พาณิชย์ เผยภาพความสำเร็จปี 64 หลังปั้นนักส่งออกรุ่นใหม่กว่า 219 ราย เสริมความเข้มแข็ง และดันยอดส่งออกโตเพิ่มขึ้น

กรุงเทพฯ 14 ตุลาคม 2564 – กระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือ NEA ได้ดำเนินการตามนโยบายของท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยภาพรวมความสำเร็จ หลังเดินหน้าเต็มกำลังปั้นผู้ประกอบการรุ่นใหม่จากระดับภูมิภาคให้ได้มีโอกาสก้าวสู่ตลาดต่างประเทศผ่านโครงการพัฒนาผู้ส่งออกรุ่นใหม่ : Young Exporter from Local to Global : (YELG)  ปีที่ 3 ภายใต้แนวคิด Global Export Connect สินค้าไทย บินไกล ไร้พรมแดน เจาะกลุ่มผู้ประกอบการจาก 3 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคเหนือ จำนวน 219 ราย หลังร่วมเรียนรู้และเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ สะท้อนภาพความเข้มแข็งของผู้ประกอบการ และเกิดการต่อยอดทางเศรษฐกิจและการส่งออกเพิ่มขึ้น

            นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการช่วยพัฒนาศักยภาพทางการตลาดให้กับภาคการผลิตฐานราก ด้วยการช่วยอบรมให้ความรู้ ช่วยหาตลาดทั้งในและต่างประเทศ และให้ความสำคัญในการสร้างและพัฒนาผู้ส่งออกรุ่นใหม่ ในระดับภูมิภาคให้มีศักยภาพและความพร้อมทั้งในตลาดต่างประเทศ จึงมอบหมายให้สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) ดำเนินโครงการพัฒนาผู้ส่งออกรุ่นใหม่ Young Exporter from local to Global (YELG) ขึ้นอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยได้ดำเนินโครงการดังกล่าวมาแล้วเป็นปีที่ 2 ใน 5 ภูมิภาค 9 จังหวัด ประกอบด้วย ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร นครสวรรค์ ภาคตะวันตก ราชบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ ภาคเหนือ ลำปาง เชียงราย และภาคใต้ กระบี่ สงขลา ซึ่งมีผู้สนใจและเข้าร่วมโครงการมากกว่า 1,800 ราย ซึ่งช่วยสร้างและพัฒนาผู้ส่งออกรุ่นใหม่ในระดับภูมิภาคกว่า 900 ราย และช่วยสร้างมูลค่าการส่งออกมาแล้วกว่า 316 ล้านบาท

ด้าน นายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ตามนโยบายของกรมฯ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ จึงได้ดำเนินโครงการพัฒนาผู้ส่งออกรุ่นใหม่ Young Exporter from Local to Global (YELG) ขึ้นเป็นปีที่ 3 ภายใต้แนวคิด Global Export Connect  สินค้าไทย บินไกล ไร้พรมแดน ภายใต้หลักสูตรการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ ส่วนภูมิภาค 3 ภูมิภาค ประกอบด้วย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคเหนือ โดยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 เป็นการอบรมสัมมนา เป็นเวลา 1 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ และบุคคลทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรม ได้สร้างแรงบันดาลใจ สร้างความพร้อมให้ผู้ประกอบการ ผลักดันให้เกิดการพัฒนาและต่อยอดสินค้าไทยให้สามารถส่งออกสู่ตลาดโลกได้

ระยะที่ 2 เป็นการคัดเลือกเฉพาะผู้ประกอบการจากระยะที่ 1 ที่มีคุณสมบัติเป็นนิติบุคคล ผู้จดทะเบียนพาณิชย์ หรือหัวหน้ากลุ่มวิสาหกิจชุมชน ที่มีผลิตภัณฑ์และมีศักยภาพในการส่งออก เพื่อเข้ามารับการฝึกอบรมในเชิงปฏิบัติการแบบเจาะลึกพื้นฐานด้านการส่งออกอย่างต่อเนื่อง 3 วัน โดยจัดให้มีเนื้อหาและความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาสินค้าเพื่อการส่งออก พร้อมสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการในแต่ละพื้นที่ร่วมกันเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจในอนาคต นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้รับคำแนะนำการทำธุรกิจการส่งออกในรูปแบบตัวต่อตัวจากผู้เชี่ยวชาญในห้อง Export Clinic ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากผู้ประกอบการ

โครงการพัฒนาผู้ส่งออกรุ่นใหม่ Young Exporter from local to Global (YELG) ในปีนี้ มีผู้เข้าร่วมโครงการในระยะแรกกว่า 530 ราย และร่วมฝึกปฏิบัติการเชิงลึกในระยะที่ 2 จำนวน 219 ราย ซึ่งผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการสามารถนำความรู้ไปพัฒนาต่อยอดธุรกิจโดยมีการขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังต่างประเทศเพิ่มจำนวนมูลค่าการส่งออกกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้ได้มีการดำเนินโครงการทั้งหมด 3 ภูมิภาคโดยดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว ซึ่งได้สะท้อนภาพความเข้มแข็งของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ และเกิดการต่อยอดทางเศรษฐกิจและการส่งออกเพิ่มขึ้น  

ซึ่งแต่ละภูมิภาค แต่ละจังหวัดที่ทางสถาบันได้ดำเนินการจัดโครงการพัฒนาผู้ส่งออกรุ่นใหม่ Young Exporter from local to Global (YELG) นั้น ได้มีการคัดเลือกสุดยอดผู้ประกอบการในแต่ละภาค เพื่อเข้าไปมีส่วนช่วยในการส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ ผ่านการทำ Story Telling และสัมภาษณ์บทความเผยแพร่ไปยังสื่อมวลชน โดยสุดยอดผู้ประกอบการในแต่ละภาคที่ได้รับคัดเลือก มีดังนี้ สุดยอดผู้ประกอบการตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คุณฐิติรัตน์ ศักดาปรีชา  จากบริษัท บริบูรณ์ฟาร์ม จำกัด ผู้จัดทำอาหารเสริมอโวคาโดซอฟเจล เพื่อช่วยเสริมฮอร์โมนในผู้ที่ขาด  ตัวแทนภาคใต้ คุณภาณุวัตร กิ้มหิ้น บริษัท อินโนโฟ จำกัด แบรนด์  MJ Mudjai plantbasedfood และตัวแทนภาคเหนือ คุณปรัชญา วงษ์สุนทร จากบริษัท ดราก้อน ฟู้ด โปรดักส์ จำกัด แบรนด์ ศิวิไลซ์

“สถาบัน NEA มีวิสัยทัศน์สำคัญในการสร้างนักธุรกิจระหว่างประเทศที่มีความเข้มแข็ง และพร้อมที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ทัดเทียมกับระดับนานาชาติ ผ่านยุทธศาสตร์ Sharing Knowledge ซึ่งเป็นการแบ่งปันองค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่สามารถเสริมภูมิคุ้มกันให้ผู้ประกอบการปรับตัวได้ทันกับบริบทโลก และยุทธศาสตร์ดังกล่าวยังเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน หรือ Sharing Economy โมเดลธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่สูงและทำให้ผู้ประกอบการหลายรายอยู่รอดมากที่สุดในปัจจุบัน นอกจากนี้ NEA ยังเชื่อมั่นว่าคนไทยทุกคนคือทรัพยากรที่ทรงคุณค่า จึงเร่งจัดทำหลักสูตรที่จะช่วยเสริมความรู้ทางด้านการค้าเพื่อนำไปประกอบธุรกิจ รวมถึงเพื่อเป็นกลยุทธ์ในการสร้างมูลค่าในช่องทางต่าง ๆ ในอนาคต ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเรียนรู้หลักสูตรได้ทั้งช่องทางออฟไลน์ อีเลิร์นนิ่ง รวมถึงเข้าร่วมกิจกรรมอื่น ๆ ของสถาบันได้ทุกโอกาสอีกด้วย”