ครม.เห็นชอบ เคาะประกันรายได้ ข้าว-มันสำปะหลัง-ข้าวโพด ปี 3 วงเงิน 2.7 หมื่นล้าน

ครม.เห็นชอบ เคาะประกันรายได้ ข้าว-มันสำปะหลัง-ข้าวโพด ปี 3 วงเงิน 2.7 หมื่นล้าน หลักการเป็นไปอย่างเดียวกับประกันรายได้แบบปีที่ 1 ปีที่ 2 ทุกประการ

วันที่ 25 ต.ค.64 เมื่อเวลา 13.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กรณีประกันรายได้ปี 3 ได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมครม.ไปแล้ววันนี้ทั้ง 3 ตัว คือ 1. ข้าว โดยจะประกอบด้วย ข้าว 5 ชนิด วงเงิน 18,000 ล้านบาท 2.มันสำปะหลัง วงเงิน 7,100 ล้านบาท และ 3.ข้าวโพด วงเงิน 1,900 ล้าน รวมทั้งหมดที่ประชุมเห็นชอบอนุมัติไป 27,000 ล้านบาท ซึ่งหลักการเป็นไปอย่างเดียวกับประกันรายได้ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพด แบบปีที่ 1 ปีที่ 2 ทุกประการ ปีนี้ถือเป็นปีที่ 3 สำหรับมันสำปะหลัง และข้าวโพด ขณะนี้ถือว่ามีราคาดี และมีราคาเกินรายได้ที่ประกัน อย่างมันสำปะหลัง วานนี้มีราคา กก.ละ 2.70 บาท ซึ่งประกันรายได้ที่ 2.50 บาท ถือว่ามีราคาสูงกว่ารายได้ที่ประกันไว้

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ส่วนข้าวโพดประกันรายได้ กก.ละ 8.50 บาท ขณะนี้มีราคา 9-10 บาท ถือว่าราคาสูงกว่ารายได้ที่ประกัน ยกเว้นข้าวที่มีราคาหย่อนลงมา เพราะอาจจะยังเกิดความไม่มั่นใจในเรื่องนโยบายว่าจะมีประกันรายได้หรือไม่ และจะมีมาตรการคู่ขนานที่จะมาช่วยสนับสนุนให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ สามารถที่จะรวบรวมข้าว และเก็บสต็อกข้าวไว้จะได้เงินช่วยเหลือตันละ 1,500 บาทหรือไม่

เพราะฉะนั้นวันนี้เมื่อที่ประชุมเห็นชอบชัดเจนแล้ว ก็สามารถเก็บรวมรวมข้าวได้และยังไม่จำเป็นต้องนำข้าวออกมาขายในยามที่ราคายังไม่ดี ซึ่งจะช่วยดึงราคาในตลาดให้สูงขึ้นได้ ขณะเดียวกันโรงสีที่ยังไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือดอกเบี้ยร้อยละ 3 หากรับซื้อข้าวเพื่อมาเก็บสต็อกไว้หรือไม่ วันนี้ก็ชัดเจนแล้ว และมีมติแล้ว เพราะฉะนั้นโรงสีก็จะได้รับความช่วยเหลือเรื่องภาระดอกเบี้ย 3% ทำให้สามารถรับซื้อจากเกษตรกรได้ในราคาที่ดีขึ้น และเก็บสต็อกไว้ได้ ซึ่งก็จะมีส่วนช่วยดึงราคาข้าวในตลาดให้ดีขึ้นจากมติ ครม. วันนี้

“การส่งออกข้าวถือว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้ดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เพราะอย่างน้อยที่สุดสามารถทำราคาแข่งกับตลาดได้ เนื่องจากค่าเงินบาทอ่อนลง ทำให้สามารถประมูลข้าวได้หลายล็อตในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ดังนั้นการส่งออกในครึ่งปีหลังก็จะมีตัวเลขที่น่าจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก และช่วยดึงราคาข้าวให้ดีขึ้นอีกช่วงหนึ่งด้วย”นายจุรินทร์ กล่าว