คดีที่ 12 ‘ป้าเป้า’ โดนแจ้งข้อหา ‘ฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน-กระทำการขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล ม.388’ หลังแก้ผ้าประท้วง คฝ.ระหว่างการชุมนุม #ม็อบ28กันยา

วันที่ 19 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ สน.นางเลิ้ง นางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือ “ป้าเป้า” อายุ 67 ปี เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก ในข้อหา “ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ” และ “กระทำการขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปิดเผยร่างกายหรือกระทำการลามกอย่างอื่น” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388

คดีนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา ป้าเป้า เข้าร่วมการชุมนุมกับ “กลุ่มทะลุฟ้า” และได้เปลื้องผ้าต่อหน้าแนวเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน ในระหว่าง “#ม็อบ28กันยา หยุดราชวงศ์ประยุทธ์” บริเวณแยกนางเลิ้ง นับเป็นคดีจากการชุมนุมทางการเมืองคดีที่ 12 แล้ว ที่ป้าเป้าถูกกล่าวหา

ตร.แจ้ง 2 ข้อหา “ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน” และ “เปลื้องผ้าต่อหน้าธารกำนัล”

หลังเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2564 ทางตำรวจนครบาล แถลงข่าวระบุว่าจะดำเนินคดีกับวรวรรณ โดยจนถึงปัจจุบัน ป้าเป้ายังไม่เคยเห็นหมายเรียกมาก่อน แต่ทางพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง แจ้งว่าได้ออกหมายเรียกไปแล้ว 2 ครั้ง และเตรียมจะออกหมายเรียกครั้งที่ 3 ก่อนจะไปขอออกหมายจับ ทำให้ ป้าเป้า และทนายความประสานงานเข้ารับทราบข้อหาในวันนี้

ป้าเป้า ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ. ชูเกียรติ ศรีจันทร์ รองสารวัตรสอบสวน สน.นางเลิ้ง ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนผู้แจ้งข้อกล่าวหา โดยระบุพฤติการณ์ว่าเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2564 เวลาประมาณ 16.00 น. “กลุ่มทะลุฟ้า” ได้นัดมวลชนรวมตัวกันชุมนุมที่บริเวณแยกนางเลิ้ง ประมาณ 150 คน เพื่อแสดงความเห็นต่างทางการเมือง และจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เพื่อเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง

ต่อมาเวลา ประมาณ 18.15 น. ในระหว่างที่มีการชุมนุมอยู่นั้นได้มีหญิงสูงวัย ทราบชื่อสกุลและที่อยู่ในภายหลัง คือวรวรรณ หรือ “ป้าเป้า” แซ่อั้ง ร่วมชุมนุมอยู่แยกบริเวณแยกนางเลิ้ง ได้แสดงกิจกรรมด้วยการเปลือยกายโดยไม่มีสิ่งใดปกปิดร่างกาย และเมื่อเปลือยกายแล้ว วรวรรณได้นอนลงไปกับพื้นถนนแล้วกางขาทั้งสองข้างออก ทําให้กลุ่มผู้ชุมนุมอื่นส่งเสียงเชียร์จากการกระทําของวรวรรณ

จากการสืบสวนพบว่า ป้าเป้า ได้มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เคลื่อนไหวทางการเมืองทุกครั้งในสถานที่ต่างๆ แต่การชุมนุมในครั้งนี้ การแสดงออกด้วยการเปลือยกายโดยไม่มีสิ่งใดปกปิดร่างกาย ซึ่งเป็นการกระทําที่ผิดกฎหมาย

พนักงานสอบสวนได้แจ้ง 2 ข้อกล่าวหา ต่อ ป้าเป้า ได้แก่ ร่วมกันฝ่าฝืนข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เรื่องการห้ามชุมนุมมั่วสุมในสถานที่แออัดฯ (โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท) และกระทําการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกํานัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทําการลามกอย่างอื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 388 (โทษปรับไม่เกิน 5 พันบาท)

ด้าน ป้าเป้า ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะให้การเพิ่มเติมเป็นหนังสือภายในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 โดยได้ลงลายมือชื่อไว้ในบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา

หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ ป้าเป้า ได้รับการปล่อยตัว โดยไม่ถูกควบคุมตัวไว้ เนื่องจากมาปรากฎตัวต่อพนักงานผู้รับมอบตัวตามหมายเรียก และพนักงานสอบสวนได้นัดส่งตัวต่ออัยการแขวงดุสิตในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564

ทั้งนี้ ป้าเป้า ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงสาเหตุการแสดงออกดังกล่าว ว่าสะท้อนถึงการต่อสู้เพื่อเรียกร้องความถูกต้องของประชาชน ซึ่งไม่มีอะไรจะสู้แล้ว มีแต่ตัวเปล่าๆ ไม่ได้มีอาวุธใดจะสู้กับเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน ซึ่งเข้าสลายการชุมนุมของประชาชน

จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน คดีนี้นับเป็นคดีจากการชุมนุมทางการเมือง คดีที่ 12 แล้ว ที่ป้าเป้าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวหาในรอบปีที่ผ่านมา และเธอยังคงเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองต่างๆ อย่างต่อเนื่อง