ลูกนัทแต่งหญิง-เปลือยตัวตน non-binary ‘ยิ่งชีพ’ ชวนส่งเสียง กดดัน แก้ ม.1448 เพื่อสมรสเท่าเทียม

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก และแนวร่วม จัดกิจกรรมคาร์ม็อบ ขบวนกี V.4 “เปลือย” จากสีลมซอย 2 มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยจะมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และปราศรัยเปลือยปัญหาที่ซุกใต้พรมในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เวลา 16.24 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ “อีเอ็ม แม็กซี่” ทำการแสดงเต้นประกอบเพลง

จากนั้น นายสิรภพ อัตโตหิ หรือแรปเตอร์ และ น.ส.ธารารัตน์ หรือเฟิร์น รับหน้าที่พิธีกร ชวนผู้ชุมนุมส่งเสียง “ปล่อยเบนจา (น.ส.เบนจา อะปัญ) ปล่อยนักโทษการเมือง ยกเลิก 112”

เวลา 16.36 น. “ชาร์ล็อต” เฟมินิสต์ปลดแอก ภาคใต้ กล่าวปราศรัยประเด็นนอน-ไบนารี่ ว่าคือตัวตนทางเพศที่แตกต่าง ไม่ได้อยู่ในกรอบของชายและหญิง และสังคมไม่มีสิทธิมากำหนดว่าเป็นชาย หรือหญิง ตอนเด็กๆ ต้องเผชิญการตั้งคำถาม และการจับจ้องมากมายว่าคือเพศอะไร บางวันเป็นผู้ชาย วันหนึ่งมองเป็นผู้หญิง ทั้งหมดทั้งมวลมาจากโครงสร้างของประเทศนี้ ที่มองไม่เห็นตัวตน และยอมรับเรา

“ระบบการศึกษาที่ไม่มีเรื่องเพศศึกษา หนำซ้ำยังมองว่าผิดปกติ ต้องได้รับการรักษา เราก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง เป็นเพศที่มีอยู่และสวยงาม แต่การที่รัฐไทยและรัฐธรรมนูญมองไม่เห็น คือการละเลยสิทธิผู้มีความหลากหลายทางเพศ แล้วแบบนี้ประเทศเราจะก้าวหน้าได้อย่างไร

ถ้าลูกหลาน เพื่อนของเราไม่ถูกยอมรับ ในอนาคตจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ต้องเศร้า นอนร้องไห้อีกกี่ครั้ง อยากให้เราเป็นคนสุดท้ายที่มาพูดถึงสิทธิของ non-binary เราใส่ชุดสีดำมาเพื่อไว้อาลัยให้กับตัวตนเรา เราจึงจะเปลือยให้ทุกคนได้เห็น เรามีความสวยงาม ไม่ใช่แค่สีดำ ขาว หรือเทา” ชาร์ล็อตกล่าว

จากนั้น ‘ชาร์ล็อต’ ทำการถอดเสื้อคลุมออก เผยให้เห็นชุดสตรีที่มีสีสัน สวมหุ้มร่างภายใต้เสื้อคลุมสีดำ

ต่อมา เวลา 16.44 น. นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ หรือเป๋า ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) กล่าวปราศรัยถึงความหลากหลายทางเพศในมุมกฎหมาย โดยยกตัวอย่างประเทศที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม เปิดรับความรักหลากหลายแตกต่างทางเพศ

นายยิ่งชีพกล่าวว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียม ปี 2548 แก้ไข 1 ครั้ง แต่แก้เรื่องอายุ ไม่ใช่เพศ เราจะช้ากว่าโลกไปนานเท่าไหร่ ซึ่งแม้ร่างจะมาจ่ออยู่ในวาระก็ไม่หยิบขึ้นมา เราจะไปหวังพึ่งสภาในการแก้ไขกฎหมายสมรสเท่าเทียมไม่ได้เลย ซึ่งกฎหมายหลายร้อยฉบับเป็นอุปสรรคในเรื่องสิทธิ เช่น การรับมรดก สวัสดิการ การลดหย่อนภาษี หรือแม้แต่โปรโมชั่นของสายการบิน ฯลฯ ที่จะไปถึงคู่สามี-ภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมาย ปัญหาอยู่ที่ต้นตอ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1448 เพื่อสิทธิการสมรสเท่าเทียม

“นี่เป็นครั้งแรกที่ ม.1448 ถูกท้าทายโดยระดับรัฐธรรมนูญ หากมาตรา 1448 ขัดรัฐธรรมนูญก็ต้องแก้กฎหมายอื่นๆ แต่หากศาลรัฐธรรมนูญเห็นชอบว่าถูกต้องตามรัฐธรรมนูญแล้ว เรื่องนี้จะขับเคลื่อนยากไปอีก แต่สุดท้ายเรื่องนี้ถูกเลื่อนออกไปอีก เพราะตัดสินใจไม่ได้ โอกาสนี้ที่เลื่อนออกไป เราจึงต้องเปล่งเสียงว่ามันสำคัญขนาดไหน ถ้าส่งเสียงได้ดังพอ คำวินิจฉัยนี้ในเดือนธันวาคม ไทยจะเป็นประวัติศาสตร์ของเอเชียที่ต่อสู้เพื่อเรื่องนี้ได้

2 เดือนข้างหน้า มีเสียง เหตุผล และโอกาสเท่าไหร่ พูดให้ดังเท่าที่ท่านจะพูดได้” นายยิ่งชีพกล่าว

ก่อนผู้ชุมนุมร่วมเปล่งเสียง “สมรสเท่าเทียม” 3 ครั้ง

ด้านนายสิรภพ หรือแรปเตอร์ กล่าวว่า อีกไม่นานเฟมินิสต์ปลดแอกจะเสนอเข้าชื่อ แก้ไขกฎหมาย ม.1448 เพื่อสร้างสมรสเท่าเทียม โดยผู้ชุมนุมส่งเสียงรับปากว่าจะร่วมลงชื่อ

จากนั้น เวลา 17.02 น. เอ้ The voice และสุทธิภัทร สุทธิวาณิช หรือพัด นักร้องนำวง Zweed n’ Roll ร่วมร้องประสานเสียง เพลงช่วงเวลา และ dream ทั้งนี้ เมื่อเวลา 17.10 น. ขณะที่ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือลูกนัท แต่งกายด้วยชุดแฟนซี เป็นเดรสสีดำ-เงิน พร้อมสวมมงกุฎและถุงมือ เข้ามาปรบมือ และชู 3 นิ้ว ขณะดนตรีบรรเลง สร้างความฮือฮาให้กับผู้ชุมนุม