิงรุก, การตรวจหาเชื้อในประชาชนจำนวนมาก และการใช้มาตรการป้องกันพรมแดนที่เข้มงวด

วันพุธที่จะถึงนี้ ทางการปักกิ่งจะเริ่มนับถอยหลัง 100 วัน ก่อนเริ่มการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งผู้จัดงานยอมรับเมื่อช่วงต้นเดือนว่า พวกเขากำลังเผชิญแรงกดดันมหาศาล เนื่องจากการระบาดของโควิด

การแข่งขันดังกล่าวอาจเป็นการแข่งขันกีฬาที่มีข้อจำกัดมากที่สุดนับตั้งแต่พบการระบาด เนื่องจากไม่อนุญาตให้ผู้ชมจากต่างประเทศเข้าชม และกำหนดให้ผู้ที่เข้าร่วมงานต้องเข้าร่วม “บับเบิล” ที่มีการบังคับใช้มาตรการเข้มงวด

ส่วนนักกีฬาจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัควีน หรือถูกกักตัวเป็นเวลา 21 วัน ก่อนเดินทางเข้าสู่จีน และก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ทางการปักกิ่งได้เริ่มฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับประชาชนในพื้นที่แล้ว

มีรายงานว่า การระบาดของโควิดรอบล่าสุดในจีน เชื่อมโยงกับคู่รักสูงอายุคู่หนึ่ง ที่อยู่ในกลุ่มนักท่องเที่ยว ทั้งคู่เริ่มการเดินทางในนครเซี่ยงไฮ้ ก่อนจะบินไปเมืองซีอาน, มณฑลกานซู่ และเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน

จีนใช้กฎหมายใหม่คุมเข้มชายแดน

สวิสอินโฟ รายงานว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จีนได้ผ่านกฎหมายใหม่เพื่อคุมเข้มพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางความขัดแย้งที่ยืดเยื้อกับอินเดีย รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการยึดครองอัฟกานิสถานของกลุ่มตอลิบาน และการระบาดของโควิดจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

กฎหมายว่าด้วยพรมแดนทางบกดังกล่าว ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีการจัดการด้านความปลอดภัยทางชายแดน เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม แต่การผ่านกฎหมายนี้สะท้อนให้เห็นว่า จีนมีความเชื่อมั่นในการจัดการพรมแดนมากขึ้น

จีนยังคงจับตาเพื่อนบ้านอย่างอัฟกานิสถานอย่างใกล้ชิด หลังกลุ่มตอลิบานกลับมามีอำนาจอีกครั้งเมื่อเดือนสิงหาคม เพื่อป้องกันการทะลักเข้ามาของผู้ลี้ภัย หรือกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่ข้ามมาเพื่อติดต่อกับชาวมุสลิมอุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์

บริเวณพรมแดนแถบเทือกเขาหิมาลัย ความขัดแย้งระหว่างทหารจีนกับทหารอินเดียปะทุขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2563

จีนยังใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อป้องกันโควิดจากนอกพรมแดน หลังมีการข้ามแดนอย่างผิดกฎหมายจากเมียนมาและเวียดนามในปีนี้ ส่งผลให้มณฑลทางตอนใต้ของจีนอย่างมณฑลยูนนานและเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น

นับเป็นครั้งแรกที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อ 72 ปีก่อน มีกฎหมายเฉพาะที่ระบุชัดถึงการปกครองและการป้องกันพรมแดนทางบก ระยะทาง 22,000 กิโลเมตร ร่วมกับ 14 ประเทศ ซึ่งรวมถึงรัสเซีย และเกาหลีเหนือ ด้วย

กฎหมายฉบับนี้ระบุว่า จะใช้มาตรการที่ได้ผลเพื่อปกป้องอธิปไตยในดินแดนและความมั่นคงของชายแดนทางบกอย่างเฉียบขาด

โดยกองทัพปลดปล่อยประชาชนและกองกำลังตำรวจแห่งประชาชนจีน มีหน้าที่ในการปกป้องชายแดนจากการบุกรุก, การล่วงล้ำ, การแทรกซึม และการยั่วยุ

กฎหมายฉบับนี้กำหนดด้วยว่า จีนสามารถปิดพรมแดนประเทศได้ หากเกิดสงครามหรือความขัดแย้งด้วยกำลังอาวุธในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งคุกคามต่อความมั่นคงชายแดนของจีน