ยื่นร้องสถานทูตลาว สอบบั้งไฟพญานาค อาจเป็นกระสุนส่องแสง

แอดมินเพจดัง ยื่นหนังสือถึงสถานทูตลาว วอนขอตรวจสอบบั้งไฟพญานาค ชี้ทำสังคมไทยเข้าใจผิดมานาน อาจเป็นการยิงกระสุนส่องแสงจากฝั่งเพื่อนบ้าน

วันที่ 25 ต.ค.2564 นายสมภพ ขำสวัสดิ์ แอดมินเพจพิสูจน์บั้งไฟพญานาคนำหลักฐานเป็นรายชื่อหมู่บ้าน ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่บันทึกการเกิดบั้งไฟพญานาค มาเป็นหลักฐานยื่นให้สถานเอกอัครรัฐทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเพื่อให้สืบหาความจริงกรณีการเกิดบั้งไฟพญานาคเป็นการยิงกระสุนส่องแสงจากหมู่บ้านฝั่งลาว ซึ่งสร้างความเข้าใจผิดให้กับคนไทยมานานหลายสิบปี

นายสมภพกล่าวว่าทางเพจได้ตรวจสอบและสังเกตการณ์เรื่องนี้มานาน 10 ปี เก็บรวบรวมข้อมูลมาโดยตลอด โดยย้อนกลับไปเมื่อปี 2554 ขณะนั้นยังมีความเชื่อในเรื่องบั้งไฟพญานาค

ก่อนที่อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดังจะระบุว่ายังไม่มีใครเคยถ่ายภาพบั้งไฟขึ้นจากน้ำได้เลย จึงพยายามหาหลักฐานจากยูทูบ หรือช่องทางต่างๆ เพื่อมายืนยัน แต่หาอย่างไรก็ไม่เจอ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นภาพมืดๆ และมีลูกไฟขึ้นมาแต่ไม่สามารถบอกได้ว่ามาจากไหนกันแน่

กระทั่งถึงวันออกพรรษาในปี 2554 จึงตัดสินใจเดินทางไปดูบั้งไฟพญานาคด้วยตัวเอง โดยใช้กล้องถ่ายรูป DSLR เปิดหน้ากล้องไว้นานๆ เพื่อให้เห็นลูกไฟเป็นเส้น แต่ภาพที่ถ่ายได้กลับไม่ใช่ลูกไฟขึ้นจากน้ำ แต่ส่วนใหญ่ขึ้นมาจากฝั่งลาวทั้งนั้น โดยลักษณะคล้ายของแข็งและพุ่งขึ้นเป็นเส้นตรง

จากนั้นจึงเริ่มเฝ้าติดตามมาโดยตลอด และเปลี่ยนจุดชมบั้งไฟไปหลายๆ จุดหวังว่าจะเจอบั้งไฟขึ้นจากน้ำสักครั้ง โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก็นำโดรนมาใช้ถ่ายเพื่อหาหลักฐาน เป็นการตั้งกล้องจากฝั่งไทย

ตนพบว่าคลิปวิดีโอที่บันทึกได้นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นลูกไฟที่ปรากฎจากทางฝั่งลาวทั้งสิ้น ซึ่งไม่ใช่การยิงจากริมตลิ่ง แต่ยิงลึกลงไปในน้ำ โดยส่วนตัวเชื่อว่า บั้งไฟพญานาคเกิดจากฝีมือมนุษย์

ทั้งนี้ตัวเองได้ตระเวนไปตามหมู่บ้านไทยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งโขงเพื่อพิสูจน์หลายครั้ง ก็พบว่าฝั่งตรงข้ามของไทยซึ่งเป็นหมู่บ้านลาวนั้นมีหลายหมู่บ้านที่เชื่อว่ามีการยิงกระสุนแสงทำให้เกิดบั้งไฟพญานาค ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีเพื่อนไปถ่ายจากฝั่งลาว ก็ได้ไปอยู่ใกล้กับคนยิงปืนส่องแสง และยินเสียงการยิงกระสุนชัดเจนจึงรีบหนีออกมา

ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ต.คที่ผ่านมา ได้เดินทางไปวัดอาฮงในจ.บึงกาฬ จากการลงพื้นที่ สามารถนับลูกไฟได้ 2 ลูก เป็นลักษณะไฟแดงอมชมพู ซึ่งเกิดขึ้นจากฝั่งลาวเช่นกัน

ที่ผ่านมาแม้จะมีกระแสต่อต้านก็ไม่รู้สึกกังวลใจแต่อย่างใด เพราะมีการเชิญชวนให้พิสูจน์บั้งไฟพญนาค ตนก็คือคนหนึ่งที่อยากพิสูจน์การเกิดบั้งไฟพญานาคเช่นกัน

“ตนก็ไม่ได้ลบหลู่พญานาคแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการพิสูจน์ข้อเท็จจริงของการเกิดเหตุการณ์บั้งไฟพญานาคเท่านั้น”

ทั้งนี้ที่บริเวณหน้าสถานทูต มีตำรวจ สน.วังทองหลางดูแลความเรียบร้อยจำนวนหนึ่ง ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งว่าวันนี้สถานทูตปิด จึงนายสมภพจึงได้ยื่นหลักฐานกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ส่งต่อกับเจ้าหน้าที่สถานทูตในภายหลังต่อไป