เผยแพร่ |
---|
สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ตรงกับวันชาติไต้หวัน ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ผู้นำไต้หวัน กล่าวตอบโต้ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนที่มุ่งเปิดทางรวมชาติกับไต้หวัน ว่าจะไม่ยอมก้มหัวให้กับการบีบบังคับของจีน และจะปกป้องวิถีชีวิตบบประชาธิปไตยไว้ให้ได้ ขณะที่รัฐบาลจีนแถลงประณามสุนทรพจน์ของผู้นำไต้หวันในทันที
รัฐบาลจีนแถลงประณามผ่านสำนักงานกิจการไต้หวัน ว่าเป็นถ้อยคำที่จุดชนวนความขัดแย้งและบิดเบือนข้อเท็จจริง
สำหรับสุนทรพจน์ที่ น.ส.ไช่กล่าวฉลองวันชาติ ที่ด้านหน้าทำเนียบประธานาธิบดี กรุงไทเป ไม่ได้เอ่ยชื่อผู้นำจีนโดยตรง แต่ยืนยันว่าไต้หวันจะเสริมการป้องกันตนเองเพื่อรับประกันว่าไม่มีใครบังคับให้ไต้หวันยอมรับเส้นทางที่จีนบีบ เพราะเป็นเส้นทางที่ไม่มีทั้งเสรีภาพและประชาธิปไตย และประชาชน 23 ล้านคนไม่มีอำนาจในการปกครองตนเอง
“เราหวังที่จะลดความตึงเครียดลง และจะไม่กระทำการอย่างมุทะลุ แต่จะไม่มีภาพหลอนลวงตาเลยที่ว่าชาวไต้หวันจะยอมโอนอ่อนให้กับความกดดัน” ผู้นำหญิงของไต้หวันกล่าว
หลังจากไต้หวันเผชิญทั้งความกดดันด้านการเมืองและการทหารที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อบีบให้ยอมรับการปกครองของจีน รวมถึงการที่กองทัพปลดแอกประชาชนแห่งชาติจีนส่งเครื่องบินรบเข้าเขตป้องกันทางอากาศของไต้หวันแล้วหลายครั้ง
ล่าสุดนับจากวันชาติจีน 1 ต.ค. เป็นต้นมา มีเครื่องบินรบโฉบเข้าเขตดังกล่าวติดต่อกัน 4 วันเกือบ 150 ลำ เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน จีนส่งเครื่องบินรุกล้ำเข้ามาในเขต 380 ลำ ส่วนปีนี้ยังไม่ทันจบปี รุกเข้ามาแล้วเกิน 600 ลำ
น.ส.ไช่ชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีมาแล้ว 2 สมัย และทำให้จีนขุ่นเคืองไม่น้อย เพราะมองว่าน.ส.ไช่วางให้ไต้หวันเป็นประเทศที่เป็นเอกราชไปแล้ว ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของจีน แม้จะไม่มีแนวโน้มว่าจะประกาศตัวเช่นนั้นอย่างเป็นทางการ
สำหรับการฉลองวันชาติไต้หวัน นอกจากการกล่าวสุนทรพจน์ของน.ส.ไช่ว่าไต้หวันจะปกป้องตนเองแล้ว กระทรวงกลาโหมยังจัดแสดงขบวนอาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับการป้องกันประเทศ มีทั้งเครื่องบินรบ รวมถึงฝูงบินเอฟ-16 ฝูงบินอินดิจีนัส ดีเฟนส์ และ ฝูงบินมิราจ 2000 ตามด้วย รถถัง ซีเอ็ม32 และรถบรรทุกติดตั้งระบบยิงขีปนาวุธ เป็นต้น