ปธน.พม่า ยืนกรานไม่ลาออก ปูดถูกนายพลขู่บังคับก่อนยึดอำนาจ

สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายวิน มินต์ ประธานาธิบดีเมียนมา ผู้ถูกรัฐประหารออกจากตำแหน่ง ขึ้นให้การครั้งแรกต่อศาล เปิดเผยว่า ก่อนที่คณะทหารจะก่อรัฐประหารวันที่ 1 ก.พ. 2564 ได้มาหาตน และบอกให้ลาออก ถ้าตนไม่ยอม จะต้องตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง

ปธน.พม่าใจเพชร

นายวิน มินต์ ให้การดังกล่าวขณะขึ้นศาลที่กรุงเนปยีดอว์ พร้อมนางออง ซาน ซู จี ผู้นำเมียนมา เมื่อวันอังคารที่ 11 ต.ค. หลังถูกฟ้องในข้อหายุยุงปลุกปั่น หลังจากส่งจดหมายถึงสถานทูตประเทศต่างๆ เรียกร้องอย่าให้รับรองคณะรัฐประหาร ซึ่งทั้งสองให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา

นายขิ่น หม่อง จอ ทนายจำเลย เปิดเผยคำให้การของ นายวิน มินต์ ว่า เช้าวันที่ 1 ก.พ. ก่อนรัฐประหาร คณะทหารระดับสูงมาหาตน มาบอกตนยอมลาออก โดยให้อ้างเหตุผลว่าสุขภาพไม่ดี แต่ตนไม่ยอม ในเมื่อยังมีสุขภาพดี

“คณะทหารขู่ด้วยว่า ถ้าไม่ยอม ประธานาธิบดีจะต้องเดือดร้อนเป็นอันตราย แต่ท่านก็ยืนกรานปฏิเสธ บอกว่า ยอมตายเสียดีกว่าจะยอมจำนน” ทนายจำเลยเผย และว่า หลังจากนั้น นายวินต์ มิน และนางซู จี ถูกหน่วยคอมมานโดควบคุมตัว

เมียนมาตกอยู่ในภาวะอันตราย นับตั้งแต่ทหารเข้าแทรกแซงการเมือง ไม่ยอมให้นางซู จี ตั้งรัฐบาลใหม่ ทั้งที่กวาดชัยชนะถล่มทลาย กระทั่งกระบวนการยื้อมานาน 3 เดือน จึงเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร ความรุนแรงแผ่ไปทั่วประเทศ จากการปราบปรามประชาชนที่ต่อต้านรัฐประหาร ส่วนเศรษฐกิจชะงักงันเป็นอัมพาต

มินต์ ฉ่วย รองประธานาธิบดี ที่เป็นทหารเก่า สาบานตนเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. นาทีที่กองทัพยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน คณะรัฐประหารไม่เปิดเผยว่า มินต์ ฉ่วยขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีต่อจากนายวิน มินต์ ด้วยขั้นตอนทางกฎหมายได้อย่างไร