ยังดิ้น! พม่าโวยอาเซียน ไม่เชิญร่วมซัมมิต – พรรคแนวร่วมทหาร จี้เปิดเจรจาฝ่ายต้าน

วันที่ 23 ต.ค. เอพี รายงานว่า กระทรวงต่างประเทศเมียนมาออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 22 ต.ค. แสดงความผิดหวังและปฏิเสธการตัดสินใจของอาเซียนที่ไม่เชิญผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา เข้าร่วมประชุมอาเซียนซัมมิตที่จะจัดในวันที่ 26-28 ต.ค.นี้

โดยระบุว่าเป็นการตัดสินใจที่ขัดต่อกฎบัตรอาเซียนและว่าประมุขของรัฐหรือรัฐบาลเมียนมามีสิทธิเต็มที่และเท่าเทียมในการเข้าร่วม

การตอบโต้ของคณะรัฐประหารเมียนมาเพิ่งปรากฏเป็นแถลงการณ์นับจากอาเซียนแถลงผลการตัดสินใจไม่เชิญนายพลอาวุโส มิน อ่อง ไหล่ ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. พร้อมระบุว่า อาเซียนจะเชิญตัวแทนจากเมียนมาที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองเข้าร่วมประชุมแทน ซึ่งปัจจุบันยังไม่ทราบว่าเป็นบุคคลใด

Myanmar armed forces chief Senior General Min Aung Hlaing (front L) arrives at the jetty during the inauguration of a new military coastguard in Yangon on October 6, 2021. (Photo by STR / AFP)

ด้านเอเอฟพีรายงานว่า นายนันดะร์ หล่า มินต์ โฆษกพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (ยูเอสดีพี) พรรคพันธมิตรทหารของพม่า กระตุ้นให้รัฐบาลทหารพม่าเปิดการเจรจากับฝ่ายต่อต้านรัฐประหาร ต้องพูดคุยกันเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนในประเทศ และว่ายากที่จะหาทางแก้หากสถานการณ์ยังดำเนินอยู่เช่นนี้

Prison officers and police gather near the entrance of Insein Prison in Yangon, Myanmar, Monday, Oct. 18, 2021. (AP Photo)

รัฐบาลทหารเผชิญกับความกดดันเพิ่มมากขึ้นให้กองทัพยุติการปราบปรามประชาชนนับตั้งแต่การยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 ก.พ. จนมีผู้เสียชีวิตกว่า 1,100 ราย และจับกุมผู้ประท้วงกว่า 8,000 ราย

“เมื่อนายพลอาวุโสมิน อ่อง ไหล่ เป็นผู้รับผิดชอบประเทศ รัฐบาลของท่านเป็นผู้ที่ควรรับผิดชอบในการทำให้การเจรจาเกิดขึ้นมากที่สุด ประชาชนจะถูกสังหารมากกว่านี้หากไม่มีการรับประกันชีวิตของผู้สมัครที่จะมาแข่งขันในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า” โฆษกพรรคยูเอสดีพีกล่าว ส่วนการเลือกตั้งที่รัฐบาลทหารอ้างว่าจะจัดขึ้นนั้นกำหนดไว้ในปี 2566

Myanmar’s junta chief Senior General Min Aung Hlaing, who ousted the elected government in a coup on February 1, presides an army parade on Armed Forces Day in Naypyitaw, Myanmar, March 27, 2021. REUTERS/Stringer

วันเดียวกัน นายทอม แอนดรูวส์ ทูตพิเศษสหประชาชาติด้านเมียนมา กล่าวด้วยความวิตกว่า วิตกอย่างยิ่งกับสถานการณ์ทางภาคเหนือและภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเมียนมาที่อาจเกิดการสังหารหมู่ หลังได้รับรายงานว่ามีกองกำลังทหารและอาวุธหนักเคลื่อนไหวยังทิศทางดังกล่าวแล้ว หวั่นใจว่าจะใช้ยุทธวิธีแบบเดียวกับที่เคยใช้กับชาวโรฮิงยาในรัฐยะไข่เมื่อปี 2559 และ 2560