‘สุชาติ’ รับข้อเสนอม็อบไทรอัมพ์ จ่อดึงเงินคืนภาษีบ.นายจ้าง มาเยียวยา โวไม่มีประเทศไหนทำดีกว่าไทย

สุชาติ ถกผู้เเทนแรงงาน 28 ต.ค.นี้ เล็งหารือสรรพากร ดึงเงินคืนภาษีนายจ้างบ.บริลเลียนท์ฯ เยียวยา พนง. ลั่นไม่มีประเทศไหนเยียวยาม็อบดีกว่าไทย

วันที่ 19 ต.ค.2564 จากกรณีเมื่อช่วงเช้า ตัวแทนสหภาพแรงงานไทรอัมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งประเทศไทย พร้อมพนักงานกว่า 100 คน จากบริษัท บริลเลียนท์ อัลไลแอนซ์ไทย โกลบอล จ.สมุทรปราการ ผู้ผลิตชุดชั้นในยี่ห้อดัง ที่ถูกนายจ้างเลิกจ้างโดยไม่บอกล่วงหน้า รวมตัวชุมนุมกัน ที่ถนนพิษณุโลก หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลและกระทรวงแรงงาน นำงบกลาง มาจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายให้กับผู้ใช้แรงงานกว่า 1,300 คน จำนวน 242 ล้านบาทนั้น

ต่อมาเวลา 11.45 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบฯ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ได้เจรจากับผู้แทนลูกจ้างบริษัท บริลเลียนท์ และตัวแทนสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ฯ จำนวน 8 ราย โดยนายสุชาติ กล่าวตอนหนึ่งว่า ข้อเรียกร้องที่ผู้ชุมนุม ขอให้นำงบกลางมาเยียวยา เพื่อทดแทนเงินชดเชยที่บริษัทนายจ้างต้องจ่ายให้กับลูกจ้างวงเงินรวมกว่า 242 ล้านบาทนั้น ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะระเบียบของการใช้งบดังกล่าวไม่ได้ระบุเอาไว้ ให้นำเงินดังกล่าวมาชดเชยแทนเอกชนได้

ทั้งนี้ ในวันที่ 28 ต.ค. ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมฯ ส่งตัวแทนมาหารือร่วมกับตน โดยตนจะเชิญตัวแทนสหภาพต่างๆ มาร่วมพูดคุยด้วย เพื่อตั้งคณะกรรมการหาทางออกร่วมกันที่กระทรวงแรงงาน

นายสุชาติ กล่าวว่า ส่วนการออกหมายจับนายจ้างว่ามีความคืบหน้าไปแล้วอย่างไรบ้าง ขอให้นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ ไปประสานกับผบ.ตร. ถึงความคืบหน้าในเรื่องคดี เพื่อติดตามจับนายจ้างมาดำเนินคดี เนื่องจากทางกลุ่มต้องการให้อายัดทรัพย์สินของนายจ้างไว้ก่อน นำมาชดเชยค่าเสียหาเยียวยาลูกจ้าง

ต่อมาเวลา 12.50 น. นายสุชาติ ได้กล่าวสรุปผลการประชุมต่อผู้ชุมนุม บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ว่า ผลการหารือได้ข้อสรุป 3 ข้อคือ 1.ได้ออกหมายจับนายจ้างแล้ว เป็นหน้าที่ของตำรวจเร่งรัดและติดตามความคืบหน้า พร้อมกับพิทักษ์ทรัพย์บริษัท บริลเลียนท์ฯ โดยในวันที่ 23 พ.ย. กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน จะเป็นตัวแทนนำเรื่องขึ้นส่งฟ้องศาล

2.วันที่ 28 ต.ค.นี้ จะประชุมกองทุน โดยเชิญตัวแทนสหภาพแรงงานมาหารือแนวทาง เป็นการประชุม 3 ฝ่ายประกอบด้วย นายจ้าง ลูกจ้างและข้าราชการ โดยก่อนประชุมวันที่ 28 ต.ค.นี้ ตนจะหารือกับกรมสรรพากร เพื่อให้ทราบถึงความคืบหน้าเรื่องข้อกฎหมายว่าจะนำเงินคืนภาษี 31 ล้านบาทของบริษัทดังกล่าว มาชดเชยเยียวยาได้หรือไม่ เนื่องจากเป็นเรื่องของกระทรวงต่อกระทรวง จะต้องพูดคุยกันก่อนตามข้อกฎหมาย

ยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ถ้าทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย ก็ยินดีช่วยแรงงาน ถ้าทำแล้วผิดกฎหมายไปเปลี่ยนบรรทัดฐานของกฎหมายก็ไม่ควรทำ

3.เรื่องการขอใช้งบกลางนั้น ไม่สามารถขอใช้ได้ทันที แต่ต้องตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาคุยว่าจะใช้ในข้อกฎหมายใดไปในทิศทางใด ฉะนั้น เราต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง และยืนบนกฎหมายประเทศไทยไปด้วยกัน เรื่องใดที่ตนทำได้จะทำให้ทันที ตนพร้อมช่วยทันที

ทั้งนี้ พี่น้องแรงงานทราบดี ตนเข้ามาทำงานในกระทรวงแรงงานกว่า 1 ปี ไม่เคยคิดว่าทุกคนเป็นคนนอก คิดว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกันมาตลอด ทุกคนก็รู้ว่าตนมีความจริงใจ บางครั้งอาจถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้างเป็นเรื่องของข้อกฎหมาย

จากนั้นผู้ชุมนุม ถามว่าในเมื่อทั่วโลกใช้กฎหมายแรงงานเดียวกัน แต่ทำไมการเยียวยาประชาชนของประเทศไทย จึงแตกต่างกับประเทศอื่น นายสุชาติ ย้อนถามว่า “มีประเทศไหน เยียวยาได้ดีกว่าประเทศไทย ช่วยบอกที” ก่อนจะเดินกลับมาทำเนียบรัฐบาล เพื่อประชุมครม.ต่อ